กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม
บทนำ
ไม่ใช่แค่ในเกาหลี แต่ในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆในเอเชียด้วยที่กว๊ากเจยังสร้างชื่อให้ตัวเองจากผลงานเรื่อง “My Sassy Girl” (2003) ซึ่งเรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์และกินใจ บวกกับความสำเร็จล้นหลามของ My Sassy Girl ทำให้หนังได้รับการรีเมคเป็นฉบับฮอลลีวู้ดเรียบร้อยแล้ว และวันนี้ผู้กำกับชื่อดังจากเกาหลีคนนี้ภูมิใจเสนอ “Cyborg She” ผลงานภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรกในชีวิตของเขา
“Cyborg She” ผลงานเรื่องใหม่ล่าสุดของเขาถือเป็นครั้งแรกที่กว๊ากร่วมงานกับนักแสดงและทีมงานชาวญี่ปุ่น แต่เขาเป็นคนเขียนเรื่องราวเอง เช่นเดียวกับใน My Sassy Girl, Windstruck และ Classic และเป็นคนเลือกนักแสดงเองจากรายชื่อที่ยาวเป็นหางว่าว คนหนึ่งคือ ฮารุกะ อายาเสะ ผู้รับบทเป็นหุ่นยนต์สาวแสนสวย ส่วนอีกคนหนึ่งคือนักแสดงหนุ่มดาวรุ่ง เคอิสึเกะ โคอิเดะ ผู้รับบทหนุ่มขี้อายแต่น่ารัก แน่นอนว่ากว๊ากจะทำให้ทั่วโลกหลงเสน่ห์ของอายาเสะและโคอิเดะ เช่นเดียวกับที่ทำให้ ฉ่อนจีฮยอน และ ชาแตฮุน แจ้งเกิดใน My Sassy Girl มาแล้ว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานที่บันเทิงที่สุดของกว๊าก ฉากแอ๊คชั่นของนางเอกที่เป็นหุ่นยนต์สาวล้ำยุค และการเสียสละเพื่อช่วยชีวิตแฟนหนุ่ม รวมทั้งฉากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ใจกลางเมือง จะเป็นฉากที่ผู้ชมทั่วโลกต้องจดจำ นอกจากนี้งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิคขั้นสูงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจของหนังเรื่องนี้ ที่สำคัญความรักระหว่างสาวน่ารักผู้กล้าหาญกับหนุ่มน้อยที่ตกหลุมรักและป้วนเปี้ยนอยู่ข้างเธอ และเรื่องราวกินใจที่จะทำให้ผู้ชมน้ำตารื้นอย่างคาดไม่ถึง ก็ถือเป็นงานถนัดของกว๊าก เรียกได้ว่าผลงานใหม่ของเขาเรื่องนี้มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะทำให้คนดูหลงรัก ทั้งยังมีองค์ประกอบใหม่ๆที่กระตุ้นต่อมจินตนาการของผู้ชมด้วย
เรื่องย่อ
อยู่ๆวันหนึ่ง สาวน่ารักก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าผม จากนั้นอีกหนึ่งปี ผมก็เจอผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนสาวคนนั้น คนที่ผมตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้จะได้อยู่กับเธอแค่วันเดียว เธอยังน่ารักเหมือนเดิม แต่ดูเลื่อนลอย เธอบอกความลับกับผมว่า เธอเป็นหุ่นยนต์มาจากอนาคต คำถามผุดขึ้นในหัวผมเต็มไปหมด เธอใช่ผู้หญิงที่ทิ้งผมไปเมื่อปีก่อนหรือเปล่านะ? แต่ยังไงผมก็ตัดสินใจออกเดทกับเธอ เธอขี้โวยวายนิดหน่อย พฤติกรรมของเธอทำให้ผมเจอปัญหาหลายครั้ง แต่ผมก็รักเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เธอคนนี้แหละที่ช่วยชีวิตผมจากอันตราย เมื่อก่อนชีวิตผมน่าเบื่อสุดๆ มีเธอเข้ามาในชีวิต ผมถึงมีความสุข แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นหุ่นยนต์ที่ไม่รู้สึกอะไรกับผมเลย ทั้งๆที่ผมรู้สึกผูกพันกับเธอมากขึ้นทุกวัน อุปสรรคนี้มันเจ็บปวดเกินกว่าที่คนอ่อนแออย่างผมจะรับไหว ผมจึงบอกเลิกกับเธอ ช่วงที่เธอจากไป เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นที่กลางใจเมือง ทันใดนั้น เธอก็มาช่วยชีวิตผม ผู้หญิงที่ผมพยายามจะลืมยอมเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องผม ผู้หญิงคนนี้อยู่เคียงข้างผมเสมอ เธอยิ้มให้ผม วินาทีนั้น ผมนึกถึงรอยยิ้มของผู้หญิงคนที่ผมพบเมื่อปีก่อน ในที่สุดหุ่นยนต์สุดที่รักของผมก็มีความรู้สึก ส่วนผมก็ค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง เมืองกำลังถล่ม แต่อนาคตอันเหนือความคาดหมายกำลังรอเราสองคนอยู่
ฮารุกะ อายาเสะ
อายาเสะเกิดเมื่อปี 1985 ที่เมืองฮิโรชิม่า และแจ้งเกิดด้วยบทนางเอกใน “Crying out Love, in the Center of the World” ฉบับละครโทรทัศน์ ต่อมาเธอได้รับคำชมล้นหลามจากบทเป็นสาวหูหนวกในภาพยนตร์เรื่อง “River of First Love” จากนั้นก็มีผลงานละครโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “Byakuyako” (2006) หรือ “Hero” (2006) และได้รับรางวัล Elanodor สาขานักแสดงหน้าใหม่ประจำปีด้วย นอกจากใบหน้าที่งดงามสดใสแล้ว ความสามารถด้านการแสดงของเธอ ยังทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงที่น่าจับตาที่สุดคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่น ในละครเรื่องเรื่องล่าสุด“Hotaru no Hikiari” (2007) เธอได้รับบทนำเป็นครั้งแรก และได้คะแนนสงสารจากสาวญี่ปุ่นไปเต็มๆ ทำให้ชื่อเสียงเธอยิ่งโด่งดังขึ้นอีก ส่วนผลงานในปี 2008 ของเธอคือ “The Magic Hour” และ “ICHI”
เคอิสึเกะ โคอิเดะ
โคอิเดะเกิดเมื่อปี 1984 ที่กรุงโตเกียว เขาแจ้งเกิดในภาพยนตร์ของ คาซายูกิ อิซัตสึ เรื่อง “We Shall Overcome, Somebody” (2005) โคอิเดะเป็นนักแสดงดาวรุ่งคนหนึ่งของญี่ปุ่น เขามีผลงาที่หลากหลาย ทั้งภาพยนตร์, ละครโทรทัศน์ และโฆษณา ทั้งยังรับบทที่หลากหลายด้วย ไม่ว่าจะเป็น บทผู้บริหารหนุ่มในละครเรื่อง “Sweet Proposal” (2006) หรือหนุ่มแอฟโฟรสุดฮาในละครเรื่อง “Nodame Cantabile” (2006) เขามักท้าทายตัวเองด้วยบทบาทใหม่ๆ และพิสูจน์ความสามารถในผลงานภาพยนตร์อย่าง “First Love” (2006), “Kisaragi” (2007), “Calling You” (2007) และละครเรื่อง “When You Wish Upon a Caw” (2007) โคอิเดะคือนักแสดงรุ่นใหม่ชื่อดังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีประสบการณ์ ในผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “Sky Of Love” (2007) เขารับบทเป็นนักศึกษาที่คอยอยู่เคียงข้างนางเอกเสมอ
กว๊ากแจยัง — กำกับ/เขียนบท
กว๊ากแจยังเกิดเมื่อปี 1959 และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Kyunghee ผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขาคือ “Watercolor Painting on a Rainy Day” (1989) ที่ทำให้เกิดกระแสหนังวัยรุ่นแบบฮิตถล่มทลายในเกาหลี ทั้งยังทำให้เขาได้รับรางวัล Golden Shooting ครั้งที่ 14 สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ผลงานสานต่อความสำเร็จของเขาคือ “Autumn Journey” (1991) และ “Watercolor Painting on a Rainy Day” (1993) หลังจากหายไป 8 ปี เขาก็กลับมาพร้อมผลงานเรื่อง “My Sassy Girl” (2001) ที่มีผู้ตีตั๋วเข้าไปชมกว่า 5 ล้านคน และทำให้เขาได้รับรางวัล Deajong หรือตุ๊กตาทองเกาหลีมาครอง “My Sassy Girl” ทำลายสถิติรายได้ไม่เพียงในญี่ปุ่น แต่ยังฮิตถล่มทลายไปทั่วเอเชีย ความสำเร็จของมันทำให้ฮอลลีวู้ดสนใจ และซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมคใหม่ภายใต้การควบคุมงานสร้างของบริษัท Dream works ผลงานเรื่องอื่นๆของเขาอย่าง “Classic” (2003) ก็สะเทือนหัวใจผู้ชมด้วยเรื่องราวความรักสุดซึ้งจากรุ่นสู่รุ่น ส่วน “Windstruck” (2004) ก็ทุบสถิติหนังเกาหลีทุกเรื่องที่เคยฉายในญี่ปุ่น นอกจากนี้ เขายังโชว์ฝีมือการเขียนบทด้วยในภาพยนตร์เรื่อง “The Romantic President” (2002), “Addicted” (2002) และ “Daisy” (2006) ผลงานเรื่องต่อไปของเขาคือ “My Mighty Princess”
Cyborg She อำนวยการสร้างโดย ฮิเดมิ ซาตานิ จาก April Story
และ มาตาอิจิโร่ ยามาโมโต้ จาก Azumi และ Azumi 2: Death or Alive