กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--กทม.
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิ.ย.48) เวลา 11.30 น. ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารปภาดา แอสเสท กรณีที่มี ข้อร้องเรียนจากเจ้าของอาคารข้างเคียงว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าว และเปิดเผยว่า การก่อสร้างอาคารปภาดา แอสเสท เป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก เพื่อใช้เป็นอาคารพักอาศัย โดยได้ยื่นคำขอรับอนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.47 เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน พ.ย.47 หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 14 ม.ค.48 ได้มีประชาชน ร้องเรียนให้กรุงเทพมหานครตรวจสอบว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง อาคารข้างเคียงทรุดตัว แตกร้าว
สำนักงานเขตบางรักได้เข้าตรวจสอบ พบตึกแถวข้างเคียง 4 ชั้น จำนวน 11 ห้อง เกิดการทรุดตัว ถนนแตกร้าว จึงได้ออกคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างตามแบบ ค.5 ห้ามเข้าห้ามใช้ ตามแบบ ค.6 และให้ดำเนินการแก้ไขตามแบบ ค.12 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.48 ซึ่งทางผู้ก่อสร้างได้หยุดดำเนินการก่อสร้างทันที จากนั้นวันที่ 21 ม.ค.48 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตบางรักและผู้เชี่ยวชาญ ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และผู้ได้รับผลกระทบ ตรวจสอบความเสียหายของอาคารข้างเคียงว่ามีรอยแตกร้าวเพิ่มขึ้นหรือไม่ พร้อมกับให้ผู้ก่อสร้างอาคารปภาดาฯ ตรวจสอบความเอียงของอาคาร แล้วเสนอให้อพยพผู้คนออกจากอาคารที่แตกร้าวเพื่อซ่อมแซมทันที
ในวันที่ 3 ก.พ.48 สำนักงานเขตมีคำสั่งให้เจ้าของอาคารที่ได้รับผลกระทบจำนวน 11 ราย ห้ามใช้อาคารตามแบบ ค.4 และคำสั่งให้แก้ไขอาคารตามแบบ ค.23 เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นได้หารือร่วมกันระหว่างเจ้าของอาคารที่ได้รับผลกระทบ เจ้าหน้าที่เขตบางรัก และผู้แทน วสท. ได้ข้อสรุปให้เจ้าของอาคารปภาดาฯ จ่ายค่าเช่าอาคารเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวในระหว่าง ซ่อมแซมเป็นรายเดือน เดือนละ 25,000 บาท จนกว่าจะซ่อมแซมแล้วเสร็จ และเจ้าของอาคารปภาดาฯ ยินดีรับผิดชอบในการ ซ่อมแซมอาคารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 ก.พ.49 หากไม่เป็นที่พอใจเจ้าของอาคารสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ หรือขอรับเงินสดเพื่อซ่อมแซมเอง ซึ่งเจ้าของอาคาร 7 ห้องยอมรับข้อตกลงที่เจ้าของอาคารเสนอ แล้วเจ้าของอาคารปภาดาฯ ได้ดำเนินการขออนุญาต ก่อสร้างต่อโดยเสนอแผนป้องกันและตรวจสอบอย่างรัดกุม ซึ่งเขตบางรักได้พิจารณาอนุญาตเมื่อวันที่ 15 มี.ค.48 แต่เจ้าของอาคารอีก 4 ห้องที่ไม่ยอมรับข้อตกลงได้ยื่นฟ้องต่อศาลห้ามเจ้าของอาคารปภาดาก่อสร้างต่อ แต่เมื่อวันที่ 1 เม.ย.48 ศาลมีคำสั่งยกฟ้องแล้วให้เจ้าของอาคารปภาดาฯ ดำเนินการก่อสร้างต่อ เวลาต่อมาเจ้าของอาคาร 4 ห้องดังกล่าวได้ฟ้องร้องต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของอาคารปภาดาฯ ในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารทุกประการ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปต้องรอคำพิจารณาจากศาล ในระหว่างนั้นกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางรักจะได้ส่งวิศวกรของเขตเข้าตรวจสอบการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้อาคารข้างเคียงได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น ซึ่งในขณะนี้ได้ก่อสร้างไปถึงชั้นใต้ดินชั้นที่ 2 แล้ว--จบ--