กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--พีอาร์ พลัส ทู
ตอกย้ำบทบทาในฐานะฟันเฟืองสำคัญของการเติบโตทั่วโลกของเอสเอพีในครึ่งปีแรก
เอสเอพี เอเชีย แปซิฟิก และญี่ปุ่น (หรือ “เอพีเจ”) เผยการการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2008 ระบะตัวเลขสูงเกินความคาดหมาย โดยในส่วนของรายได้จากซอฟต์แวร์พุ่งสู่ระดับ 49% แบบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 159 ล้านยูโร ขณะที่รายได้จากซอฟต์แวร์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้รวมทั้งไตรมาสเติบโตถึง 31% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นมูลค่า 399 ล้านยูโร โดยตัวเลขทั้งหมดนี้เป็นสกุลเงิน ณ ช่วงเวลาหนึ่งแบบ Non-GAAP
คุณภัทร ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอพี ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “เอสเอพี เอพีเจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เราได้วางไว้ ซึ่งเอสเอพีมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าต้องการอยู่ ณ จุดใด เราได้พนักงานที่มีความสามารถมาร่วมงานกับเรา ขณะเดียวกัน ได้พยายามปรับปรุงการทำตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบัน เอสเอพี เอพีเจ มีการเติบโตอยู่ที่ราว 5 เท่าของอัตราการเติบโตในตลาดซอฟต์แวร์ในเอเชีย/แปซิฟิกและญี่ปุ่น และเราตั้งใจที่จะรักษาระดับนี้ไว้ให้ได้ ตลาดที่สำคัญๆ เช่น อินเดีย จีน และญี่ปุ่นต่างแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในการเติบโตที่ชัดเจน และเราจะมุ่งมั่นลงทุนต่อไปในอุตสาหกรรมที่เราเป็นผู้นำในตลาดของประเทศเหล่านี้"
ลูกค้ารายใหม่มาแรง
ทั้งนี้ ประมาณ 50% ของข้อตกลงทั้งหมดที่เอสเอพี เอพีเจได้ทำไว้ในครึ่งแรกของปี 2008 มาจากลูกค้ารายใหม่ นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เอสเอพี เอพีเจยังได้ปรับเป้าหมายโดยเฉลี่ยของลูกค้าแต่ละรายเป็น 27% สำหรับแต่ละไตรมาส
คุณภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาของปีนี้เอสเอพี ประเทศไทยยังคงรักษาระดับการเติบโตของตลาดในกลุ่มธุรกิจประเภทขนาดกลางและขนาดย่อมไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ลูกค้าเดิมได้ขยายการใช้งานของระบบเพิ่มเติม ได้แก่ โฮม โปรดักส์ ได้นำระบบ Customer Relationship Management ไปใช้ ขณะที่ลูกค้ารายใหม่ ได้แก่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ฟิตเน่ในประเทศไทย
ผลประกอบการของเอสเอพี ประเทศไทยในส่วนของตลาดเอสเอ็มอีอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมากในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คือ บรรลุเป้าหมายในระดับกว่า 29 เปอร์เซ็นต์มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “เอสเอพี โปรโมชั่น” เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมมากขึ้น โดยนำเสนอโซลูชั่น All-in-One ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง
คุณภัทรกล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นผู้นำตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเมืองไทย เราเข้าใจดีว่า เพียงแค่หนึ่งเดียวไม่สามารถสนองความต้องการทั้งหมดได้ เราจึงได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าของเราอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ดีที่สุดให้กับธุรกิจภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม และนั่นถือเป็นเป้าหมายของเรา ที่จะทำให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”
ขยายส่วนแบ่งตลาด
นอกจากนี้ เอสเอพียังมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และนับเป็นไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน ทั้งยังมีส่วนแบ่งในตลาดแอพพลิเคชั่นระดับองค์กร (Core Enterprise Applications) ทั่วโลกเพิ่มเป็น 33.7% ตลอด 4 ไตรมาส สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2008 ทั้งนี้ ผลการศึกษาและวิจัยของนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ระบุว่า ตลาดแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรมีรายได้ด้านซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 38.1 พันล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นการรายงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2008 ตามการคำนวณตามหลักการบัญชี ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไป (GAAP) ของสหรัฐฯ ซึ่งวัดจากรายได้ด้านซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ในตลอด 4 ไตรมาส หรือเพิ่มขึ้นเท่ากับ 7.7% เมื่อเทียบกับตลอด 4 ไตรมาส สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2007 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 4.5% มาจากการเติบโตภายในบริษัทเพียงอย่างเดียว (organic growth) และ 3.2% มาจากการเข้าซื้อกิจการของบิสิเนส อ็อบเจ็คส์
“เอสเอพี ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” คุณภัทรกล่าว และว่า “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการสร้างอัตราการเติบโตให้กับธุรกิจของลูกค้าของเรา”
ใช้มาตรการทางการเงินแบบ Non-GAAP
ทั้งนี้ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมาตรการทางการเงินบางมาตรการ เช่น มาตรการทางการเงินสำหรับรายได้แบบ Non-GAAP รายได้จากการดำเนินงานแบบ Non-GAAP ส่วนต่างกำไรจากการดำเนินงานแบบ Non-GAAP การหมุนเวียนของกระแสเงินสดแบบอิสระ รายได้จากสกุลเงิน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง มาตรการสำหรับรายได้จากการดำเนินงาน รวมถึงตัวเลขรายได้แบบ Non-GAAP ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มาตรการเหล่านี้ไม่ได้จัดเตรียมขึ้นอย่างสอดคล้องกับหลักการบัญชีซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วไป (GAAP) ของสหรัฐฯ ดังนั้นจึงถูกพิจารณาว่าเป็นมาตรการทางการเงินแบบ non-GAAP โดยทั้งนี้ มาตรการทางการเงินแบบ non-GAAP ของเราอาจไม่สอดคล้องกับมาตรการทางการเงินแบบ non-GAAP ที่บริษัทอื่นๆ ได้รายงาน มาตรการทางการเงินแบบ non-GAAP ที่เรารายงานควรถูกพิจารณาว่าเป็นส่วนเพิ่ม ไม่ใช่การแทนที่ หรือเหนือกว่ารายได้ ส่วนต่างกำไรจากการดำเนินงาน หรือมาตรการเกี่ยวกับผลประกอบการทางการเงินอื่นๆ ของเราที่จัดเตรียมไว้ที่สอดคล้องกับ GAAP ของสหรัฐฯ โปรดดูภาคผนวกที่ส่วนท้ายของหัวข้อด้านการเงินในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการแบบ Non-GAAP ซึ่งได้รวมไว้ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ และสำหรับการกระทบยอดตามมาตรการ GAAP ของสหรัฐฯ ที่สอดคล้องกัน
เกี่ยวกับบริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1995 ในปัจจุบัน SAP Thailand มีลูกค้าในประเทศไทย มากกว่า 500 ราย หรือมากกว่า 1000 installations ซึ่งเป็นลูกค้าทั้งในหน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจ เอกชน องค์กรต่างประเทศ ระบบงานของ เอส เอ พี นั้นได้ถูกจัดทำขึ้น ให้สามารถรองรับกฎหมายของประเทศไทยและนอกจากนี้ยังสนับสนุนการทำงานเป็นภาษาไทยด้วยเช่นเดียวกัน โดยที่ระบบงานของ SAP นั้นยังสามารถ รองรับการทำงานขององค์กรได้ทั้งขนาดใหญ่ กลางและย่อม หากท่านต้องการติดต่อสอบถามหรือต้องการ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชั่นของทาง SAP ท่านสามารถติดต่อได้ที่ SAPThailand Ltd.— ชั้น 9 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ถนนสีลม บางรัก กทม. Tel: (662) 631 1800; Fax: (662) 631 1818; e-mail: info.thailand@ sap.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
วิไลลักษณ์ ภักดี บริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02- 631-1800, wilailak.pakdee@sap.com
ภิญญลักษณ์ ธนาสินมาตรี บริษัท พีอาร์ พลัส ทู จำกัด โทร. 02-158-9107-8 ต่อ 15, pinyaluck@prplus2.com