กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และติดตามเร่งรัดหนี้สิน เตรียมเสนอขายไอพีโอ 75 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายกิจการและชำระหนี้ระยะสั้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ภายในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ โดยวัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นเพื่อจะนำเงินไปใช้ในการขยายกิจการในธุรกิจต่างๆ ของบริษัท รวมทั้งนำไปชำระหนี้ระยะสั้น
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท มีทุนเรียกชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 225 ล้านหุ้น โดยสัดส่วนการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น บริษัทจะทำการเสนอขายให้ประชาชนทั่วไป จำนวน 60 ล้านหุ้น เสนอขายกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท จำนวน 7.5 ล้านหุ้น และเสนอขายผู้มีอุปการะคุณ จำนวน 7.5 ล้านหุ้น
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากธุรกิจหลัก คือ จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริมและสินค้าเทคโนโลยีทั้งค้าปลีกและค้าส่งแล้ว บริษัทยังขยายธุรกิจไปสู่การบริหารพื้นที่ค้าปลีก และธุรกิจบริการติดตามเร่งรัดหนี้และบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจหลัก ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2550 บริษัทมีรายได้รวมที่เติบโตขึ้น โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 5,897 ล้านบาท เทียบกับ 5,192 ล้านบาทในปี 2549 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการปรับขยายธุรกิจของบริษัทในปี 2549-2550 โดยธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัทมีการเติบโตทั้งในด้านค้าปลีก และค้าส่ง
สำหรับร้านค้าของเจมาร์ทซึ่งมีกว่า 191 สาขาทั่วประเทศ ถือเป็นร้านค้าที่มีการวางขายสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ครบทุกรุ่น ทุกแบรนด์มากที่สุด อาทิ Nokia Sony Ericsson Motorola และ Samsung รวมทั้งแบรน์ด์อื่นๆ ในด้านธุรกิจค้าส่งบริษัทได้รับแต่งตั้งจาก Sony Ericsson และ Motorola ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายนับตั้งแต่ปี 2549 ทำให้บริษัทถือเป็นผู้ค้าส่งรายสำคัญของ Sony Ericsson และ Motorola
ส่วนธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ถือเป็นผู้ดำเนินการติดตามเร่งรัดหนี้สินอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยบริษัทมีทีมงานติดตามหนี้สินกว่า 380 คน และมีหนี้ภายใต้การติดตามกว่า 10,000 ล้านบาท
“จากการเติบโตของธุรกิจต่างๆของบริษัท“ในช่วงที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความสามารถในการรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และติดตามเร่งรัดหนี้สิน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกเป็น 57 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 27”นายอดิศักดิ์ กล่าวในตอนท้าย
นางพรพิมล ดำรงศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า JMART ถือเป็นบริษัทที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากฐานะการเงินและเครือข่ายธุรกิจของบริษัทมีความแข็งแกร่ง โดยมีร้านเจ มาร์ท ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศรวม 191 สาขา มีกลยุทธ์ทางการตลาดเฉพาะตัวที่ทำให้บริษัทสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ JMART จะทำการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น พาร์ 1 บาท ขณะที่ราคาเสนอขายยังอยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตามเอเชียพลัสเชื่อว่า ราคาในการเสนอขาย IPO จะเป็นราคาที่สมเหตุสมผลและดึงดูดใจนักลงทุนอย่างแน่นอน โดยอ้างอิงกับสภาพของตลาดโดยรวม ซึ่งเงินที่ได้รับจากการ IPO บริษัทจะนำไปขยายธุรกิจและชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้เจมาร์ท มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น เป็นฐานในการขยายธุรกิจต่อไป และน่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ว่าหุ้นที่ลงทุนไปเป็นหุ้นที่มีความแข็งแกร่งและมีการเติบโตที่ดี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คชภพ สงวนวงศ์
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร. 0-2662-2266
www.124comm.com