บีโอไอหนุนขยายโรงงานสำเร็จรูปลดปัญหาค่าใช้จ่ายกิจการเอสเอ็มอี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 19, 2008 14:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--บีโอไอ
บีโอไอ หนุน อมตะ และ 304 อินดัสเตรียล ยักษ์ใหญ่ผู้ประกอบการนิคมฯ ขยายกิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม มูลค่าเงินลงทุนเฉียด 400 ล้านบาท หวังลดค่าใช้จ่าย และความยุ่งยากจัดหาที่ดินตั้งโรงงานรองรับการลงทุนกลุ่มเอสเอ็มอี เผยตัวเลข 7 เดือน เอสเอ็มอียังลงทุนเพิ่มขึ้น 6.3%
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะทำงานพิจารณาโครงการ ได้ให้การส่งเสริมลงทุน แก่บริษัทอมตะ ซัมมิท เรดดี้ บิลท์ จำกัด และบริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 7 จำกัด มูลค่าเงินลงทุนรวม 380 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและหรือคลังสินค้า ที่มีราคาถูก รองรับกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น ลดภาระในการจัดหาเงินทุน และจัดหาที่ดินเพื่อสร้างโรงงาน ขณะเดียวกันยังจะได้รับความสะดวกในด้านระบบสาธารณูปโภค และจัดการด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
ทั้งนี้ กิจการของบริษัท อมตะ ซัมมิท เรดดี้ บิลท์ จำกัด จะพัฒนาเป็นลักษณะของการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูป จำนวน 11 หน่วย พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 21,750 ตารางหน่วย เงินลงทุนทั้งสิ้น 275 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ นิคมอุตสหากรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี โดยที่ผ่านมา ได้รับการส่งเสริมการลงทุนกิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม มาแล้ว 2 โครงการ ตั้งแต่ปี 2548
สำหรับ บริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 7 จำกัด จะขยายการลงทุนพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและหรือคลังสินค้า เป็นรูปแบบของอาคารชั้นเดียว จำนวน 10 หน่วย พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 14,000 ตารางเมตร เงินลงทุนทั้งสิ้น 105 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ เขตอุตสาหกรรมของบริษัท 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค 7 จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี
“การขยายกิจการของทั้ง 2 บริษัท เพื่อรองรับการลงทุนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ ที่สนใจเข้ามาลงทุน ในประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีโครงการขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้วก่อนหน้านี้ และที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ตามนโยบายสนับสนุนการลงทุนในช่วงปีแห่งการลงทุนของรัฐบาล รวมถึงการลงทุนเพื่อผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ป้อนโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์) ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนไปในปี 2550 ที่ผ่านมา” เลขาธิการบีโอไอกล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กรกฎาคม 2551) มีจำนวนโครงการ 749 โครงการ เพิ่มขึ้น 3.4% จาก 724 โครงการในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าเงินลงทุนของช่วง 7 เดือนแรก 241,600 ล้านบาท แม้จะลดลง 5.9% จากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะว่ามีโครงการขนาดกลางและขนาดย่อม เงินลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาทจำนวนมากถึง 550 โครงการ เพิ่มขึ้น 6.3 % จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ