กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
สายงานธนบดีธนกิจ (PWM) แห่งธนาคารดอยซ์แบงก์ได้ประกาศวันนี้ ถึงข้อ เสนอการลงทุนรูปแบบใหม่ให้กับนักลงทุนสายธนบดีธนกิจในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวกองทุนส่วนบุคคลขึ้น
ธนาคารดอยซ์แบงก์เชื่อว่ากองทุนส่วนบุคคลนี้ นอกจากจะเป็นรูปแบบใหม่ของการลงทุนที่นำเสนอให้แก่ลูกค้าให้สามารถเข้าถึงการลงทุนในหลายๆ ประเภทสินทรัพย์ลงทุนและมีโอกาสได้รับอัตราผลตอบแทนตามที่คาดหวังได้ตรงกับใจลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถกระจายการลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศโดยได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนในต่างประเทศของธนาคารซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโลก การนำเสนอกองทุนส่วนบุคคลครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ธนาคารดอยซ์แบงก์ได้รับใบอนุญาตด้านการบริหารกองทุนส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสามารถถือได้ว่าเป็นการเสนอการลงทุนระหว่างประเทศแบบโดยตรงให้กับลูกค้าในประเทศไทยเป็นครั้งแรก
วันนี้ลูกค้าที่สนใจบริการการบริหารกองทุนส่วนบุคคลของธนาคารดอยซ์แบงก์นั้น สามารถเลือกที่จะลงทุนผ่าน 3 ทางเลือกของการลงทุนที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีจากทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่จะให้บริการในการลงทุนในต่างประเทศของธนาคารดอยซ์แบงก์ ทั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกที่จะลงทุนในหลักทรัพย์ตามความประสงค์ของลูกค้าเองได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกสรรเพิ่มเติมได้จากเครื่องมือการลงทุนที่มีอยู่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เหมาะกับระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้โดยทางทีมบริหารกองทุนส่วนบุคคลจะทบทวนและติดตามผลการดำเนินงานและผลตอบแทนจากการลงทุนให้กับทางลูกค้าด้วย
คุณวรพร วิทยะสิรินันท์ หัวหน้าทีมบริหารกองทุนส่วนบุคคล แห่งธนาคารดอยซ์แบงก์ประเทศไทย ได้กล่าววันนี้ว่า การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศให้กับกลุ่มนักลงทุนสายธนบดีธนกิจในประเทศไทย
“การที่สามารถรวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของธนาคารดอยซ์แบงก์ และจัดให้อยู่ในรูปแบบที่ลูกค้ากลุ่มธนบดีธนกิจสามารถเข้าถึงได้ง่ายนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะเป็นการช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ทางการลงทุนที่ต้องการจะเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากประเทศไทย” คุณวรพรกล่าวเสริม
ข้อเสนอหลักทรัพย์การลงทุนระหว่างประเทศภายใต้กองทุนส่วนบุคคลแห่งธนาคารดอยซ์แบงก์ 3 ข้อเสนอ ที่บริหารโดยทีมบริหารการลงทุนระหว่างประเทศ (Global Investment Management - GIM) ประกอบด้วย “GIM Select Conservative Portfolio”, “GIM Select Core Portfolio” และ “GIM Select Growth Portfolio” ซึ่งข้อเสนอในแต่ละแบบนั้นจะเหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว (อายุ 3 ถึง 5 ปี) อีกทั้งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ในระดับที่แตกต่างกัน โดยมีให้เลือกทั้งสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเงินสกุลยูโร หลักทรัพย์การลงทุนแบบ “Conservative” นั้นเหมาะกับนักทุนที่ให้ความสำคัญหลักอยู่ที่การออมเงินและรักษาระดับของกำลังซื้อ ส่วนการลงทุนแบบ “Core” นั้นออกแบบมาเพื่อนักลงทุนที่สามารถรองรับความผันผวนในระยะสั้นเพื่อการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว และการลงทุนแบบ “Growth” นั้นออกแบบมาเพื่อนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับสูงเพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนคาดหวังที่สูงขึ้น
กองทุนส่วนบุคคลของธนาคารดอยซ์แบงก์นั้น เป็นการเพิ่มช่องทางในการลงทุนให้ลูกค้าสามารถจัดสรรทรัพย์สิน (ผ่านหน่วยงานต่างๆ ของธนาคาร ฯ) ได้มากขึ้นโดยได้รับคำปรึกษาผ่านทางทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกของธนาคาร ซึ่งจุดเด่นที่สำคัญนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าธนบดีธนกิจของดอยซ์แบงก์ที่จะสามารถสัมผัสถึงการลงทุนในต่างประเทศผ่านเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับอนุญาตตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต.
นายจิมมี่ ลี หัวหน้าสายงานธนบดีธนกิจแห่งภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารดอยซ์แบงก์ ได้กล่าวถึงการเปิดตัวกองทุนส่วนบุคคลในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ว่า “การลงทุนและความพยายามเพื่อการนำเสนอในการขยายขอบเขตการลงทุนในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการให้ความมั่นใจกับลูกค้ากลุ่มธนบดีธนกิจในตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังเชื่อมั่นว่าตลาดการลงทุนในประเทศไทยจะต้องมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วแน่นอน”
ข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารดอยซ์แบงก์
ธนาคารดอยช์แบงค์เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกในการให้บริการด้านการเงินและหลักทรัพย์ การให้บริการด้านการธนาคาร การบริหารหลักทรัพย์ และการบริหารธนบดีธนกิจ รวมทั้งมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ด้านการให้บริการด้านการธนาคารพาณิชย์ ด้วยการเป็นผู้นำในประเทศเยอรมัน และประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ธนาคารดอยช์แบงก์กำลังเติบโตในทวีปอเมริกาเหนือ เอเซีย และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ด้วยพนักงาน 80,253 คนใน 76 ประเทศทั่วโลก ธนาคารฯ มีความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการที่ครบวงจรเพื่อแก้ปัญหาด้านการเงินให้กับลูกค้าที่มีความต้องการบริการที่ดีที่สุด และถือว่าเป็นธนาคารที่สร้างมูลค่าอย่างมากให้กับผู้ถือหุ้นและประชาชนทั่วไป www.db.com
ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ Private Wealth Management (PWM) ธนาคารดอยช์แบงก์
ธุรกิจ Private Wealth Management (PWM) เป็นหน่วยงานภายใต้ธนาคารดอยช์แบงก์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าชั้นนำทั่วโลกที่ต้องการสร้างผลกำไรจากการลงทุน โดยเป็นผู้บริหารสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า 1.94 แสนล้านยูโร ผ่านทางเครือข่ายสำนักงาน 85 แห่งในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก สำหรับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก PWM มีพนักงานกว่า 760 คนในสำนักงาน 15 แห่ง ใน 9 ประเทศทั่วเอเชียเหนือ ออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย
ธุรกิจ PWM ของธนาคารดอยช์แบงก์นำเสนอบริการด้านการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์เพื่อช่วยให้ลูกค้าเป็นผู้นำตลาดอยู่เสมอ บริการต่างๆ ที่ธนาคารนำเสนอได้แก่ การลงทุนในหลักทรัพย์และกองทุน เงินตราต่างประเทศ บริการด้านการเงินอื่น การลงทุนในช่องทางที่เป็นทางเลือก บริการทางการเงินที่มีสภาพคล่องและสินเชื่อ รวมถึงการให้คำปรึกษาในด้านทรัสต์และการลงทุนในกองทุนอิสระ สินทรัพย์ที่ธุรกิจ PWM ของธนาคารดอยช์แบงก์ลงทุนในเอเชียแปซิฟิกในปี 2550 การเติบโตร้อยละ 19 และธุรกิจ PWM ของธนาคารดอยซ์แบงก์บริหารสินทรัพย์มูลค่ารวม 2.2 หมื่นล้านยูโรให้กับลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และล่าสุดธนาคารดอยซ์แบงก์ได้ประกาศความเป็นสุดยอดธนาคารเอกชนแห่งเอเชีย ในด้านกองทุนภายใต้การจัดการ ทั้งสำหรับกองทุน 1 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ — 5ล้านดอลล่าห์สหรัฐ และ 5.01ล้านดอลล่าห์สหรัฐ — 25ล้านดอลล่าห์สหรัฐ จากการจัดทำผลสำรวจธนาคารเอกชนของเอเชียมันนี่แห่งปี 2008
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dbpwm.com/pwm/en/
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
อรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ และรุ่งนภา ชาญวิเศษ
เวเบอร์ แชนด์วิค
โทร. 02 343 6000 ต่อ 061, 059
E-mail: rungnapa@webershandwick.com; onanong@webershandwick.com