กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--กระทรวงยุติธรรม
กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ จัดกิจกรรมเถ้าแก่หลังกำแพง มหกรรมอาชีพอิสระราชทัณฑ์ สร้างงาน สร้างโอกาสคืนคนดีสู่สังคม ร่วมกับพันธมิตร 12 หน่วยงาน “สุวัจน์” วาดฝันไม่หยุดแค่นี้จะทำโครงการปั้นนักกีฬาจากเรือนจำ ประสานกับ คกก.โอลิมปิก สมาคมมวย สมาคมยกน้ำหนักแล้ว นอกจากนี้อาจจัดให้มีการประกวดทัณฑสถานดีเด่นเพื่อสร้างแรงจูงใจในการร่วมสร้างคนดีสู่สังคม
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2548 เวลา 10.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานเถ้าแก่หลังกำแพง มหกรรมอาชีพอิสระราชทัณฑ์ และร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการส่งเสริมและพัฒนา ผู้ประกอบการธุรกิจ “โครงการสร้างอาชีพ คืนคนดีสู่สังคม” ระหว่างกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับพันธมิตร 12 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) สำนักงานการบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สพว.) องค์การพันธกิจเรือนจำคริสเตียน ในประเทศไทย ธนาคารออมสิน (สำนักงานใหญ่) กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัทชายสี่บะหมี่เกี๊ยว และกรมคุมประพฤติ ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดปทุมธานี
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษออกไปแล้วสามารถประกอบอาชีพอิสระได้ด้วยตัวเอง โดยการจัดหาทุนในการประกอบอาชีพให้ ดังนั้น กรมราชทัณฑ์ จึงได้แสวงหาองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา กลุ่มแม่บ้าน สถาบันการเงินต่าง ๆ เข้ามาร่วมโครงการฯ เพื่อให้สังคมเกิดการยอมรับในตัวผู้ที่พ้นโทษออกไป มีงานมีอาชีพ ไม่ล้มเหลวในการประกอบอาชีพ ส่งผลให้ไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณหน่วยงานทั้ง 12 หน่วยงาน ที่เห็นความสำคัญและให้การสนับสนุน โดยเฉพาะ ธนาคารออมสินที่มอบทุนกู้ยืมประกอบอาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง สินเชื่อวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ตามประเภทอาชีพ ดอกเบี้ยอัตราคงที่ร้อยละ 1 ต่อเดือน กำหนดระยะเวลาชำระหนี้ 5 ปี ซึ่งวันนี้ มีการมอบทุนกู้ยืมแก่นักเรียนวิวัฒนพลเมืองราชทัณฑ์ จำนวน 10 ราย เป็นเงินรวมกว่า 175,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนในธุรกิจขนาดเล็ก อาทิ เปิดร้านตัดผม ร้านขายอาหาร ร้านซ่อมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และการทำเกษตรกรรม โดยผู้กู้ยังไม่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรกของการกู้ยืม
“ราชทัณฑ์ถือเป็นหน่วยสุดท้ายในกระบวนการยุติธรรม ทำอย่างไรจะดูแล กระบวนการยุติธรรมขั้นสุดท้ายนี้ให้ดีที่สุด ปัจจุบันเรามีระบบทัณฑวิทยาที่ดี มีการแก้ไขฟื้นฟู พฤติกรรมผู้ต้องขัง การให้อาชีพ จัดหาทุน เพื่อให้เขามีชีวิตต่อไปได้หลังพ้นโทษ นอกจากนี้ ผมยังคิดจะทำโครงการปั้นนักกีฬาจากเรือนจำ โดยได้ประสานกับคณะกรรมการโอลิมปิก สมาคมนักมวยสมัครเล่น สมาคมนักยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ต่อไปคนเหล่านี้อาจสร้างชื่อเสียงกลับมาให้ ประเทศไทยนำเหรียญนำชัยชนะกลับมาสู่ประเทศชาติได้ เพื่อสร้างให้พวกเขาเหล่านั้นมีใจเป็นนักสู้ มีวินัย สร้างกำลังกายและจิตใจที่เข้มแข็ง หรืออาจจัดให้มีการประกวดเรือนจำ/ทัณฑสถานดีเด่น โดยอาจพิจารณาจากเรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีการดำเนินงานที่สะท้อนถึงนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม มีการจัดระเบียบและการบริหารงานภายใน จัดสุขอนามัยที่ดี หรือพิจารณาจากเรือนจำ/ทัณฑสถานใดที่มีสถิติการไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำของผู้ต้องโทษน้อยที่สุด เพื่อเป็นแรงผลักดัน กระตุ้นให้แต่ละแห่งมีการพัฒนาและร่วมกันคืนคนดีสู่สังคม
ภายหลังการเปิดงาน รมว.ยุติธรรม ได้เดินชมการสาธิตอาชีพโดยผู้ต้องขัง ซึ่งได้นำมาแสดงในงานครั้งนี้ถึง 69 อาชีพ จาก 18 เรือนจำ อาทิ อาชีพขายข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เกี๊ยว โรตี การทำขนมไทย การทำปูนปั้น การวาดภาพ การทำเรือนไม้ ช่างไม้ ช่างโลหะ ช่างตัดผม เป็นต้น และเปิดศูนย์บริการล้างอัดฉีดรถยนต์แก่ประชาชนในชื่อ “บำบัดคาร์แคร์” ล้างอัดฉีดครบวงจร เพียงคันละ 150 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ ระหว่างรอรับบริการบำบัดคาร์แคร์ยังมีร้านตัดผม และมุมกาแฟบริการเครื่องดื่มและของว่างดับร้อนอีกด้วย--จบ--