กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--กรมส่งเสริมการส่งออก
กรมส่งเสริมการส่งออก จับมือ SIPA และ TACGA เดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ของไทย ประกาศศักยภาพฝีมือการผลิตในงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 (Thailand Entertainment Expo 2008) หวังเปิดตลาดอินเตอร์เพิ่มขึ้น เผยมูลค่ารวมตลาดปีที่แล้วมากถึงหกพันล้านบาท ตั้งเป้างานปีนี้ช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดได้อีก 20% พร้อมโชว์ไฮไลท์เด็ดการสร้าง Real Time 3D, Virtual Studio รวมทั้งนวัตกรรมความรู้ด้านแอนิเมชั่นต่างๆ
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากการที่อุตสาหกรรมบันเทิงและดิจิตอลคอนเทนต์ ซึ่งประกอบไปด้วย แอนิเมชั่น มัลติมีเดีย เกมส์ และภาพยนตร์ รวมถึงละคร (ซีรีส์) ในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างจริงจัง ในช่วง 4-5 ปีผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจคอนเทนต์ต่างๆในไทยสามารถค้าขายกับต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาผลงานที่ได้รับความสนใจจากต่างประเทศ เช่น “ก้านกล้วย” ของค่ายกันตนา หรือ “ปังปอนด์” ของวิธิตา แอนิเมชั่น ก็เป็นสิ่งยืนยันถึงผลงานของคนไทย ในด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ซอฟต์แวร์ ที่มีคุณภาพในระดับสากล
ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายตลาดและประกาศศักยภาพการเป็นผู้ผลิตด้านแอนิเมชั่นและซอฟต์แวร์ให้เป็นที่รับรู้และเกิดการยอมรับจากต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออกได้ร่วมกับภาคเอกชน ในอุตสาหกรรมบันเทิงของไทย จัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 (Thailand Entertainment Expo 2008) ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศขึ้น ระหว่างวันที่ 24-28 กันยายน ณ สยามพารากอน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยทุกสาขา ทั้งด้าน TV-Film-Animation-Music ให้เป็นเวทีระดับนานาชาติที่สามารถดึงดูดให้กลุ่มคนในแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิงต่างๆ เข้ามาเปิดโต๊ะเจรจาซื้อขายธุรกิจระหว่างกันในงาน ตลอดจนยังเป็นการเพิ่มโอกาสและช่องทางในการหาผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศที่สนใจร่วมทุนกับบริษัทผู้ผลิตและสร้างสรรค์งานบันเทิงของไทย
ด้านนายลักษมณ์ เตชะวันชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่น และคอมพิวเตอร์กราฟฟิกไทย (TACGA) เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดแอนิเมชันและดิจิทัล คอนเทนท์ไทย เมื่อปี 2550
มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 6 พันล้านบาท แบ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดด้านแอนิเมชั่น 3,000 ล้านบาท และด้านเกมส์ 3,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่า ในปี 2551 มูลค่ารวมของตลาดแอนิเมชันและดิจิทัล คอนเทนท์ของไทย น่าจะขยายตัวได้ถึง 8,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณร้อยละ 20% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มากเท่าไรนัก ถ้าเทียบกับฝีมือ ความสามารถ รวมทั้งเทคนิคของคนไทยในการทำแอนิเมชั่น เพราะในภูมิภาคแถบเอเชียนั้น เรียกได้ว่าประเทศไทยจะเป็นรองก็เพียงญี่ปุ่นและเกาหลีเท่านั้น โดยงาน Thailand Entertainment Expo ครั้งนี้ นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้การส่งเสริมอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นอย่างจริงจัง เพราะอุตสาหกรรมแอนิเมชันถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้เข้าประเทศ และถือเป็นอุตสาหกรรมประเภท “คลื่นเทคโนโลยี” ที่สามารถต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆได้อีกมาก
“ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีพื้นฐานกับการทำแอนิเมชั่นมานาน และปัจจุบันฝีมือในการทำแอนิเมชั่นของคนไทยนั้นก็ไม่เป็นรองใคร อุตสาหกรรมแอนิเมชั่นในประเทศไทยก็ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากขึ้น โดยสามารถทำเงินเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการรับงานโดยตรงจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียไม่ว่าจะ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง ในรูปแบบของเกมส์ ชิ้นงานโฆษณาต่างๆ ” นายลักษณ์กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีองค์กรของรัฐบาลและสถาบันการศึกษาต่างๆ อาทิ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์ แวร์แห่งชาติ (SIPA) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการแอนิเมชั่นแห่งชาติ ที่ช่วยพัฒนา เสริมทักษะให้กับบุคลากร รวมทั้งส่งเสริมให้มีการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่มีคุณภาพส่งออกไปขายต่างประเทศอีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแอนิเมชั่น ในงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 (Thailand Entertainment Expo 2008) ระหว่างวันที่ 24-28 กันยายน นี้ ณ พารากอนฮอลล์ 1 - 3 สยามพารากอน โดยแบ่งเป็น วันเจราธุรกิจ : วันที่ 24 - 25 กันยายน (10.00-18.00 น.) และวันประชาชนทั่วไป : วันที่ 26-28 กันยายน (10.00- 20.00 น.) หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์งานที่ www.thailandentertainmentexpo.com