กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--คอร์แอนด์พีค
องค์กรระดับโลกแห่งนี้เลือกบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เจ้าของระบบจัดเก็บข้อมูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุด ให้ช่วยในด้านการตรวจสอบสภาพโอโซนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ด้วยความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านการปรับขนาดระบบจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้นและสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก็บถาวรได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ เอชดีเอส ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก: HIT) และเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบการจัดเก็บข้อมูลเชิงบริการ (Services Oriented Storage Solutions) เพียงรายเดียว ได้รับการคัดเลือกจากองค์การบริหารอวกาศและการบิน (นาซ่า) โดยขณะนี้นักวิจัยนาซ่ากำลังใช้ Hitachi Content Archive Platform เพื่อค้นหาและเรียกคืนข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับชั้นบรรยากาศ มาใช้งานได้รวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมาก่อน โดย Hitachi Content Archive Platform ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโซลูชั่นระบบการจัดเก็บข้อมูลเชิงบริการ ได้เข้าไปสนับสนุนโครงการ Ozone Monitoring Instrument Data Processing System (OMIDAPS) ของนาซ่า ในรูปของบริการเก็บถาวรข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถปรับขนาดได้อย่างมาก จึงทำให้แน่ใจได้ว่านาซ่าจะสามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ระยะยาว ปลอดภัย และสามารถค้นหาและเรียกคืนข้อมูลที่สำคัญเหล่านี้มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว
“ความยุ่งยากหรือความล่าช้าในการเรียกข้อมูลมาใช้งานนั้น ถือเป็นอุปสรรคต่อการทำวิจัยของเรา ดังนั้นเราจึงต้องการหาเทคโนโลยีเก็บข้อมูลถาวรที่จะทำให้การค้นหาและสืบค้นเพื่อเรียกใช้ข้อมูลเป็นไปอย่างอัตโนมัติและมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถ เก็บทุกสิ่งในดิสก์และแน่นอนว่าจะต้องใช้งานได้ง่ายด้วย”
นายเคิร์ท ทิลเมส นักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ของนาซ่า กล่าว และว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของ Hitachi Content Archive Platform คือ การที่เราสามารถป้อนข้อมูลและเรียกคืนข้อมูลนั้นได้โดยง่าย ไม่เหมือนกับการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานแบบเทปบันทึก จริงๆ แล้ว องค์ประกอบสำคัญของระบบเก็บข้อมูลถาวร คือ จะต้องจัดการง่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับองค์กรของเราเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เวลาทั้งหมดไปที่การวิจัยเพื่อดูแลโลกของเราได้อย่างเต็มที่”
จากการให้ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโลกร้อน ส่งผลให้นักวิจัยนาซ่าจะต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของโลกได้ เมื่อต้องการแน่ใจได้ว่านักวิจัยจะสามารถเรียกคืนข้อมูลสำคัญมาใช้ได้อย่างทันเวลาและปลอดภัย องค์การนาซ่าจึงเลือกที่จะปรับปรุงระบบจัดเก็บข้อมูลรุ่นเก่าของตนที่ใช้เก็บข้อมูล ซึ่งมีการเรียกใช้งานบ่อยครั้ง และไฟล์ที่มีการเรียกใช้ไม่บ่อยนัก โดยนักวิจัยนาซ่าต้องการระบบที่ใช้เวลาน้อยในการเรียกคืนข้อมูล เป็นระบบที่ไม่ล้มเหลวได้ง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียข้อมูลและป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติการเผลอไปลบข้อมูลได้โดยไม่ตั้งใจ ดังนั้น องค์การนาซ่าจึงเลือก Hitachi Content Archive Platform เพื่อรวมข้อมูลทั้งหมดและสามารถเรียกคืนข้อมูลขนาด 70 เทราไบต์มาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
“แนวคิดด้านบริการเนื้อหาที่ไม่เหมือนใครของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ที่มีต่อระบบจัดเก็บข้อมูลและการจัดการกำลังช่วยลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม ให้สามารถใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลที่มีอยู่แล้วของตน ให้ดีขึ้นเพื่อลดการสิ้นเปลืองและการหยุดทำงานของระบบแอพพลิเคชั่น เมื่อต้องแทนที่ระบบใหม่ขึ้นมา” เบรนดา เปฟเฟอร์ รองประธานฝ่ายการตลาดส่วนกลาง บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าว และว่า “ซอฟต์แวร์ Hitachi Content Archiver ได้รวมเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ทั้งหมดของนาซ่า เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบจัดเก็บข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ทันที รวมทั้งให้แพลตฟอร์มระบบจัดเก็บข้อมูลที่สามารถสนับสนุนระบบจัดเก็บข้อมูลต่างชนิดกันได้ด้วย นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ของบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ยังช่วยให้การค้นหา การเรียกคืนและจัดดัชนีเป็นเรื่องง่าย ซึ่งนั่นทำให้การเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ถาวรนั้น เป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้นักวิจัยนาซ่าสามารถทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
นอกจากนี้ ภารกิจของนักวิทยาศาตร์นาซ่าในครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมแนวคิดสีเขียวของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด และบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ซึ่งกลายเป็นคู่ค้าทางเลือกในการจัดหาโซลูชั่นไอที ที่มีประสิทธภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้าทั่วโลก สิ่งสำคัญ คือ ยุทธศาสตร์ที่ประสานกัน 3 ด้าน ได้แก่ การออกแบบ การผลิต และการสนับสนุนโครงสร้างระบบจัดเก็บข้อมูลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตลอดชั่วอายุของระบบ ซึ่งรวมถึงกระบวนการกำจัดเมื่อหมดอายุใช้งานด้วย
ทั้งนี้ โครงการ OMIDAPS ตั้งอยู่ในเมืองกรีนเบลท์ รัฐแมรี่แลนด์ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับส่วนประกอบของชั้นบรรยากาศโลก ข้อมูลที่เก็บไว้อย่างถาวรนี้จะถูกใช้เพื่อศึกษา ชั้นโอโซนและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกปัจจุบัน นอกจากนี้ ระบบเก็บข้อมูลถาวรขนาดใหญ่จะยังถูกใช้เพื่อเก็บข้อมูลการทดสอบของนักวิทยาศาสตร์นาซ่าอีกกลุ่ม นั่นคือ National Polar-orbiting Operational Environmental Satellite System (NPOESS) Preparatory Project (NPP) ซึ่งเป็นโครงการตรวจสอบสภาพสิ่งแวดล้อมโลกเช่นกัน
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ให้บริการโซลูชั่นระบบการจัดเก็บข้อมูลเชิงบริการ (Services Oriented Storage Solutions) ที่ทำให้สตอเรจต่างชนิดกันทำงานได้ตามความต้องการของธุรกิจและสามารถจัดการจากส่วนกลางผ่านซอฟต์แวร์สตอเรจเสมือนจริงชั้นนำของบริษัท ฮิตาชิ จากการที่บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เป็นหนึ่งในบริษัท ฮิตาชิ สตอเรจ โซลูชั่นส์ กรุ๊ป ทำให้บริษัทฯ นำแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานของสตอเรจ, ซอฟต์แวร์บริหารจัดการสตอเรจ และบริการให้คำปรึกษาด้านสตอเรจผ่านทางช่องทางจำหน่ายทั้งทางตรงและอ้อมกว่า 170 ประเทศ และภูมิภาคต่างๆ ที่สำคัญลูกค้าของบริษัทฯ เกือบ 60% อยู่ใน 100 อันดับองค์กรยอดเยี่ยมของนิตยสารฟอร์จูน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชม ได้ที่เว็บไซต์ www.hds.com
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก คือ HIT/ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว คือ 6501) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก ด้วยจำนวนพนักงานทั่วโลกประมาณ 384,000 ราย โดยในปีงบประมาณ 2549 (จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2550) บริษัทฯ มียอดขายรวม 10,247 พันล้านเยน (86.8 พันล้านดอลลาร์) บริษัทฯ จัดหาระบบงาน ผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลายให้กับหลายภาคธุรกิจในตลาด ได้แก่ ระบบสารสนเทศ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟฟ้าและอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค บริการด้านการเงินและวัสดุต่างๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ http://www.hitachi.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท คอร์แอนด์พีค จำกัด
คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น
โทร. 02 439 4600
อีเมล์
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
คุณนิตยา สอนวงค์
โทร. 02 343 1662
อีเมล์ nittaya.sornwong@hds.com