ไนท์แฟรงค์ฯ (ประเทศไทย) ชี้ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ

ข่าวอสังหา Thursday August 21, 2008 13:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์
ในสภาวะที่ค่าวัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้นและเศรษฐกิจในประเทศมีการชะลอตัว ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ยังคงไปได้ดีในครึ่งแรกปี 2551 ฝ่ายวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จำนวนอุปทานในตลาดมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนอุปทานของคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 ประมาณ 10,682 ยูนิต (จำนวนอุปทานนี้รวมเฉพาะคอนโดมิเนียมที่อยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ, สุขุมวิท, พระราม 3, ริมแม่น้ำ และบริเวณอื่น ๆ ที่ไม่ไกลจากย่านกลางกรุงมากนัก) เมื่อเปรียบเทียบกับอุปทานของคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในปี 2550 ซึ่งมีจำนวนอยู่ที่ 20,744 ยูนิตนั้น จำนวนอุปทานที่เปิดตัวในครึ่งแรกของปีนี้ คิดเป็น 52% ของจำนวนอุปทานที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจมีการชะลอตัวและผู้คนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น คอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ สามารถมีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ในช่วงครึ่งแรกของปี เมื่อเปรียบเทียบระหว่างจำนวนยูนิตที่ขายไปและจำนวนอุปทานที่เปิดตัวใหม่ พบว่ามีจำนวนที่ขายไปทั้งสิ้น 15,268 ยูนิต ในครึ่งแรกของปี 2551 ซึ่งมีจำนวนมากกว่าอุปทานที่เปิดตัวใหม่ในครึ่งแรกของปีอยู่ประมาณ 43% ผลการสำรวจของไนท์แฟรงค์ (ประเทศไทย) พบว่าผู้คนยังมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียม ถึงแม้ว่าประเทศกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมือง, สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน, และอัตราเงินเฟ้อที่สูงก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ๆ มักตั้งอยู่บริเวณรัชดาภิเษก, สุขุมวิทรอบนอก, ถนนกรุงธนบุรี, และลาดพร้าว ซึ่งยังคงเป็นทำเลเดียวกับคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ๆ ที่เปิดตัวในครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในครึ่งแรกของปี 2551 ส่วนใหญ่ จะเน้นห้องชุดที่มีขนาดเล็ก เช่น ห้องสตูดิโอ และ ขนาด 1 ห้องนอน ทั้งนี้เพราะราคาของห้องชุดขนาดเล็กมีราคาที่ถูกกว่าห้องชุดขนาดใหญ่ ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ มีการปรับตัวสูงขึ้นจากราคาขายในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมาประมาณ 24% ซึ่งทั้งนี้ เป็นผลมาจากค่าวัสดุก่อสร้างและราคาที่ดินที่แพงขึ้น แนวโน้มสำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯในข่วงครึ่งหลังของปี 2551
1. ราคาขายจะอยู่ในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าวัสดุก่อสร้างที่แพงขึ้น
2. ค่าวัสดุก่อสร้างที่แพงและที่ดินที่สามารถนำไปพัฒนาสิ่งปลูกสร้างใหม่เริ่มมีจำกัด จะทำให้จำนวนอุปทานของคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ในย่านกลางกรุงช่วงครึ่งหลังของปี 2551 มีน้อยลง
3. เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อความต้องการซื้อคอนโดมิเนียม
4. คอนโดมิเนียมที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินจะยังคงได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ซื้อ หมายเหตุ: คอนโดมิเนียมใหม่ที่เปิดตัวในบริเวณที่ไกลจากย่านกลางกรุง เช่น คอนโดมิเนียมบริเวณเกษตร-นวมินทร์, รามอินทรา, ประชาชื่น, รามคำแหง, จรัญสนิทวงศ์, ปิ่นเกล้า, และศรีนครินทร์ ไม่ถูกนำมารวมอยู่ในจำนวนอุปทาน เนื่องจากไม่ได้อยู่ขอบเขตการศึกษาตลาดของบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ที่มา: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร.0-2643-8223 ต่อ 138

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ