กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--เอ็นจอย คอมมูนิเคชัน
ทุกๆ ปี นอกจากมุ่งมั่นพัฒนาทางด้านวิชาการ คิดค้นหลักสูตรใหม่ๆ ควบคู่กับการพัฒนาด้านบุคลากรให้ทันกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี เพื่อผลิตบัณทิตคุณภาพออกไปรับใชสังคมแล้ว มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการการศึกษา ด้วยการจัดสรรทุน ผ่านโครงการนักเรียนสาธิตเสริมสมอง ให้ได้รับการศึกษาจนถึงระดับปริญญาตรี มาเป็นเวลานานถึง 26 ปี สำเร็จการศึกษาไปแล้ว 17 รุ่น ปัจจุบันมีนักเรียนในโครงการ 1,082 คน
รศ.ดร.บุญศรี พรหมมาพันธ์ หัวหน้าคณะทำงานโครงการนักเรียนสาธิตเสริมสมอง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ว่า ในแต่ละปีมีเด็กที่เรียนเก่ง ความประพฤติดี ต้องสูญเสียโอกาสทางการศึกษาเป็นจำนวนมาก เนื่องสาเหตุหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัญหาความยากจน มสธ.เลยจัดตั้งโครงการนักเรียนสาธิตเสริมสมอง ขึ้น เพื่อให้เด็กเหล่านี้เดินตามทางสายฝันของตัวเอง ได้มีโอกาสศึกษาถึงระดับปริญญาตรีโดยเลือกเรียนในสถานศึกษาและสาขาวิชาได้อย่างอิสระ ที่สำคัญไม่มีเงื่อนไข ข้อผูกมัดใดๆ เพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการช่วยพัฒนาการศึกษายกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนที่ด้อยโฮกาสให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
“มสธ. ไม่มีโรงเรียนสาธิตไว้รองรับนักเรียนเหมือนมหาวิทยาลัยอื่นๆ โครงการนี้จึงเป็นเหมือนโรงเรียนสาธิตทางไกล ที่ช่วยต่อเติมฝันนักเรียนเหล่านี้ได้รับโอกาสทางด้านการศึกษาขั้นสูง ให้เขาสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชน และนำความรู้มาสร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยเริ่มจัดสรรทุนให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาต้น ทุกจังหวัดๆละ 1 ทุน มาตั้งแต่ปี 2525 แต่เนื่องจากระยะหลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้นักเรียนทุนลดจำนวนลงตามสัดส่วนด้วย ปัจจุบันเหลือเพียงปีละ 19 ทุนๆละ 6,000- 25,000 บาท/ปี ตามระดับการศึกษา หมุนเวียนกันไปทั่วประเทศ” รศ.ดร.บุญศรี กล่าว
หากแต่คุณสมบัติของผู้ที่ได้รับทุนนอกจากฐานะยากจน มีความประพฤติดีแล้ว จะต้องเรียนเก่งด้วย ทำให้หลายคนสามารถสอบเข้าเรียนตามมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ ได้อย่างน่าชื่นชม ทว่าเยาวชนเหล่านี้แต่ละคนล้วนมีแง่คิด มุมมองชีวิต และความฝันที่ต่างกัน วันนี้เรามีโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยมพวกเขาตามสถาบันการศึกษาต่างๆ เลยเก็บเรื่องราวดีๆ มาบอกต่อ...
เริ่มกันที่ เสาวลักษณ์ กัณหาคุณ (แคร์) นักเรียนทุนรุ่นที่ 21 จาก จ.ยโสธร ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 สาขาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า เธอก็มีฝันเหมือนเด็กทั่วๆ ไป อยากเรียนหนังสือสูงๆ มีงานดีๆ ทำ แม่จะได้ไม่ลำบาก ตั้งใจเรียนมาตลอด ที่นี่เรียนหนักมากต้องขยันมากกว่า คนอื่นๆ เพราะพื้นฐานไม่แน่น เราไม่มีเงิน ไม่มีโอกาสได้เรียนพิเศษเหมือนคนอื่นๆ แต่ก็ไม่เคยท้อ กำลังใจจากแม่ทำให้มุ่งไปข้างหน้า วันหนึ่งฉันต้องมีเงินเลี้ยงแม่ ฉันต้องเป็นพยาบาลมืออาชีพให้ได้ จะได้ช่วยเหลือคนป่วยให้พ้นทุกข์ และนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาบ้านเกิด อย่างน้อยเป็นการคืนทุนให้กับสังคม และหากมีโอกาสจะจัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือคนยากจนในถิ่นทุรกันดารให้ได้รับการศึกษาสูงๆ เพราะการศึกษาคือรากฐานสำคัญของชีวิต
ทางด้าน ณรงค์ฤทธิ์ เชาว์กรรม (อาร์ม) นักเรียนทุนรุ่นที่ 21 จาก จ.ลพบุรี ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขานาฎยศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าให้ฟังว่า ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบากต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองเพื่อแบ่งเบาภาระแม่ แต่เขาก็มีผลการเรียนดีมาตลอด เพราะมีความฝันที่จะเป็นครูนาฎศิลป์มาตั้งแต่เด็กๆ อยากถ่ายทอดความรู้ที่ได้ร่ำเรียนให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อรักษาศิลปะแขนงนี้ไว้คู่สังคมไทย เนื่องจากวัตถุนิยม วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามีบทบาทมาก ทำให้ปัจจุบันได้รับความสนใจน้อยมาก แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เขาบอกว่า ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ต้องอาศัยความมานะ ขยัน อดทนสูงมากๆ โชคดีที่ได้รับทุนจากโครงการถึงไม่มากนัก แต่ช่วยแบ่งเบาภาระแม่ได้เยอะมาก วันหนึ่งที่มีเงินจะต้องคืนโอกาสดีๆ แบบนี้กับน้องๆ บ้าง
ส่วน พนิดา รักขนาม (แพร) นักเรียนทุนรุ่นที่ 21 จากจ.นราธิวาส ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี บอกว่า ความวุ่นวายจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อการเรียนเป็นอย่างมาก ครอบครัวไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ตัวเองอาศัยทุนจากโครงการได้โควต้าเข้ามาเรียนที่นี่ ตั้งใจเลือกเรียนสาขานี้เพราะต้องการนำความรู้ไปพัฒนาชุมชน เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสุขอนามัย การบริโภคอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เพราะไม่มีโอกาสเลือกมากนัก ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพทำให้เกิดโรคมะเร็งมากขึ้น อยากให้คนในชุมชนแข็งแรงทั้งกายและใจ
ปิดท้ายกันที่ จุรีรัตน์ มุกคา (จุรี) นักเรียนทุนรุ่นที่ 20 จากจ.อำนาจเจริญ ปัจจุบันกำลังศึกษาชั้นปี 2 สาขาพยาบาลศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยบรมราชชนนี บอกว่า พ่อเธอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตัวเธอเองไม่สามารถช่วยอะไรพ่อได้เลย เพราะไม่มีความรู้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เขาทำได้คือ ตั้งใจเรียน หวังเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว แม้จะยากจนเธอจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นพยาบาลอาชีพนี้นอกจากมั่นคงแล้ว ยังช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นจากความทุกข์ทรมานอีกด้วย แต่การที่ไปถึงฝั่งฝันได้ต้องอาศัยปัจจัยหลายๆ ด้าน รู้สึกเหนื่อยบ้างบางครั้ง แต่ไม่เคยท้อเพราะเป้าหมายในชีวิต ต้องการให้แม่กับน้องมีชีวิตที่ดีกว่า และจะช่วยเหลือเด็กในท้องถิ่นให้ได้เรียนหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
น่ายินดีที่ความฝันของเด็กๆ เหล่านี้ ได้รับการเติมเต็มเพื่อเป็นแรงผลักดันช่วยสานฝันนั้นให้เป็นจริง พวกเขาคือทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของสังคม และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต ที่เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ วิศวกร แพทย์ พยาบาล และอื่นๆ แต่ทว่ายังมีช้างเผือกในถิ่นทุรกันดารอีกจำนวนมากที่รอคอยโอกาสดีๆ แบบนี้จากสังคม สนใจร่วมแบ่งปันรอยยิ้มและโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ โครงการนักเรียนทุนสาธิตเสริมสมอง มสธ. โทร.02-504-8503
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท เอ็นจอย คอมมูนิเคชัน จำกัด : เบญจรัตน์ สินสงวน (จอย) โทร : 089-448-9582 หรือ งานประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช : นฤมล ปัทมพันธ์ (น้อง) โทร : 02-503-3641