กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่เป็นที่ยอมรับในธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม รายได้ที่สม่ำเสมอจากการขายไฟฟ้าและสาธารณูปโภค และการสนับสนุนจากผู้ร่วมทุนชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้ การให้อันดับเครดิตยังคำนึงถึงความผันผวนของธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวในปัจจุบัน
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหมายว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานภาพที่แข็งแกร่งในธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเอาไว้ได้ และคาดว่าธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทจะสามารถสร้างรายได้ที่แน่นอนซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของรายได้จากการขายที่ดิน แม้ว่าเงินกู้รวมของบริษัทจะยังคงสูงอยู่ในช่วง 2 ปีข้างหน้า แต่ก็คาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะต่ำกว่า 60% ในระยะปานกลาง
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของประเทศไทยซึ่งก่อตั้งในปี 2531 โดยตระกูลวินิชบุตรและกลุ่มซูมิโตโม ณ เดือนมิถุนายน 2551 ตระกูลวินิชบุตรถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 25.1% ในขณะที่ Sumikin Bussan Corporation ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกลุ่มซูมิโตโมถือหุ้น 22.2% บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารสวนอุตสาหกรรม 2 แห่งในจังหวัดอยุธยาและระยอง ในช่วงปี 2548-2550 บริษัทมียอดขายพื้นที่ในสวนอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ย 548 ไร่ต่อปี โดยรวมพื้นที่ขายสะสม ณ เดือนมีนาคม 2551 อยู่ที่ 5,068 ไร่ พื้นที่ขายที่เหลืออีกประมาณ 4,200 ไร่ถือว่ามากพอที่จะรองรับการพัฒนาในอนาคตเมื่อพิจารณาจากอัตราการขายที่ดินเฉลี่ยปีละ 550 ไร่
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะยังเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าในสวนอุตสาหกรรมโรจนะอยุธยาซึ่งดำเนินการภายใต้ชื่อ บริษัท โรจนะ พาวเวอร์ จำกัด กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 122 เมกะวัตต์และจะถึงระดับ 267 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2551 เพื่อให้ทันกับอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายที่ดินและลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม โดยบริษัทขายไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และส่วนที่เหลือขายให้แก่ลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม ในช่วงปี 2548-2550 รายได้จากการขายไฟฟ้าและน้ำคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ของยอดขายรวมของบริษัทและคิดเป็น 50% ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีรวมของบริษัท
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2551 บริษัทขายที่ดินในสวนอุตสาหกรรมได้ 138 ไร่ ซึ่งสูงกว่ายอดขายในช่วงเดียวกันของปี 2550 ประมาณ 30% ในขณะที่ยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศในไตรมาสแรกของปี 2551 อยู่ที่ 1,192 ไร่ ซึ่งเกือบเป็น 2 เท่าของยอดขายที่ดินในช่วงเดียวกันของปี 2550 ส่วนรายได้จากการขายไฟฟ้าของบริษัทนั้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 3,850 ล้านบาทเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าในสวนอุตสาหกรรม
การขยายธุรกิจสู่โครงการพัฒนาคอนโดมิเนียมของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าพอใจ การขายและการก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการแรกในกรุงเทพฯ แล้วเสร็จโดยต้นทุนการก่อสร้างไม่บานปลาย บริษัทยังได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ขนาด 993 ห้องในประเทศจีนมูลค่าโครงการประมาณ 3,300 ล้านบาทด้วย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 บริษัทสามารถขายห้องชุดได้ประมาณ 33% นอกจากนี้ บริษัทยังขยายธุรกิจสู่การผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อการส่งออก ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะเริ่มผลิตสุราขาวญี่ปุ่นในเดือนกันยายน 2551 โดยมีกำลังการผลิตเต็มที่ 2 ล้านลิตรต่อปี อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของโครงการคอนโดมิเนียมในประเทศจีนและการขยายสู่ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ถึงแม้ว่าในปัจจุบันประเทศไทยจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ภาพรวมของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในระยะปานกลางถึงระยะยาวยังคงดีอยู่ โดยนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงทำเลที่ตั้งที่ดีของประเทศไทยยังคงเป็นสิ่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ
บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (Rojana)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable