กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--ก.พ.ร.
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายธวัชชัย ตั้งสง่า รักษาการผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ร่วมแถลงข่าวเปิดโครงการและลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ และ สำนักงาน ก.พ.ร. เรื่อง “การพัฒนาส่วนราชการให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และการจัดการความรู้ในส่วนราชการ” เพื่อส่งเสริมและผลักดันให้ส่วนราชการมีระบบการจัดการความรู้ในองค์กรให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ณ สำนักงาน ก.พ.ร. ถนนพิษณุโลก
นายธวัชชัย ตั้งสง่า รักษาการผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กล่าวถึงความสำคัญและประสบการณ์ของสถาบันฯ ในการดำเนินงานเรื่องการจัดการความรู้ในหน่วยงานต่างๆ ว่า “ในฐานะที่สถาบันฯ เป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่ความรู้ด้านการบริหารจัดการต่างๆ ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารจัดการองค์กรยุคใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในปัจจุบัน โดยมีแนวคิดว่า เราจะทำอย่างไรที่จะดึงความรู้ที่อยู่ในบุคคลมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างศักยภาพในการแข่งขันในยุคปัจจุบัน ดังนั้น สถาบันฯ ได้ดำเนินการจัดทำโครงการนำร่อง ภายใต้ชื่อโครงการว่า “การจัดการความรู้ในองค์กร” มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิธีการจัดการความรู้ที่เหมาะสมกับการบริหารจัดการ และวัฒนธรรมขององค์กรแบบไทยๆ และเป็นการกระตุ้นให้องค์กรต่างๆ ในประเทศเห็นความสำคัญของการจัดการความรู้ โดยมีองค์กรนำร่องที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 4
องค์กร ได้แก่ 1. โรงพยาบาลศิริราช 2. บริษัท สแปนชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด 3. บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ 4. สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ มีระยะเวลา ของโครงการเป็นเวลา 18 เดือน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2546 — สิงหาคม 2547 โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นที่ปรึกษาโครงการ
ด้วยการสนับสนุนจากองค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (Asian Productivity Organization : APO)
นายธวัชชัย เน้นว่าในการดำเนินการเรื่องการจัดการความรู้ในหน่วยงานต่างๆ นั้น สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคือผู้บริหารองค์กรจะต้องเข้าใจ มีแนวคิดและเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องให้การสนับสนุนการดำเนินงานอย่างจริงจัง ตลอดจนพยายามที่จะโน้มน้าวให้เกิดการจัดการความรู้อย่างจริงจัง
ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวถึงความสำคัญของการบริหารจัดการองค์ความรู้ในองค์กรของรัฐว่าการจัดการความรู้เป็นเรื่องใหม่สำหรับภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องต้องดำเนินการคู่ขนานไปกับการปฏิรูประบบราชการ โดยที่ผ่านมาการปฏิรูประบบราชการจะมุ่งเน้นโครงสร้างและตัวระบบเป็นหลัก ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ หรือเรียกว่า Tangible Assets แต่การบริหารจัดการความรู้นั้น คือสิ่งที่เราหันมาให้ความสนใจกับ Intangible Assets หรือ สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้มากขึ้น ได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร ข้อมูลข่าวสาร และองค์ความรู้ในองค์กร เป็นต้น
เลขาธิการ ก.พ.ร. กล่าวต่อว่า สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาระบบราชการในทุกด้าน ได้กำหนดให้เรื่องการจัดการความรู้เป็นตัวชี้วัดหนึ่งของทุกส่วนราชการในมิติด้านการพัฒนาองค์กร และที่ผ่านมาทุกส่วนราชการต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
โดยได้จัดฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรระดับต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ แต่การจัดการความรู้นั้นไม่ได้หมายถึงเพียงการอบรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะต้องมีกระบวนการอื่นๆ อีก ดังนั้น ทางสำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้หารือกับสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติให้ช่วยผลักดันให้เกิดการจัดการความรู้อย่างจริงจังในภาครัฐโดยให้เป็นระบบและทิศทางเดียวกัน
สามารถสนองตอบต่อเศรษฐกิจยุคใหม่ หรือ เศรษฐกิจฐานความรู้ได้
ดร.ทศพร เผยว่า ขณะนี้ทางสำนักงาน ก.พ.ร. ได้ขอความร่วมมือไปยัง 75 จังหวัด และ 204 ส่วนราชการ ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ได้จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการให้มอบหมายผู้บริหารองค์ความรู้ของหน่วยงาน (Chief Knowledge Officer หรือ CKO) ให้ทำงานกันเป็นทีมไปพร้อมกับที่ปรึกษาจากสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
โดยจะมีการจัดโรดโชว์ เรื่องการจัดการความรู้ให้ส่วนราชการต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 3 ครั้ง ได้แก่ 1. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18 — 20 กรกฎาคม
2. จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 8 — 10 สิงหาคม และ 3. จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 15 — 17 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะทำให้หน่วยงานต่างๆ ได้รู้และตระหนักถึงประโยชน์ของการจัดการความรู้ในองค์กรให้ประสบผลสำเร็จ โดยจะเน้นการจัดการความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมทั้งเทคนิคและเครื่องมือที่จะช่วยสนับสนุนให้การจัดการความรู้ประสบความสำเร็จ
สำหรับรายละเอียดของการจัดโรดโชร์นั้น นายธวัชชัย เผยว่า “ทางสถาบันฯ จะแบ่งการทำโรดโชร์เป็น 2 เรื่องใหญ่ คือ 1. การให้ความรู้ในภาพกว้างสำหรับผู้บริหาร และผู้ที่สนใจในหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่อง การจัดการความรู้ (KM) ว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรช่วยสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานอย่างไร และทำอย่างไรให้
การจัดการความรู้ในองค์กรประสบผลสำเร็จ และ 2.การประชุมเชิงปฏิบัติการให้แก่คณะทำงานด้านการจัดการความรู้ขององค์กร หรือที่เรียกว่า CKO โดยเน้นการจัดการความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติว่าทำอย่างไรให้การจัดการความรู้ในองค์กรมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเรื่องของเทคนิค เครื่องมือ วิธีการที่จะช่วยสนับสนุนให้การจัดการความรู้ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะมีวิทยากรที่ปรึกษาของสถาบันฯ ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
รุ่งอรุณ รังสิยะวงศ์
แผนกประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาด
โทรศัพท์ 0-2619-5500 ต่อ 440 โทรสาร 0-2619-8096
E-mail : pr@ftpi.or.th--จบ--