อินเทลจุดพลังเทอร์โบให้โปรเซสเซอร์แบรนด์ คอร์? รุ่นใหม่

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday August 20, 2008 11:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
อินเทล ดิเวลลอปเปอร์ ฟอรัม, ซานฟรานซิสโก, 20 สิงหาคม 2551 — วันนี้ นายแพท เกลซิงเกอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มดิจิตอลเอ็นเตอร์ไพรซ์ ของ อินเทล คอร์ปอเรชัน ได้กล่าวถึงโร้ดแม็ปของอินเทลที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อคอมพิวเตอร์ที่ให้ทั้งสมรรถนะสูงและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้กล่าวถึงคุณสมบัติใหม่ๆ ของโปรเซสเซอร์รุ่นถัดไปของอินเทล ซึ่งรวมถึงโหมดเทอร์โบรุ่นใหม่ ที่ทำให้โปรเซสเซอร์ทำงานได้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไร้ปัญหาเรื่องของความร้อน
ชิปสำหรับเดสก์ท้อปที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่รุ่นแรกของอินเทลซึ่งใช้ชื่อแบรนด์ว่า “อินเทล? คอร์? ไอเซเวน โปรเซสเซอร์ (Intel? Core? i7 processor) และผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงซึ่งใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (รหัส Nehalem-EP) จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตก่อนเป็นอันดับแรก และในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 อินเทลยังมีแผนที่จะผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์รุ่นที่สองสำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์แบบขยายตัวได้ (รหัส Nehalem-EX) ชิปสำหรับเดสก์ท้อปพีซี (รหัสHavendale และ Lynnfield) และชิปสำหรับอุปกรณ์โมบายล์ (Auburndale และ Clarksfield) อีกด้วย
นอกจากนั้นสถาปัตยกรรม คอร์ ไมโครอาร์คิเทคเจอร์ รุ่นต่อไปยังมีเทคโนโลยีอินเทล? ไฮเปอร์-เธรดดิ้ง* ในตัวโดยโปรเซสเซอร์รุ่นแรกจะสามารถประมวลผล 8 งานได้พร้อมกันในโครงสร้างโปรเซสเซอร์แบบ 4 คอร์ ผนวกกับเมมโมรีแบนด์วิธที่ดีที่สุดในกลุ่ม อันเป็นผลมาจากระบบการเชื่อมต่อ QuickPath Interconnect รุ่นใหม่นั่นเอง QuickPath คือเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อโปรเซสเซอร์ ชิปเซ็ต และเมมโมรีเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้เมมโมรีแบนด์วิธเพิ่มขึ้นได้มากที่สุดถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันคอร์ ไมโครอาร์คิเทคเจอร์ รุ่นก่อนหน้านี้
สำหรับ อินเทล ซีออน โปรเซสเซอร์ รุ่น X7460 รุ่นใหม่แบบ 6 คอร์ซึ่งมีแคช L3 ขนาด 16 เมกะบิต (MB) สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบขยายตัวได้ที่จะเริ่มมีจำหน่ายในเดือนกันยายนนั้น มีประสิทธิภาพที่ทำลายสถิติโลกไปแล้ว1 โดยเมื่อนำเอาโปรเซสเซอร์รุ่นนี้ไปติดตั้งอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ แบบ 8 ซ็อคเก็ตของไอบีเอ็มรุ่น System X* 3950 M2 สามารถทำคะแนนผลการทดสอบทำลายสถิติทะลุผ่านหลัก 1 ล้านรายการข้อมูลภายใน 1 นาทีแล้ว โดยใช้เครื่องมือทดสอบ TPC* ได้ระดับC Benchmark ส่วนเซิร์ฟเวอร์แบบ 4 ซ็อคเก็ตที่ทำสถิติประสิทธิภาพจากการทดสอบต่างๆ มี อาทิ เซิร์ฟเวอร์ HP Proliant* รุ่น DL580 G5 ทำสถิติจากการทดสอบ TPC* ระดับ C เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge* รุ่น R900 ทำสถิติจากการทดสอบ TPC* ระดับ E เซิร์ฟเวอร์ Sun Fire* รุ่น X4450 ทำสถิติจากการทดสอบ SPECjbb*2005 และเซิร์ฟเวอร์ Fujitsu-Siemens PRIMERGY* รุ่น RX600 S4 ทำสถิติจากการทดสอบ SPECint*_rate2006
นอกจากนั้นนายเกลซิงเกอร์ยังได้พูดถึงสถาปัตยกรรมแบบหลายคอร์ของอินเทล ซึ่งเป็นตัวแรกของอุตสาหกรรมมีชื่อรหัสว่า Larrabee ที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในปี 2552 หรือ 2553 นี้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดแรกที่ใช้เทคโนโลยีจาก Larrabee จะมุ่งเจาะตลาดประเภทกราฟิกแบบแยกการ์ดสำหรับคอมพิวเตอร์เพื่อผู้บริโภคทั่วไปเป็นหลัก พร้อมรองรับ DirectX และ OpenGL และรองรับการทำงานของเกมและโปรแกรมต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ อินเทลคาดว่า Larrabee จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างและปรับแต่งซอฟต์แวร์ทั่วทั้งอุตสาหกรรมเพื่อรองรับคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงในอนาคตซึ่งจะมีการใช้โครงสร้างหลายร้อยหรือหลายพันคอร์พร้อมกัน
นอกจากนั้นเขายังได้พูดถึงวิสัยทัศน์ของอินเทลเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตในยุคต่อไปด้วย ซึ่งเรียกว่า Embedded Internet โดยในตอนนี้ตลาดเกิดใหม่มีการใช้ระบบประมวลผลแบบฝังตัวกันมากขึ้น อาทิ ระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัย IP ระบบวิดีโออัจฉริยะ ระบบงานทางการแพทย์ ระบบข้อมูลและความบันเทิงในรถยนต์ รวมทั้งระบบอัตโนมัติในบ้านพักอาศัยที่จะได้ประโยชน์เพิ่มมากขึ้นจากระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ติดต่ออยู่ตลอดเวลา นายเกลซิงเกอร์กล่าวว่าตลาดนี้ก็คือโอกาสในการเติบโตอีกแบบหนึ่งสำหรับอินเทลและอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งเขาคาดว่าการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Embedded Internet จะทำให้มีอุปกรณ์ถึง 1.5 หมื่นล้านชิ้นที่จะใช้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตในอนาคต
ทิศทางของระบบประมวลผลในขณะเดินทาง
นายเดวิด (ดาดี) เพิร์ลมัตเตอร์ รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มโมบิลิตี้กรุ๊ปของอินเทล แสดงให้เห็นว่าอินเทลจะมีโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดทุกแง่มุม โดยในวันนี้เขาได้ทำการสาธิตแพลตฟอร์มโน้ตบุ๊กที่ใช้งานได้ที่จะเริ่มจำหน่ายในช่วงครึ่งกลางของปี 2552 ซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า “Calpella” มาแสดงเป็นครั้งแรก
นายเพิร์ลมัตเตอร์กล่าวว่า "Calpella” จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประมวลผลในขณะเดินทาง โดยจะช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสกับระบบแสดงผลรุ่นใหม่ที่น่าทึ่งกว่าเดิม มีระบบบริหารและระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้นกว่าเดิม มีระบบเทอร์โบโหมดที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น บวกกับระบบควบคุมพลังงานรุ่นใหม่สำหรับโน้ตบุ๊กโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการประมวลผลแบบโมบายล์ที่ไร้ข้อจำกัดโดยสิ้นเชิง"
เปิดตัวโมบายล์โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่
หลังจากการเปิดตัว อินเทล? เซนทริโน?2 โปรเซสเซอร์ เทคโนโลยี ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายเพิร์ลมัตเตอร์ได้เปิดตัวเวิร์คสเตชั่นบนโน้ตบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์แบบคว๊อดคอร์เป็นตัวแรก โดยโปรเซสเซอร์ที่ใช้คือ อินเทล? คอร์?2 เอ็กซ์ตรีม โปรเซสเซอร์ ซึ่งแม้จะมีถึง 4 แกนประมวลผล แต่ใช้พลังงานเพียง 45 วัตต์เท่านั้น
นอกจากนั้น เพิร์ลมัตเตอร์ ยังได้เปิดตัวดูอัล คอร์ โปรเซสเซอร์รุ่นที่สอง เพื่อใช้กับโน้ตบุ๊กที่มีความบางและเบาเป็นพิเศษ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ในขณะนี้อีกด้วย
นอกจากนั้นเขายังได้พูดถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นในแพลตฟอร์มโมบายล์ที่กำลังจะเปิดตัวอีก อาทิ ผลิตภัณฑ์ SATA Solid-State Drive ประสิทธิภาพสูง เพื่อช่วยให้ระบบตอบสนองได้เร็วขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง ทำงานได้อย่างสมบุกสมบันและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีระบบ Intel Anti-Theft Technology ซึ่งประกอบด้วยกลไกแยกแยะและตอบสนองอัจฉริยะระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการไอทีหรือบริษัทผู้ให้บริการ ปิดการทำงานของแพลตฟอร์มและ/หรือการเรียกใช้ข้อมูลได้ ในกรณีที่ตัวเครื่องถูกขโมยหรือสูญหาย โดยเทคโนโลยีนี้จะออกสู่ตลาดในปลายปีนี้
พบกับระบบสื่อสาร WiMAX ในเร็วๆนี้
การเปิดให้บริการเครือข่าย WiMAX 4G ทั่วโลกจะหมายถึงการเชื่อมต่อไปยังแพลตฟอร์มและอุปกรณ์โมบายล์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาที่ Sprint XOMM* มีแผนที่จะเปิดให้บริการเครือข่ายทั่วเมืองบัลติมอร์ในเดือนกันยายนนี้ ถ้าหากพูดถึงการใช้งานระดับโลกแล้ว จะมีการทดสอบเครือข่าย WiMAX มากกว่า 400 แห่ง2 เพื่อช่วยให้รูปแบบการทำงานโมบายล์ของผู้ใช้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นอกจากนั้นเพิร์ลมัตเตอร์ยังได้ประกาศว่าตอนนี้ Dell ได้เข้าร่วมกับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่นๆอย่าง Acer, Asus, Lenovo, Panasonic และ Toshiba ที่จะใส่โมดูล Intel WiMAX/WiFi Link 5050 Series ลงไปในสายผลิตภัณฑ์โน้ตบุกรุ่นต่อไปของตนด้วย
บาร์เรตต์เชิญชวน "ร่วมด้วยช่วยกัน"
ในช่วงของการกล่าวเปิดงาน นายเครก บาร์เรตต์ ประธานของของอินเทลแสดงความชื่นชมต่อชุมชนนักพัฒนาที่สร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลทำให้ธุรกิจและวงการบันเทิงก้าวหน้าอย่างมากในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา เขากล่าวว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นและผลงานของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไร้พรมแดนและเรียกร้องให้พวกเขาร่วมมือกันและใช้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของตนเองเพื่อก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้คนหลายพันล้านคนที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจเสรีของโลกอยู่ในตอนนี้
นายบาร์เรตต์ซึ่งเป็นประธานของโครงการนำเทคโนโลยีไปใช้ในประเทศกำลังพัฒนาของสหประชาชาติด้วยกล่าวว่า "เทคโนโลยีก็คือเครื่องมืออย่างหนึ่งที่สามารถสนองตอบต่อความท้าทายเร่งด่วนที่สุดในปัจจุบัน ทั้งทางด้านการแพทย์ การศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม ผู้คนในทุกชาติต่างประสบปัญหาแบบเดียวกัน ดังนั้นผมจึงอยากขอเรียกร้องให้ทุกคนมาร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าว"
นอกจากนั้นบาร์เรตต์ยังได้ประกาศว่าอินเทลจะให้รางวัลมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐจำนวน 4 รางวัลแก่แนวคิดที่มีความสร้างสรรค์ทางนวัตกรรมมากที่สุดในการนำเอาเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้เพื่อสนองตอบต่อความต้องการที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในด้านการศึกษา การแพทย์การพัฒนาเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม ซึ่งแนวคิดต่างๆที่นำเสนอมาจะถูกประเมินในด้านปัจจัยเรื่องความยั่งยืนและนวัตกรรมของแนวคิดที่นำไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมอบรางวัล INSPIRE-EMPOWER Challenge ดูได้ที่ www.intelchallenge.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ