กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--ก.ล.ต.
สำนักงาน ก.ล.ต. เล็งเห็นถึงความจำเป็นของโครงการสาธารณูปโภคที่มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคของประเทศเป็นไปอย่างไม่เต็มที่ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านแหล่งเงินทุน สำนักงาน ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะให้ตลาดทุนมีบทบาทเป็นแหล่งเงินทุนที่จะสนับสนุนการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ โดยจะอนุญาตให้จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมสาธารณูปโภค (infrastructure fund) ซึ่งเป็นแนวทางที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และแคนาดา
ในการนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ยกร่างหลักเกณฑ์ในการอนุญาตให้จัดตั้งและจัดการกองทุนรวมดังกล่าว และเผยแพร่เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ศึกษาและแสดงความคิดเห็น ซึ่งสาระสำคัญของหลักการในเรื่องนี้ มีดังนี้
1. กองทุนรวมต้องลงทุนโดยตรงในทรัพย์สินของโครงการสาธารณูปโภค หรือลงทุนผ่านการถือหุ้นในนิติบุคคลที่ลงทุนในทรัพย์สินของโครงการสาธารณูปโภค ในสัดส่วนที่ไม่ต่ำกว่าที่กำหนด
2. ทรัพย์สินของโครงการสาธารณูปโภคที่กองทุนรวมสามารถลงทุนได้ ได้แก่ (1) กรรมสิทธิ์ (2) สิทธิครอบครอง (3) สิทธิสัมปทาน (4) สิทธิการเช่า และ (5) สิทธิในการรับผลประโยชน์ในอนาคตหรือสิทธิเรียกร้องในอนาคต ในที่ดิน อาคาร สิ่งปลูกสร้าง เครื่องจักรอุปกรณ์ หรือสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์ในโครงการสาธารณูปโภค
ทั้งนี้ โครงการสาธารณูปโภค หมายถึงกิจการหรือการดำเนินการ ไฟฟ้า ประปา รถไฟฟ้า ขนส่งมวลชน ถนน โทรศัพท์ โทรคมนาคม หรือสนามบิน เป็นต้น
3. กองทุนรวมสามารถกู้ยืมหรือก่อภาระผูกพันได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ
4. การจัดสรรหน่วยลงทุนต้องไม่กระจุกตัวในบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือผู้ลงทุนต่างชาติ เกินกว่าสัดส่วนที่กำหนด
สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็นไว้ที่ www.sec.or.th และขอความร่วมมือ
ผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุนและผู้ที่สนใจ แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว หรือที่โทรสารหมายเลข 0-2695-9834 หรือ e-mail: chanont@sec.or.th ภายในวันที่ 15 กันยายน 2551 และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายชานนท์ เค้าไพบูลย์ ฝ่ายกำกับธุรกิจจัดการลงทุน โทรศัพท์ 0-2695-9640 เพื่อสำนักงาน ก.ล.ต. จะได้รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ต่อไป