รายงานสถานการณ์อุทกภัย สภาวะอากาศ และปริมาณน้ำฝน วันที่ 20 สิงหาคม 2551 เวลา 07.00 น.

ข่าวทั่วไป Wednesday August 20, 2008 13:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอรายงานสถานการณ์อุทกภัย สภาวะอากาศ และปริมาณน้ำฝน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2551)ดังนี้
1. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2551 เวลา 06.00 น. ดังนี้
ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรงประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนหนาแน่นและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ หนองคาย และนครพนมระมัดระวังอันตรายจากภาวะที่ฝนตกหนักอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นในระยะ1-2วันนี้ไว้ด้วย
2. ปริมาณน้ำฝนตั้งแต่ 01.00 น. วันที่ 19 ส.ค.51 ถึง 01.00 น. วันที่ 20 ส.ค.51 ดังนี้
จังหวัดเพชรบูรณ์ (อ.เมือง) 37.3 มม. จังหวัดหนองคาย (อ.เมือง) 102.1 มม.
จังหวัดกาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ) 25.0 มม. จังหวัดตลาด (อ.คลองใหญ่) 65.3 มม.
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อ.หัวหิน) 14.3 มม. จังหวัดตรัง (ท่าอากาศยานตรัง) 6.5 มม.
กรุงเทพมหานคร (เขตคลองเตย) 27.1 มม.
3. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ(ข้อมูล ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2551)
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 45,621 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด น้อยกว่าปี 2550 (47,407ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 1,786 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 3 ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ทั้งหมดวันนี้ 232.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายวันนี้ 115 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 6,610 และ 6,563 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 49 และ 69 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมดตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 13,173 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายรวมกันทั้งสองอ่างฯวันนี้ 16.95 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่าง (หน่วย:ล้านลูกบาศก์เมตร ) ได้แก่
อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ระบาย ปริมาณน้ำ
รับได้อีก
ปริมาตรน้ำ %ของความจุ ปริมาตรน้ำ %ของความจุ เฉลี่ยทั้งปี วันนี้ สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.51 วันนี้ เมื่อวาน
1.แม่กวงฯ 42 16 28 11 186 0.60 54 0.03 0.03 221
2.อุบลรัตน์ 662 29 252 11 2,271 3.60 1,078 3.71 3.66 1,602
3.ป่าสักชลสิทธิ์ 253 26 250 26 2,200 18.50 761 17.42 17.42 707
4. บางพระ 33 28 18 15 44 0.07 11 0.09 0.09 84
4.สรุปสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม(ระหว่างวันที่ 11-20 สิงหาคม 2551)เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขง มีปริมาณน้ำสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มริมฝั่งหลายพื้นที่
4.1 พื้นที่ประสบภัยรวม 7 จังหวัด 42 อำเภอ 298 ตำบล 2,245 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย น่าน นครพนม สกลนคร หนองคาย เพชรบูรณ์ และมุกดาหาร
4.2 ความเสียหาย
1) ผู้เสียชีวิต 4 คน (จังหวัดนครพนม 1 คน จังหวัดหนองคาย 3 คน)ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 91,669 ครัวเรือน 372,063 คน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 988 หลัง ถนน 717 สาย สะพาน 58 แห่งพื้นที่การเกษตร 100,830 ไร่ สัตว์ปีก 2,454 ตัว ปศุสัตว์ 168 ตัว บ่อปลา/กุ้ง 1,543 บ่อ ทำนบ 36 แห่ง ฝาย 82 แห่งท่อระบายน้ำ 309 แห่ง วัด 16 แห่ง โรงเรียน 25 แห่ง สถานที่ราชการ 48 แห่ง
3) มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 223,530,060 บาท
5. สถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดน่าน เพชรบูรณ์เชียงรายและสกลนคร ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 3 จังหวัด ได้แก่จังหวัด หนองคาย นครพนม และมุกดาหาร ดังนี้
5.1 จังหวัดหนองคาย ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 9 อำเภอ 31 ตำบล 165 หมู่บ้าน เสียชีวิต 3 คน (อ.ศรีเชียงใหม่ 1 คน, อ.รัตนวาปี 1 คน, อ.เมือง 1 คน) ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่
1) อำเภอเมืองจำนวน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหาดคำ ตำบลกวนวัน (หมู่ที่ 1-6) ตำบลในเมืองและตำบลเวียงคุก (หมู่ที่ 3,4)ระดับน้ำสูง 0.10-0.40 ม. มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นางสาวศิริลักษณ์ คำมงคุณ อายุ 15 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 4 ตำบลสีกาย(17 ส.ค.51)
2) อำเภอท่าบ่อ จำนวน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลกองนาง (หมู่ที่ 1-13) ตำบลโพนสก (หมู่ที่ 2,6) ตำบลนาข่า (หมู่ที่ 1-8) ตำบลท่าบ่อ (หมู่ที่ 2,5,8,9) ตำบลน้ำโมง (หมู่ที่ 1-13) ระดับน้ำสูง 0.10-0.40 ม.
3) อำเภอศรีเชียงใหม่ จำนวน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลพานพร้าว (หมู่ที่ 1-15) ตำบลบ้านหม้อ (หมู่ที่ 1-8) ตำบลพระพุทธบาท (หมู่ที่ 1-10) และตำบลหนองปลาปาก (หมู่ที่ 1-10) ระดับน้ำสูง 0.10-0.40 ม. มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายไร อุมะมา อายุ 60 ปี 64 หมู่ที่ 5 บ้านขุมคำ ตำบลหนองปลาปาก (16 ส.ค.51)
4) อำเภอสังคม จำนวน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านม่วง (หมู่ที่ 1-3) ตำบลสังคม (หมู่ที่ 1-2) ตำบลแก้งไก่ (หมู่ที่ 3-5) และ ตำบลผาตั้ง (หมู่ที่ 2,3) ระดับน้ำสูง 0.10-0.30 ม.
5) อำเภอปากคาดจำนวน 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลปากคาด ตำบลนากั้ง ตำบลนาคง และตำหนองยอง ระดับน้ำสูง 0.20-0.40 ม.
6) อำเภอรัตนวาปี จำนวน 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลพระบาทนาสิงห์ (หมู่ที่ 1-17) ตำบลโพนแพง(หมู่ที่ 1-13) ตำบลรัตนวาปี (หมู่ที่ 1-12)ตำบลทับไฮ (หมู่ที่ 1-11)และตำบลบ้านดอน (หมู่ที่ 1-9)ระดับน้ำสูง 0.10-0.30 ม. มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ ด.ช.สหรัฐ พึ่งบุญลือ อายุ 8 ปี บ้านตาลชุม ตำบลรัตนวาปี
7) อำเภอบึงกาฬ เกิดฝนตกหนักและแม่น้ำโขงเอ่อล้นทำให้เกิดน้ำท่วมใน 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลหอคำ และตำบลไคสี ระดับน้ำสูง 0.10-0.30 ม.
การให้ความช่วยเหลือจังหวัดหนองคาย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองคาย ที่ทำการปกครองอำเภอที่ประสบภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลในพื้นที่ เหล่ากาชาดจังหวัด มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 25 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคาย แขวงการทาง ทางหลวงชนบทจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด วีอาร์กู้ภัยหนองคาย และมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก
อนึ่ง น้ำที่ท่วมขังชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งทำความสะอาดถนน และสิ่งสาธารณประโยชน์แล้ว
5.2 จังหวัดนครพนมตามที่ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรพื้นที่ 5 อำเภอ 18 ตำบล 240 หมู่บ้าน (มีผู้เสียชีวิต 1 คน อ.โพนสวรรค์) ได้แก่ อำเภอท่าอุเทนอำเภอนาทม อำเภอศรีสงคราม อำเภอบ้านแพงอำเภอโพนสวรรค์นั้น ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร ของ 5 อำเภอ ดังนี้อ.ท่าอุเทน (3 ตำบล) 1,057 ไร่อ.นาทม (3 ตำบล) 9,360 ไร่ อ.ศรีสงคราม (8 ตำบล) 14,713 ไร่ อ.บ้านแพง (1 ตำบล) 1,000 ไร่ อ.โพนสวรรค์ (3 ตำบล) 2,000 ไร่ ระดับน้ำ สูงประมาณ 0.20-0.40 ม.แนวโน้มระดับน้ำแม่น้ำโขงลดลง ทำให้ลำน้ำสงครามระบายลงสู่แม่น้ำโขงได้เร็วขึ้น
การให้ความช่วยเหลือ
จังหวัด อำเภอ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มอบถุงยังชีพ 5,000 ชุด เรือท้องแบน 14 ลำ เหล่ากาชาดจังหวัดสนับสนุนชุดยาเวชภัณฑ์ 2,000 ชุด กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง ในเขตเทศบาลเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกไปสำรวจและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
5.3 จังหวัดมุกดาหาร ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ประกอบกับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลมาจากจังหวัดนครพนมมีปริมาณสูง เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 2 อำเภอ 5 ตำบล 18 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองและอำเภอหว้านใหญ่ นั้น ปัจจุบันระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำการเกษตรบางพื้นที่(ระดับน้ำสูง 0.20-0.40 ม)
6. สิ่งของพระราชทาน
1) ในวันนี้ (19 ส.ค.51) กองงานพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำโดยพลอากาศเอก ทรงศักดิ์ ตะวันแจ้ง ผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯเป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่พื้นที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม จำนวน 1,500 ชุด
2)เมื่อวันที่ 18 ส.ค.51มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำโดยประธานกรรมการบริหาร (นายดิสธร วัชโรทัย) และเลขาธิการฯ(นายประสงค์ พิฑูรกิจจา)เป็นผู้แทนพระองค์เดินทางไปมอบสิ่งของพระราชทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 500 ชุด จังหวัดอำนาจเจริญ จำนวน 500 ชุด จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 500 ชุด
3) เมื่อวันที่ 18 ส.ค.51 มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นำโดย นายอภัย จันทนะจุลกะรองประธานมูลนิธิฯ นำถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนคพนม ณองค์การบริหารส่วนตำบลท่าค้อ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนมจำนวน 725ชุด
ระดับน้ำในแม่น้ำโขง วันนี้ (20 ส.ค.51) เวลา 06.00 น.
- สถานีอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย วัดระดับน้ำได้ 7.84 เมตร (ระดับตลิ่ง 11.80 ม.)ต่ำกว่าตลิ่ง 3.96 ม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (ระดับสูงสุดวัดได้ 10.68 ม. เมื่อวันที่ 12 ส.ค.51)
- สถานีอำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย วัดระดับน้ำได้ 11.96 เมตร (ระดับตลิ่ง 12.20 ม.)ต่ำกว่าตลิ่ง 0.24 ม. มีแนวโน้มลดลง (ระดับสูงสุดวัดได้ 13.60 ม. เมื่อวันที่ 15 ส.ค.51)
-สถานีอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม วัดระดับน้ำได้ 12.38 เมตร (ระดับตลิ่ง 12.45 ม.)ต่ำกว่าตลิ่ง0.07 ม. มีแนวโน้มลดลง (ระดับสูงสุดวัดได้ 12.66 ม. เมื่อวันที่ 17 ส.ค.51)
- สถานีอำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร วัดระดับน้ำได้ 12.41 เมตร (ระดับตลิ่ง 12.60 ม.)ต่ำกว่าตลิ่ง 0.19 ม. มีแนวโน้มลดลง (ระดับสูงสุดวัดได้ 12.72 ม. เมื่อวันที่ 17 ส.ค.51)
- สถานีอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี วัดระดับน้ำได้ 13.55 เมตร (ระดับตลิ่ง 16.20 ม.)ต่ำกว่าตลิ่ง 2.65 ม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
7.การสนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก่จังหวัดที่ประสบอุทกภัยของหน่วยงาน
1) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 (ขอนแก่น) เขต 7 (สกลนคร) ได้ระดมกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ เครื่องมืออุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯเขตต่าง ๆ เข้าไปช่วยเหลือและฟื้นฟูบูรณะในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ดังนี้
1.1 ประเภทและจำนวนเครื่องจักรกล
- เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และเครื่องมืออุปกรณ์ 12 คัน/เครื่อง เรือท้องแบน 43 ลำ สะพานแบลีย์ ขนาด 15 เมตร รถผลิตน้ำดื่ม 2 คัน
1.2 เจ้าหน้าที่ 60 คน
2) กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 เครื่อง ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัย ดังนี้ จังหวัดสกลนคร 5 เครื่อง นครพนม 3 เครื่อง เชียงราย 5 เครื่อง และจังหวัดหนองคาย 17 เครื่อง
8. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ระหว่างวันที่ 19-23 ส.ค.51ดังนี้
เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงขอให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3(ปราจีนบุรี) เขต 5(นครราชสีมา) เขต 6(ขอนแก่น) เขต 7(สกลนคร) เขต 8(กำแพงเพชร) เขต 9(พิษณุโลก) เขต 10 (ลำปาง) และจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์หนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานีสุรินทร์ ศรีสะเกษ นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์
9. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์คืบหน้าประการใด จักได้ติดตามและรายงานให้ทราบต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ