กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ก.ไอซีที
นายวินัย อยู่สบาย ผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า ปัจจุบันเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่เนื้อหาหรือภาพที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะ ในลักษณะของภาพลามกอนาจารนั้น มีที่มาทั้งจากต่างประเทศและเว็บไซต์ในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงฯ ไม่ได้ นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวและได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กับเว็บไซต์เหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง โดยเว็บไซต์ซึ่งมีที่มาจากต่างประเทศจะพิจารณาและใช้วิธีขออำนาจศาลเพื่อปิดกั้นข้อมูลไม่ให้เผยแพร่ในประเทศ ส่วนเว็บไซต์ในประเทศ กระทรวงฯ จะดำเนินการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อจับกุมผู้ให้บริการเว็บไซต์เหล่านั้น ซึ่งล่าสุดได้มีการจับกุมและดำเนินคดีกับเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่สิ่งลามกอนาจาร อาทิ nisitgirl.com munzad.com รวมทั้งเว็บไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกับการโหลดสื่อ คือ ทั้งเนื้อหา ภาพ เพลงและวีซีดีลามกอนาจารต่างๆ อีกหลายเว็บ “การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารผ่านเว็บไซต์นั้น ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 อนุ 4 ที่ระบุโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการจะดำเนินการกับเว็บไซต์หรือเว็บเพจใดใดนั้น อาจจะตรวจสอบพบโดยภาครัฐ หรือมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบ และขอความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แล้วจึงยื่นคำร้องพร้อมแสดงหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และขอให้มีคำสั่งระงับการแพร่หลายนั้น ซึ่งเมื่อมีคำร้องต่อศาลแล้ว ศาลจะทำการไต่สวนพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ยื่นคำร้อง เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าการกระทำผิดนั้นมีความผิดจริงตาม พ.ร.บ.ฯ หรือไม่ หากศาลไต่สวนและมีความเห็นว่าเว็บไซต์นั้นได้ กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฯ ศาลก็จะมีคำสั่งให้ระงับเว็บไซต์นั้น ซึ่งการระงับสามารถทำได้ทั้งโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการแพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์เหล่านั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีเว็บไซต์ที่กระทำการละเมิดกฎหมายอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น นอกจากกระทรวงฯ จะขอความร่วมมือจากประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาในการแจ้งร้องเรียน เมื่อพบเห็นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมหรือกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์อื่นๆ เพื่อดำเนินคดีแล้ว ยังอยากขอความร่วมมือจากพ่อแม่ผู้ปกครอง และสถานศึกษา นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ป้องกันเว็บไซต์และเกมที่ไม่เหมาะสมหรือผิดศีลธรรมจากบุตรหลานและนักเรียน ด้วยการใช้โปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ 2008 เพื่อป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งยังสามารถกำหนดเวลาการเล่นเกมออนไลน์ กำหนดการใช้งานคอมพิวเตอร์ และกำหนดการใช้งานโปรแกรมต่างๆ โดยสามารถที่จะระบุว่าให้ผู้ใช้แต่ละคนสามารถใช้งานหรือไม่อนุญาตให้ใช้งานในโปรแกรมนั้นๆ ได้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวมอย่างยั่งยืน รวมทั้งลดความรุนแรงในการนำเสนอข้อมูลและภาพที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย ซึ่งโปรแกรมไอซีที เฮ้าส์คีปเปอร์ 2008 นี้ สามารถนำไปติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ หากพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือสถานศึกษาใดสนใจสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้ฟรีที่ www.icthousekeeper.com หรือ http://hk.mict.go.th“ นายวินัย กล่าว