(ต่อ3) วอเนอร์ เสนอเรื่องย่อภาพยนตร์ MISS CONGENIALITY PRODUCTION NOTE

ข่าวทั่วไป Thursday March 10, 2005 16:22 —ThaiPR.net

จอห์น เคอร์บี้ (ผู้อำนวยการผลิต) มีปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์และมีประสบการณ์ทางด้านบัญชีมานานกว่า 30 ปี เขาเป็นประธานรักษาการให้กับ Village Roadshow Limited จากปี 1994 ไปถึงปี 1998 และจากเดือนพฤษภาคม 2002 หลังจากนั้นเขาดำรงตำแหน่งประธานให้กับ Village Roadshow Limited จากปี 1990 ไปถึงปี 1994 และจะปี 1992 ไปถึง ปี 2002
เคอร์บี้เป็นผู้อำนวยการซึ่งก่อตั้งสถานีวิทยุ 2DayFM ปัจจุบันนี้เขาเป็นผู้อำนวยการให้กับ Austereo Group Limited, Sea World Management Limited และประธานของ Village Roadshow Corporation Limited.
บรู๊ซ เบอร์แมน (ผู้อำนวยการผลิต) จบการศึกษาจากวิทยาลัย Bennington และ สถาบัน California Institute of the Arts Film School เขาได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัย UCLA เมื่อปี 1975 ด้วยสาขาวิชาเอกประวัติศาสตร์ จากนั้นเขาเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมาย Georgetown Law School และจบการศึกษาปี 1978 แล้วเขาก็สอบเข้า California Bar ได้สำเร็จในปีนั้น
เบอร์แมนเริ่มเข้าวงการภาพยนตร์กับแจ็ค วาเลนติที่ MPAA ที่วอชิงตัน ดีซี โดยทำงานเป็นผู้ช่วยของเขาขณะอยู่ที่โรงเรียนกฎหมาย หลังจากจบการศึกษาแล้วเขากลับไปที่ลอสแอนเจลิสและเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยของ ปีเตอร์ กรูเบอร์ที่ Casablanca Filmworks เมื่อเดือนกันยายนปี 1978 แต่ไปเขาย้ายไปเป็นผู้ช่วยของ ชอวน์ เดเนียล และโจเอล ซิลเวอร์ ที่ Universal Pictures เมื่อเดือนกรกฏาคมปี 1979 และในปี 1982 เขาก็ได้เป็นรองประธานด้านฝ่ายการผลิตที่ Universal
ในปี 1984 เบอร์แมนเข้ามาทำงานที่ วอร์เนอร์ บรอส (Warner Bros.) ในฐานะรองประธานฝ่านการผลิต ต่อจากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นประธานในปี 1988 ในเดือนกันยายน 1989 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นประธานด้านการผลิตละครเวที ต่อมาในปี 1991 เป็นประธานด้านการผลิตละครเวทีระดับระหว่างประเทศ ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งนี้จนถึงเดือนพฤษภาคม 1996 ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา วอร์เนอร์ บรอส ผลิตและจัดจำหน่ายรายการดังต่อไปนี้: Presumes Innocent, Goodfellas, Robin Hood, Driving Miss Daisy, Batman Forever, Under Siege, Malcolm X, The Bodyguard, JFK, The Fugitive, Dave, Disclosure, The Pelican Brief, Outbreak, The Client, A Time to Kill และ Twister
ในเดือนพฤษภาคมปี 1996 เบอร์แมนก่อตั้งบริษัท Plan B Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์อิสระภายใต้วอร์เนอร์ บรอส พิคเจอร์ส
เบอร์แมนได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานและผู้บริหารของ Village Roadshow Pictures ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่ง Village Roadshow Pictures จะผลิตละครเวที 60 เรื่องด้วยกันจนถึงปี 2007 โดยการเป็นพาร์ทเนอร์กับวอร์เนอร์ บรอส ภาพยนตร์ที่คัดเลือกไว้ตอนแรกได้แก่ Practical Magic แสดงนำโดย แซนดร้า บูลล็อคและนิโคล คิดแมน เรื่อง Analyze This แสดงนำโดย โรเบิร์ต ดิเนโร่ และบิลลี่ คริสตัล เรื่อง The Matrix แสดงนำโดย คีนู รีฟส์ และลอว์เรน ฟิชบอร์น เรื่อง Deep Blue Sea นำแสดงโดยแซมเวล แจ็คสัน เรื่อง Three Kings แดงนำโดยจอร์จ คลูนีย์ เรื่อง Space Cowboy แสดงนำโดย คลินท์ อีสวู๊ดและทอมมี่ ลี่โจนส์ เรื่อง Miss Congeniality แสดงนำโดย แซนดร้า บูลล็อคและเบนจามิน แบร็ท และเรื่อง Cats & Dogs ภาพยนตร์ที่เข้าคิวต่อไปคือ Training Day แสดงนำโดยเจ้าของรางวัลออสการ์ เดนเซล วอชิงตัน และอีธาน ฮอวค์ เรื่อง Ocean’s Eleven แสดงนำโดย จอร์จ คลูนีย์, แบรด พิท และ จูเลีย โรเบิร์ตส เรื่อง Analyze That เรื่อง Two Weeks Notice แสดงนำโดยแซนดร้า บูลล็อคและฮิวจ์ แกรนท์ และเรื่อง The Matrix Reloaded, The Matrix Revolutions, Mystic River, Ocean’s Twelve และ Constantine เรื่องที่กำลังจะตามมาคือ Charlie and the Chocolate Factory ซึ่งแสดงนำโดยจอห์นนี่ เด็ปและกำกับโดยทิม เบอร์ตัน
ปีเตอร์ เมนซี่ส์ จูเนียร์ A.C.S. (ผู้กำกับภาพ) ผลงานล่าสุดของเขาคือภาพยนตร์ Cheer Up, The Great Raid และ Kangaroo Jack
ผลงานด้านการถ่ายภาพยนตร์ที่ผ่านมาของเขาได้แก่ Tomb Raider, The Kid, Bless The Child, The General’s Daughter, The Thirteenth Warrior, Hard Rain, A Time to Kill, Die Hard With a Vengeance, The Getaway, Posse และ White Sands นอกจากนี้เมรซี่ส์ยังเป็นผู้กำกับฝ่ายภาพในโฆษณาหลายชิ้นเลยทีเดียว
มาเฮอร์ อามาด (ผู้ออกแบบการผลิต) เกิดที่เพนซิลเวเนียและตอนที่อยู่มัธยมปลายเขาได้ทำงานกับทีมงานฝ่ายเวทีในโรงละครของชุมชน เขาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย Northwestern และได้รับเกียรตินิยมตอนจบด้วย หลังจากนั้นก็จบปริญญาโทด้านศิลปะการแสดงละครเวทีและการออกแบบแสงจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน หลังจากที่สอนหนังสือเรื่องการออกแบบละครเวทีอยู่ที่มหาวิทยาลัยสองปี อามาดได้มาทำงานออกแบบฉากและแสงในฐานะใออาชีพในยุคละครเวทีเฟื่องฟูของโรงละคร Chicago Theatre และได้เป็นนักออกแบบฉากและแสงประจำอยู่ที่โรงละคร North Light Theater นานถึงห้าฤดูกาลด้วยกัน เขาได้ออกแบบให้กับละครมากกว่า 100 เรื่องด้วยกับที่โรงละคร Chicago ยกตัวอย่างเช่น St. Nicholas, Organic, Victory Gardens, Goodman และอื่นๆอีกหลายเรื่อง ซึ่งเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Chicago’s Joseph Jefferson ถึงหกครั้งด้วยกัน
อามาดเห็นว่าประสบการณ์และการฝึกฝนที่ได้จากการออกแบบฉากละครเวทีนั้นทำให้เขามีทักษะและความสามารถอย่างทุกวันนี้ ครั้งหนึงเขาเคยได้รับจ้างให้ไปเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของภาพยนตร์ที่จะมาถ่ายที่ชิคาโก และจากวันนั้นเขาก็ทำงานกับภาพยนตร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อามาดย้ายจากชิคาโกไปนิวยอร์คและได้ทำงานให้กับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่หลายเรื่องคือ Goodfellas และ Married to the Mob นอกจากนั้นผลงานภาพยนตร์ของเขายังมีเรื่อง Dodgeball, Mr. 3000, Holes, Paid in Full, Gun Shy, US Marshals, Chain Reaction, That Night, The Cemetery Club, Miami Blues, Above the Law, The Fugitive และ Angel Heart
อามาดไปสอนหนังสือที่โรงเรียนภาพยนตร์บ้าง และเป็นนักสะสมหนังสือซึ่งมีหนังสือที่เกี่ยวกับศิลปะ สถาปัตย์ การออกแบบ เทคโนโลยี และหัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10,000 เล่ม
การ์ธ เครเวน (ผู้ตัดต่อ) ผลงานล่าสุดของเขาคือภาพยนตร์แนวแฟรตาซีเรื่อง Peter Pan และภาพยนตร์แนวตลกเรื่อง Legally Blonde
นักตัดต่อผู้ช่ำชองท่านนี้เริ่มต้นจากการจัดจ่อเสียงแล้วจึงย้ายมานั่งเก้าอี้การตัดต่อภาพเมื่อปี 1973 กับเรื่อง Pat Garrett และ Billy the Kid ผลงานภาพยนตร์ของเขาได้แก่ I Never Promised You a Rose Garden, Convoy, Educating Rita, Turner & Hootch, Soapdish, Restoration, One Fine Day, My Best Friend’s Wedding, A Midsummer Night’s Dream, The Outfitters, Return to Me และ What’s the Worst That Could Happen?
จอห์น ฮูลิฮาน (ผู้ควบคุมดนตรี) ได้ทำงานด้านดนตรีให้กับภาพยนตร์มาแล้วมากกว่า 27 เรื่องและได้ทำงานอัลบัมเพลงประกอบภาพยนตร์มาไม่น้อย ผลงานสร้างชื่อของเขาในด้านการควบคุมเสียงได้แก่ ภาพยนตร์ Austin Powers ทั้งสามภาค รวมไปถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วยคือ Austin Powers: International Man of Mystery, Austin Powers: The Spy Who Shagged Me และ Austin Powers in Goldmember
ที่ผ่านมา ฮูลิฮานคุมดนตรีให้กับภาพยนตร์แนวดรามาชื่อดัง Training Day ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เดนเซล วอชิงตันได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยมด้วย และต่อมาก็คุมเพลงให้กับเรื่อง Freddy Got Fingered ผลงานต่อมาของเขาคือเรื่อง Charlie’s Angels and Charlie’s Angels: Full Throttle ซึ่งนำแสดงโดยคาเมรอน ดิแอซ, ดริว แบร์รี่มอร์ และลูซี่ ลิว ที่ผ่านมา ฮูลิฮานทำงานให้กับภาพยนตร์โรแมนติคคอมเมดี้เรื่อง 13 Going On 30 ที่แสดงนำโดยเจนนิเฟอร์ การ์เนอร์ และมาร์ค ราฟฟาโล เรื่อง New York Minute ที่นำแสดงโดย แมรี่ เคทและ แอชลีย์ โอลเซน และเรื่อง Assault on Precinct 13 ที่แสดงโดยอีธาน ฮอวค์และลอเรนซ์ ฟิชบอร์น
ดีน่า แอปเพล (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) มีประสบการณ์กว้างขวางทั้งด้านยุคสมัย สไตล์และแฟชั่นของชุดต่างๆที่เธอออกแบบให้กับรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ต่างๆ
แอปเพลได้รับการยกย่องมากมายและยังเป็นคนริเริ่มแฟชั่นต่างๆจากการออกแบบให้กับภาพยนตร์ Austin Powers ทั้งสามเรื่อง Austin Powers: International Man of Mystery, The Spy Who Shagged Me และ Austin Powers in Goldmember นอกจากนั้นเธอยังร่วมทำงานกับผู้กำกับเจ โรชในเรื่อง Mystery, Alaska ที่นำแสดงโดย รัสเซล โครว์
แอปเพลได้รับการท้าทายจากงานที่ต้องออกแบบให้กับฝาแฝดตัวติดกันที่แม็ท เดมอน และ เกรก คินเนียร์แสดงเป็น พี่น้องเฟอร์เรลลี่ ในภาพยนตร์ตลกเรื่อง Stuck on You และในเรื่องที่มีหลายบุคลิกอย่าง Bedazzled ของผู้กำกับ ฮารอลด์ รามี สำหรับเรื่อง The Time Machine ของเฮช จี เวลส์ แอปเพลได้สร้างสรรค์ชุดยุคโบราณให้กับปี 1899 ด้วย ในเรื่อง Now and Then เธอมุ่งเน้นให้เห็นความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเมืองเล็กในปี 1970 ในเรื่อง Holy Matrimony แรงบันดาลใจจะมาจากสังคมการล่าอาณานิคม ส่วนเรื่อง 8 Seconds ของจอห์น เอดวิลเซน จะยึดฉากเป็นสังเวียนการขี่วัวกระทิง และเรื่อง Mother’s Boys และ He Said, She Said เธอจะยึดสไตล์แบบทันสมัยเป็นหลัก
ผลงานทางโทรทัศน์ของเธอได้แก่ ภาพยนตร์ของ HBO เรื่อง Weapons of Mass Distraction, A Mother’s Instinct, A Kiss to Die For และเรื่อง Wildflower ซึ่งเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของ ไดแอน คีตัน เกี่ยวกับเรื่องราวในยุค 1930--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ