กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--กทม.
ศตส.กทม.กำหนดเป้าหมาย 101 ชุมชนในพื้นที่เร่งรัดลดระดับปัญหายาเสพติดใน 2 เดือน พร้อมประสานเรือนจำคลองเปรมขอใช้แดน 9 เป็นที่รองรับจำนวนผู้เสพรอการตรวจพิสูจน์ที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งเล็งหาสถานที่ควบคุมตัวและบำบัดฟื้นฟูสำหรับผู้หญิงเป็นการเฉพาะ
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) ครั้งที่ 3 เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการรวมพลังไทย พ้นภัยยาเสพติด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครระยะเร่งรัด 2 เดือน ระหว่างเดือนสิงหาคม — กันยายน 2551 โดยในพื้นที่ กทม. กำหนดชุมชนเป้าหมายจำนวน 101 ชุมชน 35 เขต เพื่อบูรณาการแผนปฏิบัติงานแบบครบวงจร ลดระดับปัญหายาเสพติดในพื้นที่กทม. ให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยยึดหลักปฏิบัติตามที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.) กำหนดใน 6 แนวทาง ได้แก่ กำหนดหมู่บ้านและชุมชนที่มีระดับความสำคัญต่อปัญหา เร่งรัดดำเนินการต่อข้อร้องเรียนของประชาชน ปฏิบัติการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง เร่งรัดมาตรการด้านการบำบัดรักษาให้เพียงพอ ใช้บทบาทของชุมชน ภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดูแลและรักษาพื้นที่ และกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการชัดเจน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่แดน 9 เรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเดิมเป็นสถานที่ควบคุมตัวระหว่างรอการพิสูจน์สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงโรงพยาบาลราชทัณฑ์เดิมในแดน 13 เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งย้ายผู้รอการตรวจพิสูจน์และบำบัดรักษาไปยังสถานที่ดังกล่าว ทำให้แดน 9 ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ดังนั้น ศตส.กทม.จึงขอให้กรมราชทัณฑ์ประสานไปยังเรือนจำกลางคลองเปรมเพื่อพิจารณาขอใช้แดน 9 เพื่อลดความแออัดและรองรับผู้เสพที่จะเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต ตลอดจนจัดหาสถานที่ควบคุมตัวระหว่างรอการพิสูจน์ รวมถึงสถานที่บังคับบำบัดและฟื้นฟูสำหรับผู้หญิงเป็นการเฉพาะเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อแบ่งแยกการบำบัดรักษาและการฟื้นฟูให้มีความเหมาะสมต่อไป