กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดตัวดัชนี SET100 ในงาน Top Executives’ Networking Forum
ที่ภูเก็ต เพื่อสะท้อนภาพรวมตลาดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีสินค้ามากขึ้น และยังสอดคล้องกับตลาดชั้นนำในต่างประ
เทศ เผยดัชนี SET100 จะช่วยเสริมสภาพคล่องบริษัทขนาดกลางและเพิ่มทางเลือกลงทุนให้มากขึ้น พร้อม
เริ่มใช้ 3 พ.ค. 48 ด้านบจ. เห็นประโยชน์ช่วยเสริมคุณภาพและการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย เปิดเผยในงาน Top Executives’ Networking Forum 2005 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 4-6
มี.ค. 2548 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดทำดัชนี SET100 เป็นดัชนีราคาเพิ่มเติมจากดัชนี SET
และ SET50 เพื่อให้มีดัชนีที่ ครอบคลุมกิจการขนาดใหญ่ถึงระดับกลาง 100 แห่ง ที่มีสภาพคล่อง และกระ
จายหุ้นเหมาะสม ซึ่งสามารถสะท้อนสภาวะตลาดที่มีมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านบาท ในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
“ปัจจุบัน บริษัทใน SET 50 คิดเป็นเพียง 11% จำนวนบริษัทจดทะเบียน แต่มีมูลค่าการซื้อขาย
มากเกินกว่าครึ่งของมูลค่าการซื้อขายรวม และมีมูลค่าตามราคาตลาดรวมมากถึง 72% ของมูลค่าตลาดรวม
ทั้งหมด ดังนั้น การจัดทำดัชนี SET100 จะช่วยส่งเสริมการกระจายการลงทุนให้ครอบคลุมถึงบริษัทขนาดกลาง
ที่มีคุณภาพ ส่งผลถึงสภาพคล่องของบริษัทที่จะมีมากขึ้นด้วย” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าว
ด้านประโยชน์ต่อบริษัทจดทะเบียน นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท
เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า ดัชนี SET100 จะมีส่วนช่วยผลักดันให้กิจการ
เติบโต มีขนาดและมูลค่าตลาดรวมมากขึ้น เนื่องจากไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนเพิ่ม
มากขึ้น ผู้ลงทุนรายย่อยก็จะ สนใจลงทุนในกิจการที่ติดกลุ่ม SET100 มากขึ้น
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า การถูกรวมเข้าในกลุ่ม SET100 จะส่งผลดีต่อกิจการขนาดกลางมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันผู้ลงทุน
สถาบันและนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จะให้ความสนใจกิจการที่มีขนาดย่อมลงมาจากกลุ่ม SET50 ไม่มากนัก
ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวต่อว่า “สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนเข้ามา
รวมในการคำนวณดัชนี SET100 ใช้เกณฑ์ด้านขนาดสภาพคล่อง และการกระจายหุ้นของบริษัทเช่นเดียวกับ
การคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อคำนวณดัชนี SET50 กล่าวคือ บริษัทใน SET100 และ SET50 จะต้องอยู่ในกลุ่ม
ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดเฉลี่ยต่อวันย้อนหลัง 12 เดือนสูงสุด 200 อันดับแรก มีมูลค่าซื้อขายสม่ำเสมอ และ
มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย (free float) ไม่ต่ำกว่า 20% เป็นต้น โดยหลักทรัพย์ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก
จะนำมาเรียงลำดับตามมูลค่าตามราคาตลาด และให้บริษัท 50 อันดับแรกใช้คำนวณในดัชนี SET50 และ
100 อันดับแรกใช้คำนวณดัชนี SET100”
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อบริษัทที่รวมคำนวณใช้ดัชนี SET100 ในวันที่ 18 เม.ย.
และเริ่มเผยแพร่ ค่าดัชนี SET100 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 48 โดยราคาหลักทรัพย์ในวันที่ 30 เม.ย.
48 เป็นวันฐานและดัชนีเริ่มต้นที่ 1000 จุด
“สำหรับการปรับรายชื่อหลักทรัพย์ในดัชนี SET100 และดัชนี SET50 จะมีการประกาศทุก 6
เดือน คือ ประมาณวันที่ 15 มิ.ย. สำหรับรายชื่อที่ใช้ในครึ่งหลังของปี และวันที่ 15 ธ.ค. สำหรับรายชื่อ
ในครึ่งแรกของปี รายชื่อที่ประกาศจะประกอบด้วยชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET100 และดัชนี
SET50 สำหรับรายชื่อ หลักทรัพย์สำรอง จะถูกนำมาใช้คำนวณในดัชนี ก็ต่อเมื่อมีหุ้นสามัญในดัชนี SET100
หรือดัชนี SET50 เพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าวสรุป
เอกสารประกอบข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฉบับที่ 42/2548 วันที่ 4 มีนาคม 2548
ภาพรวมดัชนีราคาในตลาดหลักทรัพย์ฯ (ข้อมูลระหว่างม.ค. — ก.พ. 48)
สถิติสำคัญ SET SET100 SET50
จำนวนบริษัท 444 บริษัท 23% ของจำนวนบจ. 11% ของจำนวนบจ.
มูลค่าตลาดรวม 4.86 ล้านล้านบาท 81% ของ 72% ของ
มูลค่าตลาดรวม มูลค่าตลาดรวม
มูลค่าการซื้อขาย 810,930 ล้านบาท 73% ของ 59% ของ
มูลค่าซื้อขายรวม มูลค่าซื้อขายรวม
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 /
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--