กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส์
ไปรษณีย์ไทยก้าวข้ามวัย 5 ขวบแบบโตวันโตคืน ประกาศพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบเดินหน้า 3 กลยุทธ์หลัก ปักธงมุ่งสู่การเป็นศูนย์ให้บริการครบวงจรของคนไทย เติมเต็มประสิทธิภาพระบบปฏิบัติการ ติดอาวุธไอทีทันสมัย ขยายพรมแดนธุรกิจด้านโลจิสติกส์ และบริการตัวแทน พร้อมปรับโฉมจุดให้บริการรูปลักษณ์ใหม่ให้ความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
วันนี้ (25 ส.ค.) นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยในการแถลงข่าวร่วมกับคณะกรรมการบริษัท และผู้บริหารระดับต่าง ๆ เกี่ยวกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของไปรษณีย์ในปีที่ 6 ภายหลังประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด 5 ปี นับตั้งแต่มีการแปลงสภาพแยกกิจการจากอดีตการสื่อสารแห่งประเทศไทย หรือ กสท เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2546 เป็นต้นมา โดยย้ำถึงกลยุทธ์สำคัญที่จะนำพา ปณท ไปสู่การเป็น Super Service Center ของคนไทย
“โฉมหน้าของไปรษณีย์ทุกวันนี้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากมาย เพราะไม่เพียงส่งจดหมายขายแสตมป์เท่านั้น ด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทุกพื้นที่และเข้าถึงคนไทยทุกครัวเรือน เป็นจุดแข็งที่ทำให้เราพัฒนาศักยภาพไปสู่การเป็นศูนย์ให้บริการที่ครบวงจร ทั้งจ่ายบิล โอนเงิน สั่งซื้อสินค้า ไปจนถึงการเป็นตัวแทนให้บริการได้อย่างหลากหลายครบครัน ซึ่งก็เป็นทิศทางเดียวกับกิจการไปรษณีย์ทั่วทั้งโลก”
นายออมสิน กล่าวเสริมว่า ในปีที่ 6 ของไปรษณีย์ไทยยังคงมุ่งหน้าพัฒนามาตรฐานการให้บริการสู่ระดับสากลอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่การปรับนตัวทางธุรกิจให้ตอบรับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่แปรเปลี่ยนอย่างไม่หยุดนิ่ง เช่น การเพิ่มบทบาทสู่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ตลาด อี-คอมเมิร์ซ การตลาดทางตรง ฯลฯ เพื่อขยายขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นอกจากเพิ่มศักยภาพเครือข่ายไปรษณีย์ให้เข้าถึงผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในรูปการขยายแฟรนไชส์ “ร้านไปรษณีย์ไทย” ขยายเวลาให้บริการใน ปณ.ที่มีอยู่ การปรับปรูงรูปลักษณ์ที่ทำการไปรษณีย์ต่าง ๆ แล้ว สิ่งสำคัญคือการพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเพิ่มมูลค่าเครือข่ายบริการที่มีอยู่ให้สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ ๆของผู้ใช้บริการ
ด้านนายสีมา วรรณโกวิท รองประธานกรรมการ ปณท กล่าวในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 6 ของ ปณท ว่า คณะกรรมการจะดำเนินงานโดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการองค์กรให้มีความคล่องตัว ตอบรับแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจ ควบคู่ไปกับการจัดการบริหารเชิงพาณิชย์ ระบบบริหารทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตอบสนองธุรกิจในอนาคตของ ปณท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง
“ผมเชื่อมั่นว่าการก้าวสู่ปีที่ 6 ของ ปณท จะเป็นก้าวที่เข้มแข็ง ภายใต้การนำของฝ่ายบริหารที่มีวิสัยทัศน์ และพนักงานที่ร่วมแรงร่วมใจกัน โดยคณะกรรมการ ปณท พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยยึดหลักธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลองค์กรที่ดีภายในกรอบและแนวทางที่กำหนดไว้จะนำพา ปณท ก้าวไปสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ มีคุณภาพ บรรลุเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวม และจะเป็นกิจการที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใช้บริการทั้งภาคประชาชนและภาคธุรกิจต่อไปเพื่อกิจการไปรษณีย์และแบรนด์ไปรษณีย์ไทยจะอยู่คู่คนไทยตลอดไป” นายสีมากล่าว
อนึ่ง สำหรับผลการดำเนินงานของในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 (ม.ค.-มิ.ย.) ปรากฎว่า ไปรษณีย์ไทยสามารถสร้างรายได้และกำไรสุทธิสูงกว่าเป้าหมาย โดยมีรายได้เกือบ 8,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิหลังหักภาษีแล้ว 942 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 61 ทั้งนี้คาดว่าตลอดปี 2551 จะมีกำไรสุทธิ 1,635 ล้านบาท