กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ตลท.
TFEX จับมือ สโกเทีย โมแคตตา ผู้ค้าทองคำชั้นนำระดับโลก จัดสัมมนาถ่ายทอดประสบการณ์เทรดทองคำและ Gold Futures ให้ความเห็น Gold Futures เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ใช้ในการทำกำไร อาบิทราจ และบริหารความเสี่ยง เชื่อการเปิดเทรด Gold Futures เป็นประโยชน์ทั้งต่อตลาดอนุพันธ์ ผู้ประกอบการร้านค้าทอง และผู้ลงทุน
บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนาพิเศษ “Gold Futures Trading: Learning from Global Experience” โดยวิทยากรรับเชิญ 2 ท่าน จาก ธนาคารโนวาสโกเทีย [Bank of Nova Scotia (Hong Kong)
] ได้แก่ นายสุนิล แคชแยป (Mr. Sunil Kashyap) กรรมการผู้จัดการ สโกเทีย โมแคตตา (Scotia Mocatta) ซึ่งรับผิดชอบธุรกิจด้านโลหะมีค่า (Precious Metal) และ FX (Foreign Exchange) ในภูมิภาคเอเชีย และ นางสาวแอนน์ เลา (Ms. Anne Lau) ผู้ช่วยผู้จัดการ สโกเทีย โมแคตตา ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการซื้อขายโลหะมีค่ามาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้ลงทุนไทย และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำความรู้จัก และเข้าใจใน Gold Futures เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ตลาดอนุพันธ์ไทยจะเปิดเทรดภายในปีนี้
นางสาวแอนน์ เลา ได้กล่าวเกี่ยวกับภาพรวมของตลาดทองคำโลกว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการทองคำ ทั้งเพื่อการผลิตเครื่องประดับ เพื่อการลงทุน และเพื่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรม โดยความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนนั้น มีอัตราเติบโตสูงมาก เนื่องจากผู้ลงทุนนิยมลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทองคำถือได้ว่าเป็นแหล่งหลบภัยชั้นดีของผู้ลงทุน นอกจากนี้ ราคาทองคำที่มีแนวโน้มสูงขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้ผู้ลงทุนหันมาลงทุนในทองคำและตราสารที่อ้างอิงกับทองคำ ไม่ว่าจะเป็น Gold Futures หรือ ETF ทองคำ
ทางด้าน นายสุนิล แคชแยป กล่าวถึงการซื้อขาย Gold Futures ในตลาดโลกว่ามีแนวโน้มเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง และมีปริมาณการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ (Futures Market) สูงกว่าตลาดทองคำที่ส่งมอบทันที (Spot Market) ปัจจุบัน ตลาดอนุพันธ์ที่สำคัญ ๆ ของโลก ได้แก่ ตลาด COMEX ประเทศสหรัฐอเมริกา, ตลาด TOCOM ประเทศญี่ปุ่น, ตลาด Shanghai Futures Exchange ประเทศจีน และตลาด MCX ประเทศอินเดีย สำหรับลักษณะสำคัญของ
Gold Futures ที่นิยมซื้อขายกันทั่วโลก คือ มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับการซื้อขายใน Spot Market มีอายุสัญญาระหว่าง 3 - 12 เดือน โดยมีทั้งสัญญาที่กำหนดให้ชำระราคาเป็นเงินสด (Cash Settlement) และให้มีการส่งมอบสินค้าจริง (Physical Delivery) ซึ่งในทางปฏิบัติ มีการส่งมอบสินค้ากันจริงน้อยมาก
ทั้งนี้ นายสุนิล ได้ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบของการเปิดซื้อขาย Gold Futures ที่มีต่อร้านค้าทองในไทยว่า “การเปิดซื้อขาย Gold Futures จะส่งผลดีแก่ร้านค้าทอง เนื่องจากจะเป็นเครื่องมือช่วยเสริมให้ร้านค้าทองสามารถบริหารความเสี่ยงจากราคาทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและผู้ลงทุนสามารถใช้ Gold Futures ของ TFEX ที่อ้างอิงกับทองคำที่ความบริสุทธิ์ 96.5% ในการบริหารความเสี่ยงดังกล่าวได้ แม้ว่าราคาทองคำในตลาดต่างประเทศจะอ้างอิงกับระดับความบริสุทธิ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากราคาทองคำจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างมากแม้ว่าระดับความบริสุทธ์จะแตกต่างกันไปบ้าง สำหรับการขยายธุรกิจเข้ามาสู่การเป็นโบรกเกอร์นั้น จุดที่ควรพิจารณาคือ ผู้ลงทุนในตลาดอนุพันธ์มักจะเป็นผู้ลงทุนคนละกลุ่มกับร้านค้าทอง ดังนั้นการขยายธุรกิจของผู้ค้าทองเข้ามาเป็นโบรกเกอร์อนุพันธ์จึงอาจต้องหาลูกค้าใหม่ เนื่องจากจะอ้างอิงกับลูกค้ากลุ่มเดิมไม่ได้มาก”
“Gold Futures ที่กำลังจะมีในประเทศไทย จะเป็นทางเลือกสำหรับบริหารพอร์ตการลงทุน ผู้ลงทุนที่สนใจซื้อขายควรศึกษาลักษณะของสัญญาและกลยุทธ์ต่าง ๆ ก่อนซื้อขายจริง นอกจากนี้ ในการซื้อขายควรกำหนดระดับ ผลกำไรและขาดทุนที่ยอมรับได้ก่อนลงทุน การซื้อขาย Gold Futures จะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างมาก หากผู้ลงทุนมีวินัยในการลงทุนและติดตามสถานการณ์ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ” นายสุนิล กล่าวเสริม