กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ปภ.
กรมป้องกันฯ ประสานจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยระดมสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม และนำเครื่องจักรกลกวาดล้างทำความสะอาดถนน ส่วนจังหวัดที่คาดว่าจะเกิดน้ำท่วม ให้เร่งวางกระสอบทราย ในพื้นที่เสี่ยง พร้อมจัดเตรียมถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เรือท้องแบน และอุปกรณ์ที่จำเป็น สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น วีเซนเต ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยมีจังหวัดที่ได้รับความเสียหาย รวม 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย เลย ลำปาง ศรีสะเกษ อุตรดิตถ์ แพร่ อ่างทอง กรุงเทพฯ ลำพูน และพะเยา สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ กรมป้องกันฯ จึงได้แจ้งให้จังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้ และจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ดำเนินการบูรณาการหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และอปพร. ในพื้นที่เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะการบริการด้านถุงยังชีพ น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และภายหลังจากที่น้ำลดระดับแล้ว ให้ระดมเครื่องจักรกลของหน่วยงานในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการล้างทำความสะอาดดินโคลนบนถนน อาคารบ้านเรือนของประชาชน และจัดเก็บขยะที่คั่งค้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
นายสุนทร กล่าวต่อไปว่า เนื่องจากในขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,851 ลบ.ม. / วินาที และไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 จำนวน 148 ลบ.ม./วินาที เมื่อรวมกัน เท่ากับ 1,999 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ทางกรมป้องกันฯ จึงได้ประสานให้จังหวัดที่ยังไม่ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลาง ดำเนินการป้องกันน้ำท่วม โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่วางกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันพนังกั้นน้ำในบริเวณที่คาดว่าจะประสบอุทกภัย หากสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ในขั้นรุนแรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน ให้รีบอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยโดยด่วน พร้อมทั้งจัดเตรียมถุงยังชีพ น้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง เรือท้องแบน อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น ไว้สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจักได้แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบทุกระยะ หากพื้นที่ใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ทาง สายด่วน 1784 กรม ปภ. ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อกรมป้องกันฯ จักได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร มูลนิธิ อาสาสมัคร เข้าช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป--จบ--