กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) เดินหน้าขยายแนวรบตลาดโน้ตบุ๊ค หลังได้แบรนด์ใหม่ "Lenovo" เสริมความแข็งแกร่ง เข้าจัดจำหน่ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นองค์กร "สุพันธุ์ มงคลสุธี" มั่นใจปีนี้ทำรายได้ไม่น้อยกว่า 150 ลบ. ส่วนปีหน้าทั้งปีหวังทะลุเป้า 400 ลบ. เหตุเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารู้จักเป็น อย่างดี ประกอบกับ ซินเน็คฯ มีร้านผู้แทนจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างคล่องตัว ส่วนสิ้นปีนี้ยังมั่นใจปั๊มรายได้เข้าเป้าโต 12-15% จากรายได้ 10,800 ลบ. ในปีก่อนได้สำเร็จ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ มีแผนจะนำสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และ คอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มเพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายครบวงจรมากขึ้น สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างคล่องตัว โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด ให้เป็นผู้แทนจำหน่าย (Distributor) สินค้า Lenovo ในกลุ่ม Commercial Business Unit ประกอบด้วยสินค้าตระกูล “Think“ ทั้งหมดได้แก่ ThinkCentre (Desktop), ThinkPad (Notebook) และ ThinkStation (Workstation) สำหรับลูกค้าองค์กร โดยจะจัดจำหน่ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชั่นองค์กรของซินเน็คฯ
"เชื่อว่าสินค้า แบรนด์ Lenovo จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นที่รู้จัก ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เมื่อประกอบกับการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่กระจายครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ เชื่อว่าจะทำให้สินค้าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปีแรกนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ของสินค้า Lenovo ไว้ที่ประมาณ 150 ล้านบาท ส่วนปีหน้าหลังจากทำตลาดได้เต็มปี คาดว่าจะทำรายได้ไม่น้อยกว่า 400 ลบ."
นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่าในปีนี้แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศจะไม่เอื้ออำนวยนัก จากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่นิ่ง แต่ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไอที ก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร โดยในปีนี้คาดว่าธุรกิจ ไอที จะยังเติบโตได้ในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ในขณะที่ ซินเน็คฯ คาดว่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันในอัตราไม่ต่ำกว่า 12-15% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 10,800 ลบ. จากการมุ่งขยายตลาดทั้งการนำสินค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่ม การเพิ่มจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุมลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
"ในครึ่งปีหลังน่าจะเห็นซินเน็คฯ ได้เติบได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง เพราะนอกจากเราจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างเต็มที่ ทั้งการจัด Road Show เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนจะนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้สินค้าของซินเน็คฯ ครบวงจรมากขึ้น"
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจองค์กร บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่เลือก บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Lenovo ในกลุ่ม PC คอมพิวเตอร์ , Notebook และ Workstation สำหรับลูกค้าองค์กร เพราะเห็นศักยภาพของซินเน็คฯ ที่ปัจจุบันมีผู้แทนจำหน่ายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญ และเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่แตกต่างจากผู้แทนจำหน่ายอื่นๆ ของ Lenovo ในปัจจุบัน ประกอบกับที่ผ่านมา ซินเน็คฯ ยังมีสินค้าที่ จัดจำหน่ายไม่ครบทุกตลาด โดยเฉพาะสินค้าอินเตอร์แบรนด์ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน จึงเป็นโอกาสที่สินค้าของ Lenovo จะเข้าไปจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าในเครือข่ายของซินเน็คฯ ได้
"ในช่วงแรกเราคงไม่เน้นเรื่องการสร้างยอดขายมากนัก คงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะ Lenovo ต้องการให้คู่ค้าทุกรายสามารถดำเนินธุรกิจในแบบที่ตัวเองถนัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของ ทุกฝ่าย ซึ่งในเบื้องต้น Lenovo ได้เข้าร่วมการทำกิจกรรม Road Map กับ ซินเน็ค เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กับคู่ค้าของซินเน็คฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อจากนั้นคงเป็นการทำ Customization เพื่อสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในตลาดอย่างแท้จริง ซึ่งเราเชื่อว่าการประสานความร่วมมือกับซินเน็คฯ จะทำให้ทั้งสองบริษัทฯ ประสบความสำเร็จร่วมกันตามเป้าหมายที่วางไว้ได้" นายจีรวุฒิ กล่าว
ทั้งนี้ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ มากกว่า 50 ตราสินค้า จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และมีฐานลูกค้าที่เป็นร้านค้าทั้งหมดมากกว่า 5,000 ราย แบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 8 กลุ่มธุรกิจ คือ
1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์ชิ้นส่วน (Component Product Group: CPG)
2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทวัสดุสิ้นเปลือง (Consumables & Supply Group: CSG)
3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เพื่อการพิมพ์ (Image & Printing Product Group: IPG)
4.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเน็ทเวิร์ก (Network Product Group: NPG)
5.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล (Display Product Group: DPG)
6.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทชุดคอมพิวเตอร์ประกอบเสร็จและกึ่งเสร็จ (System Product Group: SPG) ประกอบไปด้วยสินค้าหลัก เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) เครื่องคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ (CTO: Configuration-to-Order) มีสินค้าภายใต้ตราสินค้า Lemel ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เอง
7.กลุ่มผลิตภัณฑ์ MCE (Multimedia Consumer Electronic Product Group: MCE)
8.กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ (Software Product Group: SWG)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณสิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ (เก้) โทร.02-5549353 / 089-728-6389