กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--ปภ.
ปภ. รายงานสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดน่านและจังหวัดเชียงราย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ขณะนี้สถานการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ๔ อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย ยังคงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน และจังหวัดเชียงรายได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วนแล้ว นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศและเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่จังหวัดน่านและจังหวัดเชียงราย เป็นเหตุให้บ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร ตลอดจนสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ตรวจสอบสถานการณ์อุทกภัย พบว่า ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำในแม่น้ำสายเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านห้วยธนู ตำบลตาลชุม และตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เป็นเหตุให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายทั้งหลัง ๙ หลัง เสียหายบางส่วน ๖๐ หลัง ผู้เสียชีวิต ๓ ราย มูลค่าความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สำหรับการให้ความช่วยเหลือ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่านได้ประสานจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือออกไปให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในเบื้องต้นแล้ว ตลอดจนได้นำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ แล้ว รวมทั้งนำรถผลิตน้ำดื่มไปช่วยผู้ประสบภัย จำนวน ๑ คัน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และจัดทีมสุขภาพจิตไปเยียวยาผู้ประสบภัย ส่วนสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย น้ำป่าได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ๔ อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สาย แม่สรวย เวียงป่าเป้า และแม่จัน โดยขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่การเกษตร สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ประสานจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กาชาดจังหวัด สมาชิกอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์เข้าให้การช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งได้ติดป้ายเตือนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจเกิดอันตรายแล้ว นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจติดตามสภาพอากาศในระยะ ๑ -๒ วันนี้ พบว่า จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้ประสานไปยังจังหวัดในพื้นที่ ให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง จากสภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ พร้อมได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต๑๑ สุราษฏร์ธานี และ๑๒ สงขลา รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด ๒๔ ชั่วโมง รวมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่ได้รับการประสานแจ้งเหตุ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์ สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ ได้ที่สำนักงานงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตหรือทางสายด่วน ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง