กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ตลท.
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังร่วมพิธีเปิดบริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด (สาขาสำนักสวนมะลิ) และลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมมือพัฒนาและผลิตบทวิจัยระหว่างสถาบันวิจัยนครหลวงไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันนี้ (8 สิงหาคม 2551) ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ และธนาคารพาณิชย์ในการเพิ่มจำนวนผู้ลงทุน ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์นั้นคือ การสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์เปิดสาขาของบริษัทที่ตั้งอยู่ในธนาคารพาณิชย์ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ลงทุน ในขณะเดียวกันเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้ลงทุนที่เป็นลูกค้าของธนาคารทำธุรกรรมได้รวดเร็ว ทั้งบริการซื้อขายหลักทรัพย์ และตราสารการลงทุน รวมทั้งให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน
“การเปิดสาขาของบริษัทหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในธนาคารพาณิชย์ เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจ ในยุคปัจจุบันที่ต้องการลดต้นทุนในการเปิดสาขาของบริษัทหลักทรัพย์ ในขณะที่ยังสามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพแก่ลูกค้าทั้งการรับคำสั่งซื้อขาย การให้คำแนะนำข้อมูลด้านการลงทุน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มอบมุมความรู้ตลาดทุน (SET Corner) และอุปกรณ์รับชมสถานีโทรทัศน์เพื่อเศรษฐกิจและการลงทุนมันนี่ แชนแนล แก่บริษัทหลักทรัพย์ที่เปิดสาขาที่ธนาคารพาณิชย์ด้วย เพื่อให้เป็นศูนย์กลางข้อมูลความรู้ด้านการเงินและการลงทุนแก่ผู้ลงทุนที่มาใช้บริการ” นางภัทรียากล่าว
กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือในวันนี้ นอกจากการสนับสนุนให้มีการเปิดเปิดสาขา ของบริษัทหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในธนาคารพาณิชย์แล้ว ด้านตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้มีความร่วมมือกับสถาบันวิจัย นครหลวงไทย (SCRI) ในการพัฒนาและผลิตบทวิจัย รวมทั้ง จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ด้านการลงทุน อาทิ การให้ข้อมูลหลักทรัพย์จดทะเบียนใน mai ที่สาขาของธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทยในรูปแบบสัมมนากลุ่มย่อย และการนำผู้ลงทุนเยี่ยมชมกิจการบริษัทจดทะเบียน โดยมีนักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยฯ ร่วมให้ข้อมูลด้วย
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารนครหลวงไทยเล็งเห็นประโยชน์ของการเปิดสาขาบริษัทหลักทรัพย์ในธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากสามารถให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจรและสมบูรณ์แบบแก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งในตลาดเงิน และตลาดทุน ซึ่งจะทำให้ธนาคารเป็นสถาบันการเงินชั้นแนวหน้า
“ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่ได้เปิด Mini Branch นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 500 ราย มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 50 ล้านบาท โดยเฉลี่ยสาขาละประมาณ 4 ล้านบาทต่อวัน และมีจำนวน Cross Sell เทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวม คิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนสาขา Mini Branch ทั้งหมด นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายจาก Mini Branch เทียบกับปริมาณการซื้อขายของทั้งบริษัทคิดเป็นร้อยละ 7 — 10”
นายสาธิต วรรณศิลปิน กรรมการผู้จัดการ สายงานนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือกับสถาบันวิจัยนครหลวงไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของบริษัทหลักทรัพย์หลวงไทยในการพัฒนา และผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ สำหรับให้บริการแก่ผู้ลงทุน เพื่อให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ โดยเฉพาะหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ผู้สนใจสามารถติดตามอ่านบทวิจัยเหล่านี้ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ www.mai.or.th หรือที่เว็บไซต์ บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย www.scis.co.th และคอลัมน์ mai Corner ในหนังสือพิมพ์ SCIB Wealth Journal เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน 2551 รวมทั้ง ทางสถานีโทรทัศน์เพื่อเศรษฐกิจและการลงทุน มันนี่ แชนแนล ในรายการ Wealth Focus ซึ่งออกอากาศเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ เวลา 21.00-22.00 น. ทางทรูวิชั่นส์ ช่อง 80
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร 0-2229-2797
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ