กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--ปตท.
ลดลงทันทีที่ตลาดโลกอ่อนตัวลง รวมลดลงไปแล้ว 12 บาท/ลิตร
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันมาโดยตลอดพบว่าราคาน้ำมันมีความผันผวนสูงมาก ล่าสุดราคาน้ำมันปรับตัวลดลง สืบเนื่องจากพายุ Gustav ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับแหล่งผลิตและโรงกลั่น ทำให้บริษัทน้ำมันมีแนวโน้มเริ่มดำเนินการได้ตามปกติในปลายสัปดาห์ อีกทั้งพายุ Hanna อ่อนกำลังลงไม่พัดผ่านอ่าวเม็กซิโก และไนจีเรียอาจกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้ ทำให้ในวันนี้ (3 ก.ย. 51) น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 101.38 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลลดลงมาอยู่ที่ระดับ 119.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท.จึงได้พิจารณาปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลลงทันที 60 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ E85 พลัส 20.19
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ E20 พลัส 27.49
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 28.79
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 27.99
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 36.29
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 31.74
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 32.44
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า ปตท. พร้อมเป็นผู้นำในการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกลงเพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภค ตามนโยบายที่ ปตท. ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ซึ่งการปรับลดราคาน้ำมันครั้งนี้ นับเป็นการลดราคาน้ำมันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 17 แล้วนับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. 51 เป็นต้นมา รวมกลุ่มเบนซิน ปตท. ได้ปรับลดราคาลงไปแล้ว 10.40 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลรวมลดลงไปแล้วถึง 12 บาท/ลิตร
อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลกก็ยังคงมีความผันผวนตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนร่วมกันใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัด และเลือกใช้พลังงานทดแทน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย