กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--พับบลิค ฮิต
มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน “โครงการหลวง ๓๙” พบกับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ปี ๕๑ ผลผลิตจากฝักวานิลลา - มะเดื่อฝรั่ง
และการเนรมิตพื้นที่ทั้งศูนย์ฯ กว่า ๕, ๐๐๐ ตารางเมตร ให้กลายเป็นสวนบนดอย ระหว่าง ๗ — ๑๗ ส.ค.นี้
มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัดงาน “โครงการหลวง ๓๙” (Royal Project 39) เนรมิตเต็มพื้นที่ภายในศูนย์การค้าฯ กว่า ๕,๐๐๐ ตารางเมตร ให้กลายเป็นสวนบนดอยอันงดงามตระการตา ตกแต่งด้วยกนกนารี พร้อมผลผลิตไฮไลท์คุณภาพดี ฝักวานิลลา และมะเดื่อฝรั่ง ที่นำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งรวบรวมผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์ และโครงการต่างๆ มาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ ระหว่างวันที่ ๗-๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๑ โดยได้รับ พระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นประธานเปิดงาน บริเวณ ชั้น ๓ โซน Eden ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี กอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เฝ้าฯรับเสด็จ
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ทรงกล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า ตลอดเวลาเกือบ 4 ทศวรรษแล้ว โครงการหลวงอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือราษฎรทางภาคเหนือให้สามารถพัฒนาพื้นที่ทำกิน ความสำเร็จของโครงการหลวงล้วนมีที่มาจากวิสัยทัศน์ และการทุ่มเทพระวรกายของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว จนโครงการหลวงได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จนในปี ๒๕๔๕ โครงการหลวงได้รับรางวัล Raymon Magsaysay และในปี ๒๕๔๗ ได้รับรางวัล Colombo Plan Prize for Opium Eradication
สำหรับปีนี้ทางมูลนิธิโครงการหลวง และคณะผู้จัดงานรู้สึกปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นประธานเปิดงานโครงการหลวง ๓๙ โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวผลผลิตจากฝักวานิลลา และ มะเดื่อฝรั่ง หรือลูกฟิก(Fig) ผลผลิตไฮไลท์เด่นของโครงการหลวงที่ใช้เวลาศึกษาวิจัยมากว่า ๒๕ ปี เพื่อนำมาปลูกในเมืองไทย ซึ่งเป็นไฮไลท์พิเศษที่นำมาแสดงในงานนี้โดยเฉพาะ พร้อมด้วยปลาเทร้าท์ และกุ้งก้ามแดง ผลิตภัณฑ์ที่ได้กระแสตอบรับที่ดีมากในงานโครงการหลวงปีที่แล้ว และผลผลิตใหม่จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์อีก ๑๖ ชนิดที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ ได้แก่ เช่น ผลิตภัณฑ์จากปลาเทร้าท์ Sun dry Tomato เนยแข็ง อาร์ติโชค์ดองในน้ำเชื่อม + เครื่องเทศ แยมรูบาร์บ ผลิตภัณฑ์จากโรงงานแปรรูป เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ สามารถติดตามได้ที่นิทรรศการวิชาการมูลนิธิโครงการหลวงซึ่งมีเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจให้ชมมากมาย อาทิ เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, พระราชวงศ์กับมูลนิธิโครงการหลวง, คุณค่าทางอาหารของผัก ผลไม้ที่จำหน่ายในงานจากการเพาะปลูกที่ดีสู่ EUREPGAP และ GLOBALGAP, วานิลลาของมูลนิธิโครงการหลวง, กุ้งก้ามแดงและไข่ปลาคาร์เวียแดง, การท่องเที่ยวบนพื้นที่โครงการหลวง และกูร์เม่ทัวร์, มอสเซลเลลล่าชีส, ความสำเร็จของป่าชาวบ้าน, แฝกกับการอนุรักษ์ดินและน้ำ, ประเพณีชนเผ่า, โครงการขยายผลของมูลนิธิโครงการหลวงไปยังพื้นที่อื่นๆ
กอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า ในปีนี้ ทางศูนย์การค้าฯ ได้เนรมิตพื้นที่ทั้งหมดภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กว่า ๕, ๐๐๐ ตารางเมตร มาตกแต่งด้วยพรรณไม้นานาชนิดจากโครงการหลวง อาทิ กนกนารี วานิลลา ลาเวนเดอร์ ไฮเดรนเยียร์ กุหลาบ หน้าวัว เยอร์บีรา เป็นต้น ให้กลายเป็นสวนบนดอยอันงดงามตระการตา จึงทำให้โครงการหลวงในปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าปีก่อน
ความน่าสนใจของงานโครงการหลวง ๓๙ นอกจากจะมีการเปิดตัวผลิตผลใหม่ และการนำผลิตภัณฑ์จากโครงการส่วนพระองค์แล้ว ยังเป็นการรวบรวมโครงการต่าง ๆ มาจัดจำหน่าย อาทิ
โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา กับผลิตภัณฑ์ ชุดของขวัญความสุขแบบพอเพียงและ ผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายเกลียวทอง,โครงการมูลนิธิสายใจไทย กับกระเป๋าผ้าไหม, กระเป๋าจักรสาน, แจกันกระเบื้องวาดลายดอกไม้ ฯลฯ มาจัดจำหน่าย,ร้านภูฟ้า ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ปีชวด ซึ่งเป็นสินค้าใหม่มาจัดทำผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร โครงการจุฬาภรณ์ ที่มีผลิตภัณฑ์เซรามิคแฮนด์เมดที่สวยงามจากฝีมือชาวบ้าน มาจัดจำหน่ายในงานนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่บรรยากาศการจัดงาน ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายโซนและตกแต่งอย่างสวยงามในแบบต่าง ๆ เช่น
โซน Eden ชั้น ๑ Farmer Market ไลฟ์สไตล์ซูเปอร์มาร์เกต จำหน่ายผลผลิตทั้งหมดของโครงการหลวงส่งตรงจากบนดอย จำหน่ายในราคาสุดพิเศษ ในบรรยากาศสวนบนดอย โดยมีผลิตผลมากมายให้เลือกสรรจับจ่าย ทั้งผักสด ผลไม้สด ไม้ดอก ไม้กระถาง พร้อมทั้งของแห้ง อาหารแปรรูป และสินค้าพืชไร่ ชาจีนกาแฟ สินค้าหัตถกรรม ดอกไม้แห้ง และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากมัลเบอร์รี่ น้ำมัลเบอร์รี่ และมัลเบอร์รี่สกัดเข้มข้น ผลิตภัณฑ์ใหม่จากดอยคำที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมด้วยสารอาหารเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และผลิตภัณฑ์จากดอยคำอีกมากมาย อาทิ แยมผลไม้สูตรไม่มีน้ำตาล ผลไม้อบแห้ง น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ สมุนไพรชง ผักสด ผลไม้สด ของแห้ง อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์สมุนไพรแปรรูป ไม้ดอกไม้กระถาง ดอกไม้แห้ง มุมชากาแฟ มุมจำหน่ายหนังสือ ซีดี นิทรรศการเพื่อเปิดตัว พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง) ซึ่งดำเนินการตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ที่เข้าชมพิพิธภัณฑ์ “ได้ความรู้ และเกิดความรัก” ในองค์พระเจ้าแผ่นดิน
นอกจากนี้ยังมีบูธไปรษณีย์ไทยที่มาให้บริการทำแสตมป์ที่ระลึกงานโครงการหลวง ที่สามารถถ่ายภาพตนเองมาทำเป็นแสตมป์คอลเลคชั่นส่วนตัว ๓ รูปแบบ คือ ฝักวานิลลา,มะเดื่อฝรั่ง และโครงการหลวง ๓๙ ในราคาเพียงคอลเลคชั่นละ ๑๒๐ บาทเท่านั้น
โซน Eden ชั้น ๒ จาก Skywalk เป็นซุ้มเข้างานที่ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และนิทรรศการพระ-ราชกรณียกิจ ส่วนบริเวณโซนเดียวกัน ชั้น ๓ เป็น Royal Pavilion ที่ประทับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ เปลือกไม้ รากไม้ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ
ส่วนบริเวณ โซน Atrium ชั้น ๑ เป็นพื้นที่ออกร้านขายสินค้าสำหรับโครงการส่วนพระองค์ อาทิ ศูนย์ศิลปาชีพ ได้แก่ Royal Silk Road ซุ้มขายผ้าไหมที่ยาวที่สุด, นิทรรศการผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จาก The Support Foundation, ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ผ้าจากชาวเขา ช่างสิบหมู่, เซรามิคจาก ศูนย์ศิลปาชีพ พร้อมทั้งนิทรรศการ
บริเวณชั้น ๒ โซน Atrium ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในงานนี้ คือ มุมจำลองบรรยากาศ ความสวยงาม ตกแต่งไปด้วย ดอกไม้ ต้นไม้ ของโครงการหลวงมาให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัส และ เก็บภาพความประทับใจ เรียกได้ว่า ยกดอยลงมาไว้กลางศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เลยทีเดียว
ทางด้าน โซน Beacon ชั้น ๑ จัดแสดงในส่วนของโครงการส่วนพระองค์ของพระบรมวงศานุวงศ์ ๘ โครงการด้วยกันคือ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร้านภูฟ้า สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ร้านศิลปาชีพ ๙๐๔ โครงการทูบีนัมเบอร์วัน, มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก
สำหรับในส่วนของ โซน Central Court ซึ่งเป็นใจกลางของศูนย์การค้าและมีคนเดินผ่านไปมามากที่สุด จัดรูปแบบเป็น The Royal Giant Tree ต้นไม้ยักษ์ เหลืองอร่ามไปด้วยดอกราชพฤกษ์ และตกแต่งด้วยจอ LCD นำเสนอพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ รวมถึงนำเสนอเรื่องราวสารคดีต้นไม้ และ สารคดีโลกร้อน เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวประวัติความเป็นมาของการจัดงานให้ประชาชนได้รับทราบ
อีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ The Royal Gourmet บริเวณ โซน Forum ชั้น ๑ จุดจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มจากผลผลิตของโครงการหลวง เรื่องราวของอาหารคาวหวานที่ทำมาจากผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวง พร้อมทั้งร้านอร่อยจากทั่วประเทศที่คัดสรรมาอย่างดี อาทิ ร้าน Royal Project Ice Cream and Cake,Royal Project Premium Line,กัลปพฤกษ์,อ่างขาง,ดอยคำ,Centara Hotel, Nai Lert Park , Le Beaulieu, Cedar, Sadoya, Lemoncello, Le nortre ฯลฯ และพิเศษปีนี้ได้รับเกียรติจาก มร. มิเชล บอริเย่ (Mr. Michel Breliere, Executive Chef,) พ่อครัวใหญ่ จาก โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ที่มีประสบการณ์กับโรงแรมชั้นนำกว่า ๒๗ ปี ใน ๕ ทวีป มาร่วมทำเมนูพิเศษ “ตับห่านทอดกับมะเดื่อฝรั่งกลิ่นวนิลาและซอสไวน์แดง” หรือ Pan-fried Foie Gras Figs in a Vanilla red Wine Reduction ที่นำมะเดื่อฝรั่ง และ วานิลลามาร่วมประกอบอาหาร เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมชิมและลิ้มรสความอร่อยทุกวัน
ตลอดงานทางคณะผู้จัดงานได้เตรียมอุปกรณ์การรับประทานอาหาร ซึ่งผลิตจากชานอ้อย สามารถย่อยสลายได้ง่าย เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อนอีกด้วย
พบครั้งแรกกับการเปิดตัวผลผลิตจากฝักวานิลลา และมะเดื่อฝรั่ง หรือลูกฟิก (Fig) และความยิ่งใหญ่ในการเนรมิตพื้นที่ทั้งหมดภายในศูนย์การค้าฯให้กลายเป็นสวนบนดอยอันงดงามตระการตา สุดยิ่งใหญ่ พร้อมเลือกซื้อผลผลิตและผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างครบครัน ในงาน “โครงการหลวง ๓๙” (Royal Project 39) ระหว่างวันที่ ๗ — ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๑ เต็มพื้นที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ The Bangkok Lifestyle Landmark
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
เพียงเพ็ญ พรายแสง ๐๘๑ ๘๖๐ ๘๒๒๕
ศิศิรา ดิศกุล ๐๘๙ ๘๙๖ ๖๙๙๙
ชาลิสา จิรตั้งมั่นเจริญ ๐๘๔ ๑๖๕ ๒๘๒๘
บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด โทร. ๐๒ ๒๕๒ ๕๖๙๙