ผลการบริหารจัดการหนี้สาธารณะภาครัฐ ประจำเดือนกรกฎาคม 2551 และรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551

ข่าวทั่วไป Thursday August 21, 2008 11:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนกรกฎาคม 2551 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนกรกฎาคม 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดโดยการแปลงเป็นพันธบัตรรัฐบาล วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 17,592 ล้านบาท โดยทำการ Roll Over วงเงิน 1,650 ล้านบาท และ Refinance วงเงิน 15,942 ล้านบาท โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพและการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงิน 650 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ และการเคหะแห่งชาติและการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการ Refinance หนี้เดิม วงเงิน 4,800 ล้านบาท และ 11,142 ล้านบาท ตามลำดับ รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 1
หนี้ต่างประเทศ
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการ Prepay วงเงิน 0.08 ล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 0.01 ล้านบาท และทำการ Refinance วงเงิน 3,092 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรการรถไฟแห่งประเทศไทย วงเงิน 2,000 ล้านบาท และการกู้เงินธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงิน 1,092 ล้านบาท ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ 364 ล้านบาท
1.2 ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ในประเทศวงเงินรวม 85,657 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงิน 15,000 ล้านบาท ตั๋วเงินคลัง วงเงิน 21,000 และพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 49,657 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll Over และ Refinance หนี้เดิมรวม 80,926 ล้านบาท
หนี้ต่างประเทศ
รัฐบาลได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 22,361 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 2 ล้านบาท Refinance วงเงิน 17,328 ล้านบาท และ Swap วงเงิน 5,031 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 1,589 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศวงเงินรวม 12,291 ล้านบาท โดยเป็นการ Prepay วงเงิน 1,699 ล้านบาท เป็นการ Roll Over วงเงิน 7,500 ล้านบาท และเป็นการ Refinance วงเงิน 3,092 ล้านบาท ทำให้สามารถลดภาระดอกเบี้ยรวม 622 ล้านบาท รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 2
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนกรกฎาคม 2551
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชยการขาดดุล งบประมาณ โดยเป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงินรวม 809 ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 2,200 ล้านบาทโดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการไฟฟ้านครหลวงและ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วงเงิน 1,000 ล้านบาท และ 1,200 ล้านบาทตามลำดับ
ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 219,441 ล้านบาท โดยเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 157,700 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 61,741 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนกรกฎาคม 2551
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 11,636 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 165 ล้านบาทดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 11,471 ล้านบาท
ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2551
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 112,452 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 มีจำนวน 3,373,669 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.82 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,158,780 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 954,824 ล้านบาทหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 96,115 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 142,981 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 20,969 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลง 26,459 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 22,034 ล้านบาท และ 14,287 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินและหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 5,243 ล้านบาท และ 4,619 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 5
การลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ที่รัฐบาลกู้ตรงและหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้ตรงลดลงสุทธิ 22,034 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการชำระคืนหนี้ต่างประเทศ Japanese yen bond ที่ครบกำหนด จำนวน 48,000 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 15,134 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้ในประเทศสำหรับตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนด จำนวน 40,000 ล้านบาท และรัฐบาลได้ปรับโครงสร้างหนี้ ตั๋วเงินคลังที่ครบกำหนดโดยการแปลงเป็นพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 16,000 ล้านบาท รวมทั้งได้ออกตั๋วเงินคลัง จำนวน 12,000 ล้านบาท เพื่อบริหารเงินสด และออกพันธบัตรออมทรัพย์ จำนวน 500 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 2,500 ล้านบาท เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ 14,287 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรกองทุนที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน จำนวน 14,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 5,243 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ทั้งในส่วนที่รัฐบาลค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,005 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 4,771 ล้านบาท และหนี้ในประเทศลดลงสุทธิ 2,766 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเคหะแห่งชาติได้ชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะยาว จำนวน 4,800 ล้านบาท และออกพันธบัตร จำนวน 2,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 3,238 ล้านบาท รายการ ที่สำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น 4,556 ล้านบาท และหนี้ในประเทศลดลงสุทธิ 1,318 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ไถ่ถอนพันธบัตร วงเงิน 358 ล้านบาท และการประปานครหลวงและบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะยาว จำนวน 865 ล้านบาท และ 150 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 4,347 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการออกพันธบัตรของธนาคารอาคารสงเคราะห์ วงเงิน 5,000 ล้านบาท และการชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงเงิน 653 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ 3,373,669 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 386,537 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.46 และหนี้ในประเทศ 2,987,132 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.54 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,205,088 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.00 และหนี้ระยะสั้น 168,581 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.00 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 6 และ 7 ตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ