กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
หลังจากที่พี่เบิ้มแห่งความงามอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างความฮือฮาให้กับวงการแพทย์ผิวหนังทั่วโลกไปแล้วด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ออกมา 2 ชนิด ตามลำดับ คือ เทอร์มาจและแฟร็กเซล ปีนี้แพทย์ผิวหนังชาวอเมริกันก็ได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง โดยนำเอา 2 เทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้ร่วมกัน ก่อให้เกิดผลที่น่าพอใจ ชนิดที่ต้องขอยืมคำพูดจากโฆษณาที่บอกว่า “ศัลยกรรมเหรอ รอไปเถอะ” มาใช้ เพราะเทคโนโลยีผสมผสาน “เทอร์มาแฟร็กซ์ (ThermaFrax) นี้ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนยาน ริ้วรอย เหี่ยวย่น แผลเป็นชนิดหลุม ผิวสีหม่นหมอง หยาบกร้านได้ เรียกว่าครบสูตรการชะลอวัย หรือพูดภาษาชาวบ้านก็คือ สาวขึ้นสวยขึ้นโดยไม่ต้องไปผ่าตัดศัลยกรรม ทำเฟซลิฟท์ให้คนใกล้ตัวผิดสังเกตแต่อย่างใด
สำหรับสาวๆ วัย 40 อัพ ที่ดูท่าจะเป็นห่วง เป็นกังวลกันมาก กับปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและผิวพรรณที่ร่วงโรยไม่เปล่งปลั่ง ขาวใส เนื่องจากเป็นวัยที่คอลลาเจน และอีลาสตินเสื่อมคลายไปมากกว่าเดิม หนทางเดียวที่เคยทำได้ในอดีตคือ แก้ไขด้วยการผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งถึงแม้จะได้ผลดี แต่ก็มีแผลเป็น เจ็บตัว ต้องพักฟื้น และค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาสาวๆ ทั้งไทยและเทศ ถ้าใครไม่รู้จัก “เทอร์มาจ” ถือว่าไม่อินเทรนด์จริงๆ เพราะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการกระชับผิวพรรณบริเวณแก้ม คาง ลำคอ ใต้ตา หน้าผาก หรือแม้แต่ท้องแขน หน้าท้อง ต้นขาให้กลับกระชับตึงขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด เทอร์มาจจึงได้รับความนิยมไม่เฉพาะแต่ในอเมริกา แต่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยหลักการใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุชนิดหนึ่งขั้ว (Unipolar) ไปกระตุ้นทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อดึงตัวอยู่ได้นาน 1-2 ปี ซึ่งพลังงานนี้จะถูกควบคุมและปล่อยผ่านหัวของเครื่องมือขนาดเล็ก (Tip) ซึ่งทางอเมริกาได้คิดค้นหัวใหม่ขนาด 3 ตารางเซนติเมตร และผลลัพธ์ที่ได้จากหัวขนาดใหม่ก็คือ ทำให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะรักษา
ปัจจุบันเทอร์มาจ จึงถือเป็นวิวัฒนาการใหม่ของการใช้พลังงานความถี่วิทยุในการรักษาปัญหาผิวพรรณ ที่ยังไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งแชมป์ไป แต่ถ้าพูดถึงพลังงานแสงเลเซอร์ แล้วละก็ ตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของแฟร็กเซล ไปเรียบร้อยเมื่อกลางปีที่แล้ว ด้วยคุณสมบัติผลัดลอกเซลล์ผิวเก่าที่เต็มไปด้วยริ้วรอย ตีนกา รอยแผลเป็น จุดด่างดำ กระ ฝ้าให้หลุดไปอย่างนุ่มนวล ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผิวใหม่ค่อยๆ ซ่อมแซมขึ้นมา ย่อมเรียบเนียนกว่า วิทยาการผลัดลอกผิวด้วยเลเซอร์นี้อันที่จริงมีมานานแล้ว และเป็นที่นิยมมากของฝรั่ง หากแต่เมื่อก่อนนี้เขาจะต้องเลือกช่วงเวลาทำในหน้าหนาว เพื่อจะได้ไม่ต้องออกจากบ้านไปเจอแดด และผู้คนราว 4-5 เดือน แต่ความทันสมัยของแฟร็กเซลอยู่ที่คนไข้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานซึ่งต่างจากเลเซอร์รุ่นเก่าแฟร็กเซลจึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีเพื่อผิวพรรณที่ได้รับการกล่าวขานถึงในแง่ของการรักษาว่าได้ผลดี มีผลข้างเคียงน้อย
ด้วยศักยภาพของเทอร์มาจ (Thermage) และแฟร็กเซล (Fraxel) ทำให้โฉมหน้าของศาสตร์แห่งการชะลอวัยพัฒนาไปอีกขึ้นหนึ่ง คือมีการนำเอา 2 เทคโนโลยีนี้มาใช้ร่วมกัน และเรียกชื่อเสียใหม่ว่าเทคโนโลยี เทอร์มาแฟร็กซ์ ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพื่อการรักษาปัญหาของคนไข้สาวใหญ่วัย 40 ขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวพรรณร่วงโรยไปตามวัย แต่ไม่ต้องการดึงหน้า หรือบางรายถึงแม้ได้รับการดึงหน้าผ่าตัดมาแล้ว ผิวพรรณที่ดึงขึ้นก็ไม่ได้ดูขาวเนียนแต่อย่างใด เพราะปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขให้ตรงจุด การรักษาด้วยเทอร์มาแฟร็กซ์ พบว่าสามารถกระชับเนื้อเยื่อเก่า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้เกิดการรักษาที่เรียกว่า Nonsurgical Facelift & Resurfacing ครบกระบวนการของการชะลอวัยหรือ anti — aging
สำหรับวิทยาการใหม่ เทอร์มาแฟร็กซ์นี้ แพทย์หญิงฐานิสร ธรรมลิขิตกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคผิวหนัง ให้ความเห็นว่า การนำเอาเทคโนโลยีพลังงานต่างกันมาใช้ร่วมกันนั้น ปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เนื่องจากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีหนึ่งก็จะไปเสริมกับอีกเทคโนโลยีหนึ่ง ทำให้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามเทอร์มาแฟร็กซ์เป็นเทคโนโลยีที่ต้องการความแม่นยำ และความชำนาญในการทำหัตถการมาก ผู้ที่ตัดสินใจจะทำจึงควรเลือกเฉพาะแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียบางประการได้ เช่น เกิดรอยดำหลังการรักษาได้ เป็นต้น
ส่วนการดูแลตัวเองหลังจากการรักษาด้วยเทอร์มาแฟร็กซ์นั้น แพทย์หญิงฐานิสร กำชับว่าในระยะแรกควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาเครื่องป้องกัน เช่น สวมหมวก หรือกางร่ม และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และก็ต้องไม่ลืมเคล็ดลับเดิมๆ ในการดูแลผิวระยะยาว คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และกินอาหารที่มีประโยชน์ถูกหลักโภชนาการ
แนะนำให้รู้จักกับปฎิบัติการพิทักษ์ผิวสวยสองชั้นกันขนาดนี้แล้ว ถ้ายังข้องใจ สอบถามรายละเอียดเรื่องนวัตกรรมความงามนี้ได้ที่ รมย์รวินท์คลินิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ โทร 0-2434-8300, 0-2434-8547
สุจินดา, แสงนภา,ปนัดดา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--