กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจัดงานเคาะระฆัง "ล้านคันยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก" พร้อมรับฟังปาฐกถาพิเศษ "นโยบายของรัฐบาลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวสู่เป้าหมาย Detroit of Asia" ร่วมฉลองใหญ่ที่ปี 2548 ผลิตรถยนต์ครบล้านคัน
วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้เกียรติเป็นประธานในการเคาะระฆังเฉลิมฉลองการผลิตรถยนต์เกิน 1 ล้านคัน และก้าวสู่ Detroit of Asia ในปี พ.ศ.2553 ภายในงานกาล่าร์ดินเนอร์ "ล้านคันยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก" โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจยานยนต์และชิ้นส่วน สภาอุตสาหกรรมฯ เอกอัครราชฑูตประเทศประเทศต่างๆ ที่นำเข้ารถยนต์จากประเทศไทย และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศเข้าร่วมงาน รวมกว่า 1,000 คน ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และ ผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อหาแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในการบรรลุเป้าหมายการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ของเอเชียหรือ Detroit of Asia ในปี พ.ศ. 2553 ในการนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "นโยบายของรัฐบาลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวสู่เป้าหมาย Detroit of Asia" เพื่อชี้แจงแนวทางและนโยบายสำคัญของรัฐบาลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็น Detroit of Asia
นายประพัฒน์ โพธิวรคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์นับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของไทย และก่อให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมสนับสนุนและอุตสาห-กรรมต่อเนื่องอื่นๆ อาทิ อุตสาหกรรมชิ้นส่วน อุตสาหกรรมแม่พิมพ์ ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจให้บริการหลังการขาย โดยสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศกว่า 9.3 แสนล้านบาทต่อปี คิดเป็นรายได้จากการส่งออกรถยนต์ถึงปีละประมาณ 4 แสนล้านบาท นับเป็นลำดับที่ 2 ของธุรกิจการส่งออกของประเทศไทย โดย GDP ของอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็น 16% ของ GDP รวมภาคอุตสาหกรรมทั้งประเทศ จากศักยภาพการผลิตของผู้ประกอบยานยนต์ไทยรวมถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐ ทำให้ในปี พ.ศ. 2548 ผู้ประกอบยานยนต์ไทยสามารถผลิตรถยนต์ได้เกิน 1 ล้านคัน ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายและส่งออกให้ได้ 1 ล้านคันภายในปี พ.ศ. 2549 จึงนับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ควรต้องจารึกในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และทำให้ระยะทางในการเดินทางสู่จุดหมาย "การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ของเอเชีย" หรือ Detroit of Asia ในปี พ.ศ. 2553 หรืออีก 5 ปีนับจากนี้ใกล้เข้ามายิ่งขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จ และเพื่อเผยแพร่ขีดความสามารถและสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการผลิตยานยนต์ของไทยที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและมีมาตรฐานระดับสากล คณะกรรมการพัฒนาเครือข่ายวิสาหกิจยานยนต์และชิ้นส่วน สภาอุตสาหกรรมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม, กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมฯ, กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมฯ, สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย, สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย, สถาบันยานยนต์ และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ จึงได้ร่วมกันจัดงาน "ล้านคันยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก" (Thai Auto: A One Million Milestone) ขึ้น โดยได้มีกิจกรรมพิเศษอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานคณะกรรมการจัดงาน "ล้านคันยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก" กล่าวว่า การจัดงานเคาะระฆังเพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จ และการแสดงปาฐกถาพิเศษจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง "นโยบายของรัฐบาลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวสู่เป้าหมาย Detroit of Asia" นี้ นับเป็นกิจกรรมพิเศษที่สุดของงาน "ล้านคันยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก" โดยได้มีการบันทึกเทปการเคาะระฆังและการแสดงปาฐกถา เพื่อเผยแพร่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง11 กรมประชาสัมพันธ์ เวลา 22.00 น. เพื่อให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้ร่วมภาคภูมิใจในความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครั้งนี้ และเพื่อรับฟังนโยบายสำคัญของรัฐบาลต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็น Detroit of Asia ในปี พ.ศ. 2553 ด้วยเป้าหมายการผลิตมากกว่า 1.8 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่าในการผลิตประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท มีมูลค่าเพิ่มของการผลิตภายในประเทศมากกว่าร้อยละ 70 มีการส่งออกรถยนต์มากกว่าร้อยละ 50 มีการจ้างงานในประเทศมากกว่า 5 แสนราย และทำให้ไทยก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประเทศผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 10 ของโลก และเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกอันดับที่ 6 ของโลก ซึ่งจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาองค์ความรู้ทางเทคโนโลยี ตลอดจนการพัฒนาความสามารถของแรงงานไทย พร้อมทั้งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจและสังคมไทย
ทั้งนี้ สำหรับสภาวะการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี พ.ศ. 2548 แม้อุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นสึนามิ สถานการณ์ความไม่สงบใน ภาคใต้ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ภาวะภัยแล้ง และอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงมีอัตราการเติบโตมากขึ้นถึง 13 % เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2547 ที่ผ่านมา และสำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี พ.ศ. 2549 คาดว่าปัจจัยที่ยังส่งผลต่อการประกอบการของอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีเพียง 2 ปัจจัย ได้แก่ ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ 5-8% เนื่องจากอัตราการครอบครองรถยนต์ของประชาชนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ แผนการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี พ.ศ. 2549 จะเน้นที่การส่งออกรถยนต์ทุกประเภทไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกให้ได้ 6 แสนคันภายในปี พ.ศ. 2549 โดยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในด้านการพัฒนาทักษะบุคลากร การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายที่ตั้งไว้--จบ--