กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
สมาพันธ์อุตสาหกรรมก่อสร้างนานาชาติภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตะวันตกจัดประชุม แลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในแต่ละประเทศ
สมาพันธ์อุตสาหกรรมก่อสร้างนานาชาติภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตะวันตก (International Federation of Asian & Western Pacific Contractors' Associations: IFAWPCA) จัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์แนวทางรับมือผลกระทบ ของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในแต่ละประเทศหวังเป็นกรณีศึกษาให้สมาชิกแต่ละประเทศนำไปปรับใช้ พร้อมเห็นชอบสานความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิกทั้ง 16 ประเทศเพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างต่อไป
นายอมินุล อิสลาม ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมก่อสร้างนานาชาติภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกตะวันตกหรือ IFAWPCA เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาที่อยู่อาศัย การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาด้านอุตสาหกรรม และการพัฒนาเชิงพาณิชย์และอาคารสำนักงาน
อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างยังคงเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ซึ่งจำเป็นต้องนำมาเปิดประเด็นกล่าวถึงในการประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในระยะยาวให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยประเด็นสำคัญที่มีการถกกันในการประชุมที่ประเทศไทยครั้งนี้ ซึ่งมีสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม คือ สถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างที่ขยับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ซีเมนต์ อะไหล่สำหรับอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ และราคาน้ำมัน ซึ่งนำมาสู่ความกังวลในหมู่บริษัทรับเหมาก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการเรียกร้องให้ขึ้นค่าเคที่ประเทศสมาชิกต่างร้องไปยังหน่วยงานรัฐบาลของประเทศตน ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้กับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทผู้รับเหมาที่รับงานก่อสร้างโครงการภาครัฐ โดยในที่ประชุมได้มีโอกาสศึกษากรณีตัวอย่างความช่วยเหลือของภาครัฐในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบริษัทรับเหมาก่อสร้างญี่ปุ่นที่รับงานก่อสร้างโครงการภาครัฐในประเทศญี่ปุ่น โดยปรับขึ้นค่าเคเพื่อบรรเทาปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น
นายอิสลามกล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างในแถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังเผชิญกับปัญหาที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องคือการย้ายงานของวิชาชีพด้านการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรหรือสถาปนิก ตลอดจน แรงงานที่มีทักษะฝีมือ ที่หันไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลางมากขึ้น ก่อให้เกิดการขาดแคลนวิศวกร สถาปนิก และแรงงานฝีมือในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก IFAWPCA จึงจำเป็นต้องนำประเด็นดังกล่าวเหล่านี้มาอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ของประเทศสมาชิก ตลอดจนสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ
นายอิสลามกล่าวเสริมว่า การประชุมครั้งนี้ตนมั่นใจว่าจะเป็นการปูทางไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง IFAWPCA และองค์กรระดับนานาชาติ ทั้งธนาคารโลก (World Bank) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนสู่อุตสาหกรรมก่อสร้างในแถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยการประชุมครั้งสำคัญของ IFAWPCA ในครั้งหน้าจะจัดขึ้นในวันที่ 7 มีนาคม 2552 ที่เมืองดาห์กา ประเทศบังกลาเทศ
IFAWPCA ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2499 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงมนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันมีสมาชิก ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างและบริษัทรับเหมาก่อสร้างจาก 16 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย บังกลาเทศ จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย และมัลดีฟส์ ซึ่งเป็นประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ศริญญา แสนมีมา / ภัทรภร ตันตรงภักดิ์
โทร. 0-2204-8218, 081-805-1498, 0-2204-8550, 086-668-1415