แมนพาวเวอร์ สวนกระแสเศรษฐกิจครึ่งปีแรก ยอดโตฉลุยกว่า 18% ตอกย้ำศักยภาพครึ่งปีหลัง ชูกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจแบบ 360 องศา รองรับตลาดการจัดหาบุคลากร

ข่าวทั่วไป Friday August 15, 2008 09:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
แมนพาวเวอร์ บริษัทจัดหางานชั้นนำและมีชื่อเสียงของประเทศ เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกโตกว่า 18% พร้อมเร่งปรับแผนกลยุทธ์ฝ่าปัจจัยลบในครึ่งปีหลัง รุกตลาด HR แบบเต็มสูบ พร้อมเดินหน้าชูกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจแบบ 360 องศา ทั้งการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม มั่นใจสิ้นปี 2551 สร้างรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 20% อย่างแน่นอน
มร.ไซมอน แมทธิวส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 — 2 ของปีนี้ คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 18% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากการจ้างงานแบบ Contract และแบบ Permanent เป็นหลัก ซึ่งถือว่าอัตราการเติบโตของรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทได้คาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ต้นปี และถือเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าในปีนี้ จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น อันเนื่องมาจากการปรับตัวของราคาน้ำมันและสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ในทุกธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม ในในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ พร้อมทั้งมีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยนนโยบายและแผนกลยุทธ์ธุรกิจให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งการกำหนดแผนงานและนโยบายสำหรับการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง เพื่อสร้างการรับรู้และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับองค์กร โดยได้วางเป้าหมายสิ้นปีจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 20%
สำหรับในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ภาพรวมของธุรกิจจัดหางานและบริหารงานบุคลากรถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ไม่หวือหวามากนัก ทั้งนี้ ตลาดที่มีความต้องการบุคลากรหรือมีตำแหน่งงานว่างจะอยู่ในภาคอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตยางและพลาสติก อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์การผลิตอุปกรณ์วิทยุ โทรทัศน์และอุปกรณ์สื่อสาร การผลิตเคมีภัณฑ์ ประมาณ 36.33% รองลงมา คือ ภาคการขนส่ง การขายปลีก 25.54% และอันดับ 3 คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ และบริการทางธุรกิจ 11.92% และจากการประเมินตลาดแรงงานในครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการว่างงานในปีนี้ลดลงประมาณ 3 หมื่นคนเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อสถานการณ์ในตลาดแรงงานในปัจจุบัน โดยในครึ่งปีแรกมียอดการเปิดตำแหน่งงานจากองค์กรลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 % และตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการจากองค์กรของลูกค้า ได้แก่ พนักงานขายของ, เจ้าหน้าที่สำนักงาน, ผู้จัดการฝ่ายต่างๆ, เจ้าหน้าที่บัญชี, ผู้จัดการ / พนักงานฝ่ายขายและการตลาด, วิศวกร, พนักงานบรรจุภัณฑ์ และช่างเย็บปัก เป็นต้น นายไซมอนกล่าว.
นายไซมอนกล่าวต่อไปว่า ทิศทางแผนกลยุทธ์การตลาดของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลัง จะมุ่งตอกย้ำและสร้างความเป็นหนึ่งในธุรกิจจัดหางานที่มีความครบวงจรและมีความพร้อมในการให้บริการ โดยได้ปรับแผนกลยุทธ์เพิ่มเติมจากครึ่งปีแรก โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพในการบริหารงานลูกค้าองค์กร ควบคู่ไปกับการสรรหาบุคลากร ในส่วนของการบริหารงานลูกค้า ได้มีการสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านกลยุทธ์ให้กับลูกค้าองค์กรโดยเน้นรูปแบบการให้บริการที่เต็มรูปแบบที่มีความต่อเนื่อง ฉับไว และมีการรายงานความคืบหน้า พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับลูกค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมในเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกับสถานการณ์ตลาดแรงงาน หรือการจัดสรรบุคลากร อาทิ ความคืบหน้าเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน เป็นต้น และในส่วนของการสรรหาบุคลากร จะเน้นรูปแบบการรับสมัครผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ การรับสมัครผ่านเวปไซต์ ซึ่งได้มีการพัฒนาปรับปรุง เพื่อให้ผู้สมัครสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมถึงการจัดโรดโชว์ตามมหาวิทยาลัย การออกบูธในงาน Job Fair ต่างๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการสมัครงานได้งานที่มีความเหมาะสมกับตัวเอง
“บริษัทยังได้เตรียมขยายสาขาและขยายไลน์ธุรกิจของบริษัท และต่อยอดโครงการ Cross Border Recruitment ซึ่งถือเป็นโปรเจคใหม่ของบริษัทฯที่อยู่ในขั้นดำเนินการ โดยจะแบ่งการดำเนินโครงการออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.การเปิดตลาดแรงงานไทยในต่างประเทศ โดยอยู่ในรูปแบบของการจัดส่งแรงงานไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างในตะวันออกกลาง หรือ ยูเออี ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่มีความต้องการแรงงานต่างชาติ รองลงมา คือ ตลาดแรงงานในโซนเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไต้หวัน และสิงคโปร์ ลักษณะที่ 2 จะเป็นการจัดส่งแรงงานชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบการแลกเปลี่ยนทรัพยากรบุคคล เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดให้มากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจ Engineer / IT / Technology ส่วนความคืบหน้าในการขยายสาขาของแมนพาวเวอร์ ไปในพื้นที่ต่างๆ ในครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า สามารถจัดสรรบุคลากรเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ ได้ตรงตามความต้องการของผู้สมัครและองค์กรลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างการเข้าถึงและเพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการหางาน ให้มีโอกาสได้งานมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 10 ปีของแมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) ทางบริษัทฯ ยังได้ดำเนินแผนสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการทำการตลาดตอบแทนสู่สังคมทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นหนักทางด้าน “ทรัพยากรมนุษย์” โดยยึดมั่นใน 4 หลักการในการช่วยเหลือสังคม ได้แก่ การพัฒนาด้านการทำงาน, การบรรเทาสาธารณภัย, การช่วยเหลือผู้อพยพ และการต่อต้านการทารุณกรรมมนุษย์ ซึ่งทั้ง 4 หลักการนี้ ยังคงมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยทางบริษัทยังคงให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง ในการติดตามคนของศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ในส่วนของแมนพาวเวอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ก็ยังคงให้การสนับสนุนโครงการ Nine Million Org เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพ ซึ่งยังคงมีจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทย นอกจากนี้ทางแมนพาวเวอร์ประเทศจีน ได้จัดตั้งโครงการ Hope School Project ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน โดยระดมเงินทุนจากพนักงาน แมนพาวเวอร์ทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ และทางบริษัทแม่ สมทบเงินทุนบริจาคอีก 1 เท่า เพื่อนำไปสร้างโรงเรียนในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอีกด้วย”
ในส่วนความเคลื่อนไหวของบริษัท แมนพาวเวอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ มร. เจฟ จอร์เรส ประธานบริหารบริษัท แมนพาวเวอร์ อิงค์ ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จของบริษัทฯ ที่เพิ่งคว้ารางวัล “Top Companies for women” จากนิตยสาร Pink ซึ่งเป็นนิตยสารเกี่ยวกับบทบาทของสตรีในการทำงานของประเทศสหรัฐอเมริกา ในการเป็นองค์กรที่สนับสนุนและส่งเสริมบทบาทและหน้าที่ของสตรี หลังจากเพิ่งคว้ารางวัล “The 2008 World’s Most Ethical Companies” จากการจัดอันดับของนิตยสาร FORBES และสถาบันเอธิสเฟียร์ ไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรกของแมนพาวเวอร์ทุกสาขาทั่วโลกว่า มีรายได้รวมกว่า 11,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความสมดุลด้านการบริการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก พร้อมกับการมุ่งมั่นให้บริการให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในโลกของการบริหารงานบุคลากร
แมนพาวเวอร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคลระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ มลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา โดยมีเครือข่ายสำนักงานที่ให้บริการ 4,500 สาขา ใน 80 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการกับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ถึง 400,000 รายต่อปี โดยกลุ่มแมนพาวเวอร์แบ่งการดำเนินธุรกิจใน 5 บริษัท ได้แก่ แมนพาวเวอร์ (Manpower), แมนพาวเวอร์ โปรเฟสชั่นแนล (Manpower Professional), อีแลน (Elan), เจฟเฟอร์สัน เวลส์ (Jefferson Wells) และ ไรท์ เมเนจเม้นท์ (Right Management)
ปัจจุบัน แมนพาวเวอร์ ประเทศไทย จัดเป็นบริษัทจัดหางานชั้นนำและมีชื่อเสียงของประเทศ โดยได้เริ่มต้นการให้บริการด้านการจัดการและบริหารงานบุคคล มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยปัจจุบันมีสำนักงานเปิดให้บริการทั้งหมด 13 แห่ง ในกรุงเทพฯ 7 แห่ง, จังหวัดชลบุรี 2 แห่ง, จังหวัดอยุธยา 1 แห่ง, จังหวัดลำพูน 1 แห่ง, จังหวัดสงขลา 1 แห่ง และจังหวัดนครราชสีมา 1 แห่ง โดยเน้นกลยุทธ์การให้บริการที่พร้อมตอบรับกับความต้องการระหว่างกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่ต้องการบุคลากร และกลุ่มผู้หางาน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เจดับบลิวที ประเทศไทย : เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ (จันทร์) โทร. 02-204-8221 / 089-127-2089 หรือ
คุณพรทิพย์ วิริยะกิจพัฒนา (บี) โทร. 02-204-8210 / 086-813-1981

แท็ก ลุย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ