BWG ชี้เข้าซื้อ GETCO เกิด synergy ทั้งคู่ พื้นฐานแกร่งขึ้น-อัตราการทำกำไรไม่ลด-ลุ้นคว้างานประมูลสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลโคราช 418 ลบ.

ข่าวทั่วไป Thursday August 14, 2008 14:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน
"สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ"นำ BWG รุกขยายธุรกิจครั้งสำคัญ เข้าเทคโอเวอร์ GETCO ถือหุ้น 100% สยายปีกสู่ธุรกิจบริการบำบัดน้ำเสียโดยเป็นผู้ได้รับสัมปทานบำบัดน้ำเสียให้แก่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งยังเหลืออายุสัมปทานอีก 21 ปี 4 เดือน โดยใช้วิธีเพิ่มทุนใหม่ 57 ล้านหุ้น แลกหุ้นสัดส่วน 35.625 หุ้น ใหม่ของบริษัท ต่อ 1 หุ้นของ GETCO มั่นใจดีลนี้จะก่อให้เกิด synergy ระหว่างธุรกิจของทั้งสองฝ่ายเพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน พร้อมกันนี้ยังมีลุ้นคว้างานประมูลโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครราชสีมา มูลค่า 418 ล้านบาท เหตุได้รับแจ้งว่า BWG เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่มีคุณสมบัติมีสิทธิเสนอราคางานประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะเสนอราคางานประมูลดังกล่าวในวันที่ 18 ส.ค.นี้
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/2551เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 320 ล้านบาท เป็น 377 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 57 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนหุ้นสามัญของ บริษัท โกลบอล เอ็นไวรอนเมนทอล เทคโนโลยี จำกัด
( GETCO ) พร้อมทั้งจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวแก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจำนวน 3 ราย คือบริษัท ไทรทอง พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้รับจัดสรรจำนวน 42,750,000 หุ้น, บริษัท ไทรทอง ธุรกิจ จำกัด ได้รับจัดสรรจำนวน 10,687,500 หุ้น และ บริษัท ออลสไปซ์ เคเทอร์ริ่ง จำกัด ได้รับจัดสรรจำนวน 3,562,500 หุ้น โดยมีราคาเสนอขายเท่ากับ 7 บาทต่อหุ้น
“ก่อนหน้านี้ BWG เพิ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิสัมปทานเตาเผาขยะอุตสาหกรรมจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในการเป็นผู้บริหารจัดการโครงการเตาเผาขยะอุตสาหกรรม ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูเป็นระยะเวลา 20 ปี โครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปี 2551 นี้ ดังนั้นการเข้าซื้อ GETCO จะก่อให้เกิด synergy ระหว่างธุรกิจของ BWG และ GETCO และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ดีลนี้ผมถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจมาก เพราะว่า BWG ยังสามารถรักษาอัตราการทำกำไรเอาไว้ได้ ในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวและราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว แต่เพราะผลจากรายได้ของธุรกิจการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ ที่เปิดดำเนินการในปี 2551 และการปรับอัตราค่าบริการซึ่ง ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจถึงความจำเป็นในการปรับอัตราค่าบริการ นอกจากนี้ BWG เองยังพยายามลดต้นทุนด้านการขนส่งโดยการลดสัดส่วนการว่าจ้างรถขนส่งจากภายนอกลง ซึ่งในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะมี แผนการขยายกิจการ ตลอดจนโครงการสัมปทานเตาเผา และสัมปทานระบบบำบัดน้ำเสียรองรับ"
เขากล่าวต่อว่า บริษัท โกลบอล เอ็นไวรอนเมนทอล เทคโนโลยี จำกัด หรือ GETCO เป็นบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของ BWG ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์ในการประกอบธุรกิจในหลายๆ ด้าน คือทำให้ BWG จะเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมในวงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร จัดการและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศ ภาพพจน์ดังกล่าวจะเป็นภาพที่ดี และในส่วนของธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกัน ในส่วนของระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางของนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่ง GETCO มีอายุสัมปทานเหลืออีก 21 ปี 4 เดือนที่ BWG จะเข้าไปบริหารและประกอบธุรกิจนั้น จะรับน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมใน นิคมประมาณ 400 โรงงาน ซึ่งนอกจากจะมีการปล่อยน้ำเสียเข้าสู่ระบบ
น้ำเสีย ส่วนกลางของนิคมอุตสาหกรรม แล้ว ยังเป็นผู้ก่อกำเนิดของเสียในรูปอื่น เช่น กากของเสียที่อันตรายและไม่อันตรายรวมอยู่ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่าง BWG และโรงงาน จะทำให้ กลุ่ม BWG มีโอกาสที่จะก่อรายได้จากการให้บริการรับฝังกลบ หรือรับเผากากของเสียในเตาอุณหภูมิสูงได้
ประการสำคัญ จากประสบการณ์อันยาวนานในการประกอบธุรกิจในแวดวงการให้บริการและการจัดการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม BWG จะใช้นโยบายในการบริหารและประกอบการ GETCO โดยยึด หลักการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มศักยภาพและรายได้จากการให้บริการ และการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับองค์กร โดยมีวิธีการดังนี้ คือ 1.ใช้บุคลากรและอุปกรณ์บางอย่างร่วมกับในเครือ BWG เช่น การใช้ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ น้ำและบุคลากรร่วมกัน เป็นต้น 2.เพิ่มศักยภาพของระบบกำจัดน้ำเสีย โดยพิจารณาหาแนวทางร่วมกันระหว่าง GETCO,BWG และนิคมอุตสาหกรรม ทางวิชาการในการปรับปรุงน้ำที่ออกจากระบบการผลิตภายในโรงงานก่อนปล่อยเข้าสู่ระบบน้ำเสียส่วนกลาง ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะเพิ่มศักยภาพ ของระบบกำจัดน้ำเสีย และลดค่าใช้จ่าย และ 3. ปรับปรุงแนวท่อให้สอดคล้องกับนโยบายของนิคมอุตสาหกรรมบางปู ที่จะทำการขยายพื้นที่ให้สร้างโรงงานเพิ่มมากขึ้น แนวทางดังกล่าวสามารถรับน้ำเสียจากโรงงานที่จะสร้างขึ้นใหม่ในอนาคตไม่น้อยกว่า 5,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2546 - 2547 ได้เกิดวิกฤตการขาดแคลนน้ำใช้ในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งทาง ภาคตะวันออก ทำให้นิคมหลายแห่งมีความกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกในอนาคต จึงได้ทำการศึกษา เพื่อเตรียมแผนงานในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวหลายวิธี เช่น การหาแหล่งน้ำดื่มเพิ่มเติม ปรับเปลี่ยนน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืด และปรับสภาพน้ำที่ผ่านกระบวนการใช้แล้วก็นำกลับมาใช้อีกเป็นน้ำอุปโภค วิกฤตการณ์การขาดแคลนน้ำอาจเกิดขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งหาก BWGได้รับการร้องขอจากการนิคมแห่งประเทศไทยแล้ว ก็จะพิจารณานำแนวทางในการปรับสภาพน้ำเสียที่ผ่านการบําบัดแล้ว โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถนําน้ำดังกล่าวกลับมาเป็นน้ำ
อุปโภคได้ไม่น้อยกว่าวันละ 10,000 - 20,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันซึ่งอาจเป็นแหล่งเพิ่มรายได้ให้กับ BWG ได้อีกเช่นกัน เขากล่าวต่อว่า นอกจากการเข้าเทคโอเวอร์ในกิจการของ GETCO เพื่อขยายศักยภาพด้านการให้บริการบำบัดน้ำเสียแล้ว BWG มีแผนด้านการเพิ่มฐานการให้บริการในธุรกิจฝังกลบก็มีแนวโน้มดีขึ้นด้วย โดยล่าสุดบริษัทได้รับแจ้งผลความคืบหน้าการเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลนครนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา มูลค่างาน 418 ล้านบาท โดยเทศบาลนครนครราชสีมาได้แจ้งว่า BWG เป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่มีคุณสมบัติมีสิทธิเสนอราคางานประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบริษัทจะเสนอราคางานประมูลดังกล่าวในวันที่ 18 สิงหาคมนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 28.84 ล้านบาท ลดลง 23.74% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2550 และงวด 6 เดือนปี 2551 มีกำไรสุทธิ 36.87 ล้านบาท ลดลง 30.96% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกัน ในปีก่อน สาเหตุที่ลดลง เนื่องจากการที่บริษัทย่อยคือ บจ.อัคคีปราการ ซึ่งได้รับสัมปทานเข้าไปบริหารเตาเผากากอุตสาหกรรม และปรับคุณภาพของเสียของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเตาเผากากอุตสาหกรรมมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทยนั้น บริษัทย่อยนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการ จึงมีค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมการของบริษัทย่อยจำนวน 22.98 ล้านบาท ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายขายและบริหารรวมเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีสาระสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลา 6 เดือนเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดว่าบริษัทดังกล่าวจะมีรายได้เข้ามาประมาณไตรมาส 3/2551 เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395 , 089-4888337

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ