กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--ปภ.
ปภ. อบรมเพิ่มศักยภาพหัวหน้าสำนักงานปภ.จังหวัด กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด รวม ๗๕ คน ในระหว่างวันที่ ๑ — ๓ กันยายน ๒๕๕๑ เพื่อ ให้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้ง พัฒนาศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานภายใต้บทบาทและภารกิจตามโครงสร้างใหม่ โดยมีพิธีเปิดในวันจันทร์ที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๑ เวลา ๐๙.๐๐ — ๑๐.๓๐ น. ณ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐ ในการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในระดับประเทศ ได้มีการแบ่งส่วนราชการตามกฎกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ คือ การจัดตั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเป็นส่วนราชการระดับจังหวัด เพื่อรองรับการปฏิบัติของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ภายใต้บทบาทและภารกิจตามโครงการสร้างองค์กรใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถก้าวทันกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและสามารถทำงานเชื่อมโยงในเชิงบูรณาการให้บรรลุเป้าหมาย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงจัดฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด รวม ๗๕ คน ในระหว่างวันที่ ๑ — ๓ กันยายน ๒๕๕๑ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้ง พัฒนาศักยภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานภายใต้บทบาทและภารกิจตามโครงสร้างใหม่ โดยมีพิธีเปิดในวันจันทร์ที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๑ เวลา ๐๙.๐๐ — ๑๐.๓๐ น. ณ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี นายอนุชา กล่าวต่อไปอีกว่า การฝึกอบรมดังกล่าวประกอบด้วย การบรรยายภาคทฤษฎี เรื่องเกี่ยวข้องกับ แนวทางทางการบริหารราชการส่วนภูมิภาค การบริหารงานแบบบูรณาการ การจัดการแบบมีส่วนร่วม บทบาทหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด การจัดทำแผนงบประมาณของจังหวัด การบริหารจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงาน การดำเนินงานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้รับการอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีทักษะในการเป็นบริหาร เข้าใจบทบาทผู้นำและทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงาน สามารถวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ โดยเฉพาะการบริหารจัดการระหว่างหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพและแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องต่อไป