AP — Pacific Star เปิดตัว RHYTHM รัชดา ที่สุดของคอนโดมิเนียมบนถนนรัชดา มูลค่า 3,200 ล้าน พร้อมจับมือ SCB มอบเอกสิทธิ์ทางการเงินที่พิเศษและแตกต่าง

ข่าวอสังหา Tuesday August 19, 2008 15:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์
AP ประเดิมตลาดคอนโดครึ่งปีหลัง ส่ง “RHYTHM รัชดา” โปรเจ็คร่วมทุนโครงการแรกกับ Pacific Star ลงกวาดตลาดกลุ่ม Metro Life ตอกย้ำความเป็นที่สุดของคอนโดมิเนียมแห่งเดียวบนถนนรัชดา ด้วยยอดขายช่วงพรีเซล 2 วัน เกือบ 80% ตื่นเต้นด้วยผังห้องคอนเซ็ปต์ใหม่แตกต่างด้วยฟังก์ชั่นใช้สอยที่โดนใจคนเมือง ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างดีไซน์เนอร์ไทยและชาวแคนาดา เดินหน้าจับมือ SCB มอบชีวิตดับเบิ้ลแก่ลูกค้า “RHYTHM รัชดา” ด้วยบริการชำระเงินทำสัญญาผ่านบัตรเครดิต และรับพ้อยท์เพิ่มพิเศษ 13-14 กันยานี้ เตรียมเปิดขายห้องชุดในอาคาร B มั่นใจด้วยศักยภาพโครงการจะสามารถปิดการขายทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (AP) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทั้งในส่วนของทาวน์เฮ้าส์ ภายใต้แบรนด์ “บ้านกลางเมืองและบ้านกลางกรุง” บ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “The City และ The Centro” และคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “The Address” และ “Life” นั้น ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยให้คลอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์มากขึ้น บริษัทฯ จึงพร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุดสำหรับสินค้าคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ “RHYTHM” (ริธึ่ม) โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย ระดับอายุ 30-40 ปี มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบ Metro Life มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 50,000-60,000 บาท หรือมีรายได้เฉลี่ยต่อครอบครัวประมาณ 100,000 บาท/เดือน โดยมี “RHYTHM รัชดา” เป็นโครงการนำร่องโครงการแรกภายใต้แบรนด์ดังกล่าว
“บริษัทฯ ได้วางตำแหน่งของแบรนด์ RHYTHM ให้เป็นแบรนด์ที่มีคาเร็คเตอร์ที่โตขึ้นมาจาก Life Condo ที่เป็น Condo for Fun แต่จะไม่เข้มขรึมเท่ากับแบรนด์ คาเร็คเตอร์ของ The Address โดยกลุ่มเป้าหมายของทั้ง 3 แบรนด์จะมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รสนิยม และแพคเก็จราคา ซึ่ง RHYTHM จะเป็นแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาเสริมความแข็งแรงให้กับสินค้าคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ภายใต้จุดแข็งเดิมคือ ความแม่นย่ำในการเลือกสรรทำเลที่ตั้งโครงการ” นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ โครงการ “RHYTHM รัชดา” ถือเป็นโครงการแรกที่เกิดขึ้นจากการประสานความร่วมมือทางธุรกิจกับกลุ่ม แปซิฟิค สตาร์ ในการนำความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาดำเนินงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาให้ RHYTHM รัชดา เป็นคอนโดมิเนียมที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดบนถนนรัชดา ผ่านการทำงานระหว่างดีไซเนอร์ชาวไทย และดีไซเนอร์ชื่อดังชาวแคนาดา Mr.Calum Srigley ผู้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านงานสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก รวมถึงงานอินทีเรียภายใน ซึ่งจุดเด่นของ RHYTHM รัชดา นอกจากจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีรัชดา เพียง 1 เมตรแล้วนั้น ผังห้องชุดของที่นี่ยังพิเศษและแตกต่างจากคอนโดมิเนียมทั่วไป ด้วยการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิดที่ต้องการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในการอยู่อาศัย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดในการอยู่อาศัย ซึ่ง ‘RHYTHM รัชดา’ ถือเป็นโครงการแรกที่เริ่มใช้ผังห้องคอนเซ็ปต์ใหม่นี้
“สำหรับผลจากการผสานความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ เราได้มุมมองใหม่ๆ ในการพัฒนาสินค้าที่ไม่ใช่แต่เรามองเพียงฝ่ายเดียว แต่มีพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญมาช่วยกันมองในมิติที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของโปรดักท์ ดีไซน์ และรูปแบบงานดีไซน์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งทางแปซิฟิค สตาร์ได้เข้ามาช่วยเราเติมเต็มด้านข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในส่วนของชาวต่างชาติเยอะพอสมควร” นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม
สำหรับความแตกต่างของผังห้องคอนเซ็ปต์ใหม่นี้คือ การพัฒนาฟังก์ชั่นภายในห้องชุด ให้รู้สึกได้ถึงพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะห้องชุดขนาด 45 ตารางเมตร ที่บริษัทฯ ออกแบบให้มี 2 ฟังก์ชั่น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน โดยไฮไลท์สำคัญคือ การจัดวางพื้นที่บริเวณส่วนรับประทานอาหารให้มีส่วน Mini Bar ที่สามารถเปิดรับมุมมองกรุงเทพผ่านบานกระจกกว้างกว่า 3 เมตร ซึ่งนี่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่เราพัฒนาขึ้น รวมถึงห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ที่ได้รับการออกแบบให้ทุกห้องนอนติดบานหน้าต่างกว้าง ตื่นเต้นด้วยห้องน้ำที่ดีไซน์แบบ See Through ที่สามารถมองทะลุผ่านได้จากห้องนอนใหญ่ เพิ่มความเซ็กซี่เร้าใจให้กับการใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างลงตัวยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯ ได้เปิด Pre-Sale ในส่วนอาคาร A เมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคมที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทฯ สามารถปิดการขายได้เกือบ 80 % จากจำนวนยูนิตที่เปิดขายเพียง 396 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งยอดขายที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าเก่าที่แสดงความต้องการไว้ล่วงหน้า (Book Build) และอีกส่วนหนึ่งเป็นลูกค้าในทำเลย่านรัชดาเพียงเท่านั้น โดยยอดขายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น สะท้อนได้ถึงศักยภาพของโครงการและแพกเก็จราคาที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่ม เป้าหมายอย่างแท้จริง และในวันที่ 13-14 กันยายนนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดขายห้องชุดในส่วนอาคาร B ผ่านเครื่องมือทางการตลาดที่หลากหลาย ทั้งสื่อทีวี วิทยุ เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ Billboard และกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งในครั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดทำภาพยนตร์โฆษณา 3 ตอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ This is Ratchada เพื่อสื่อสารถึงจุดเด่นโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมแห่งเดียวบนถนนรัชดาภิเษกที่พิเศษและแตกต่างจากคอนโดมิเนียมอื่นๆ ในทำเลเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่โฆษณาเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ แล้ว บริษัทฯ จะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
คุณพริตพอล ซิงห์ กิล ผู้อำนวยการ แปซิฟิค สตาร์ (Mr. Pritpal Singh Gill, Country Head, Pacific Star International (Thailand) Ltd.) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เข้าลงทุนพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ โดยให้ความสำคัญกับนโยบายการสร้างพันธมิตรใหม่ทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นที่ยอมรับในประเทศนั้นๆ ซึ่งสำหรับประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก ซึ่งผลจากการผสานความร่วมมือกับ AP บริษัทฯ รู้สึกประทับใจในหลายๆ เรื่อง เช่น แนวคิดในการดำเนินงานที่ทาง AP มีเป้าหมายในการที่มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดในการอยู่อาศัย ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในตัวสินค้าและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งยอดขายที่เกิดขึ้นในช่วง Pre-Sale ที่ผ่านมาตอกย้ำได้ถึงความเชี่ยวชาญในการวางแผนพัฒนาตัวสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นย่ำ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทีมงานทั้งในส่วน AP และ Pacific Star ทำงานร่วมกันอย่างหนัก ลงลึกในทุกรายละเอียด เพื่อให้ RHYTHM รัชดา เป็นคอนโดมิเนียมที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดแห่งเดียวบนถนนรัชดา ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13-14 กันยายนนี้ จะประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายอย่างแน่นอน
คุณญนน์ โภคทรัพย์ รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับลูกค้าของธนาคารคลอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ประกอบการ (Developer) จนถึง ลูกค้ารายย่อย (Retail) โดยมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เพื่อสนองความต้องการและ Life Style ของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ธนาคารให้ความสำคัญ ธนาคารมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 สำหรับสินเชื่อเคหะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และมีการขยายตลาดด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน มียอดสินเชื่อ 210,000 ล้านบาท โดยในปี 2551 มีเป้าหมายสินเชื่อจำนวน 55,000 ล้านบาท
ทางด้านความร่วมมือกับทาง AP ธนาคารได้ให้การสนับสนุนทั้งด้าน Pre-Finance สำหรับโครงการ RHYTHM รัชดา และดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอบริการที่สะดวกสบาย ด้วยการนำบริการ Direct Debit และ Bill Payment มาช่วยเพิ่มช่องทางในการให้บริการทางการเงินที่หลากหลายและทันสมัยให้แก่ลูกค้าของ AP
ในส่วนของสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโครงการ RHYTHM รัชดา ร่วมกับ AP เริ่มตั้งแต่การให้ Promotion สำหรับผู้ที่ใช้บริการ Direct Debit หักชำระเงินดาวน์ผ่านบัญชีอัตโนมัติ รับสิทธิพิเศษสามารถใช้บัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ในการชำระเงินทำสัญญา และเงินจอง โดยรับคะแนนเพิ่มอีก 1 คะแนน บัตรเครดิตเงินและทองของธนาคารไทยพาณิชย์ จะได้รับคะแนนสะสม เป็น 2 คะแนน และสำหรับบัตร Platinum จะได้รับ เป็น 3 คะแนน และเมื่อหักชำระเงินดาวน์อัตโนมัติครบจะได้รับ ส่วนลดในวันโอนกรรมสิทธิ์ 10,000 บาท จาก AP
ธนาคารมีความภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยในการให้บริการทางการเงินกับกลุ่มลูกค้าของ AP โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะดูแลลูกค้า และพัฒนาบริการทางการเงินอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าพร้อมกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของลูกค้าตลอดไป
“สำหรับบริการพิเศษทางการเงินที่ทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มอบให้เฉพาะลูกค้าโครงการ RHYTHM รัชดา เท่านั้น ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ร่วมมือกับ SCB ในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ภายใต้วิสัยทัศน์ในการทำงานที่สอดคล้องกันคือ การคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ซึ่งบริการชำระเงินทำสัญญาผ่านบัตรเครดิตนั้นถือเป็นอีกมิติหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเชื่อว่าจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก ช่วยลดความเสี่ยงในการถือเงินสด และลดเวลาในการติดต่อซื้อแคชเชียร์เช็ค รวมถึงยังได้รับแต้มสะสมเพิ่มอีกด้วย ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ที่คุ้มค่าครับ” นายอนุพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ