กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--สามารถคอร์ปอเรชั่น
กลุ่มบริษัทสามารถ เผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 51 ยังคงไปได้สวย แม้จะไม่ได้ตามเป้า แต่ยังคงรักษาอัตรากำไรได้ดี โดยมีรายได้รวมไตรมาส 2 ทั้งสิ้น 3,666 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 % พร้อมประกาศมั่นใจครึ่งปีหลัง รายได้และกำไรของทุกกลุ่มจะดีขึ้น โดยเฉพาะสายธุรกิจไอซีที ซึ่งมีงานประมูลรออยู่นับสิบโครงการ คาดว่าจะมีงานในมือมูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านในสิ้นปี 51
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 7,885 ล้านบาท กำไรสุทธิ 269 ล้านบาท โดยภาพรวมยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ กำไรยังคงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 51 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,666 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิ124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีการรับรู้รายได้พิเศษจากการขายที่ดินในประเทศกัมพูชาหลังหักภาษีประมาณ 50 ล้านบาท
ด้านการดำเนินธุรกิจของสามารถ ไอ-โมบาย ในครึ่งปีที่ผ่านมา จำหน่ายมือถือไปแล้วมากกว่า 2 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ จำหน่ายไปได้ประมาณ 8 แสนเครื่อง โดยประเทศอินโดนีเซียและอินเดีย มีการขยายตัวค่อนข้างสูงจากการที่ตราสินค้าเป็นที่ยอมรับและมียอดสั่งซื้อล๊อตใหญ่อย่างต่อเนื่อง สรุปในไตรมาส 2 กลุ่มสามารถ ไอ-โมบาย มีรายได้รวม 2,385 ล้านบาท ลดลงประมาณ 30% ส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาขายโดยเฉลี่ยต่อเครื่องลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับในไตรมาสสองของปี ถือเป็นช่วง Low season อย่างไรก็ตาม จากต้นทุนขายที่ลดลงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท และที่น่าจับตามองคือธุรกิจคอนเทนต์ โดยบริษัท สามารถ มัลติมีเดีย จำกัด ในไตรมาส 2 มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 15 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ 189 ล้านบาท เมื่อวิเคราะห์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือปัจุบันที่มีมากกว่า 50 ล้านเครื่อง สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจคอนเทนต์ จะยังคงสามารถเติบโตได้อีกไกลในอนาคต
ส่วนกลุ่มสามารถเทลคอม ปีนี้ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างโดดเด่น ในครึ่งปีแรกทำรายได้รวมไปแล้วกว่า 1,315 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 75 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2 ปี 51 มีรายได้รวมประมาณ 700 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 70 % และมีกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 100 % เมื่อเทียบกับไตรมาส
เดียวของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากค่าโครงการ SchoolNetโครงการมิเตอร์ไฟฟ้าและโครงการวางระบบเครื่องข่ายสื่อสารของกระทรวงกลาโหม ยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่เดือนแรกของไตรมาส 3 บริษัทฯ ก็สามารถชนะงานประมูล มูลค่ารวมกว่า 600 ล้านบาท และยังมีแผนเข้าประมูลในโครงการใหม่ๆ อีกนับสิบโครงการทั้งของภาครัฐและเอกชนในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีงานในมือมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ในสิ้นปี 51 ซึ่งส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2552-2553
ในส่วนของสายธุรกิจอื่นๆ ประกอบด้วย
บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมามีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น. 15 % โดยในไตรมาส 2 มีรายได้รวม 174 ล้านบาท และนับจากไตรมาส 3 ปี 51 เป็นต้นไป CATS จะปรับเพิ่มค่าบริการขึ้นอีก 15 % เมื่อผนวกกับการเข้าสู่หน้า High Season ในช่วงครึ่งปีหลัง ก็จะส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ บริษัท Kampot Power Plant จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าป้อนแก่โรงงานปูนซิเมนต์ไทยที่ประเทศกัมพูชา ในครึ่งปีแรก ก็ทำรายได้ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท
สุดท้าย บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด ครึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 221 ล้านบาทและล่าสุดสามารถสร้างชื่อในต่างประเทศอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัลเป็นปีที่สองจากการประกวด Contact Center World Awards ประจำปี 2008 ถึง 2 รางวัล คือ Best Contact Center จากการให้บริการศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า PEA1129 และรางวัล Best Trainer ซึ่งถือเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทคอลล์เซนเตอร์ของไทย
นายวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่า “การดำเนินธุรกิจของกลุ่มสามารถในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งรายได้และกำไรจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะสายธุรกิจไอซีที จากการเร่งใช้งบประมาณของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะมีงานโครงการในมือมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 51 ส่วนกลุ่มสามารถ ไอ-โมบาย จะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นเด่นๆในช่วงครึ่งปีหลังอีก 6 รุ่น ล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัวรุ่นไอ-โมบายทีวี 626 นอกจากนี้ยังจะมีการรับรู้รายได้จากการรับชำระหนี้จากการท่าอากาศยาน AOT อีกประมาณ 400 ล้านบาท และที่สำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะสรุปกลยุทธ์หลักในการสร้างรายได้ประจำของแต่ละสายธุรกิจเพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่อในปีหน้า ซึ่งขณะนี้มีแนวทางค่อนข้างชัดเจนและมีความเป็นไปได้สูง จึงมั่นใจว่าการเติบโตของกลุ่มสามารถจะไม่สะดุด แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองก็ตาม”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม PR.Corp.
วรรษกร ปลื้มจิตต์ (ตุ๊ก) โทร. 085-918-1175
วทิรา ลุยากร (ใหม่) โทร.085-918-1172