กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ว่ากระทรวงเกษตรสหรัฐฯ และศุลกากรออกมาตรการใหม่ในการตรวจสอบสินค้าไม้ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป โดยจะตรวจสอบไม่ให้เป็นไม้เถื่อนที่ลักลอบตัดออกมาแปรรูปและจำหน่าย โดยผู้นำเข้าต้องแสดงเอกสารระบุรายละเอียดของสินค้า ดังต่อไปนี้
1. ชื่อทางวิทยาศาสตร์ ที่ระบุ Genus และ Species ของไม้ : หากไม่แน่ใจชนิดของไม้ที่นำมาแปรรูปก็ต้องระบุชนิดรายการไม้ที่คาดว่าจะเป็นวัตถุดิบ
2. มูลค่าของสินค้า
3. แหล่งกำเนิดของไม้ : หากเป็นการแปรรูปในประเทศที่สามก็ต้องระบุประเทศที่นำเข้าไม้มาแปรรูปเพื่อการส่งออก
4. ปริมาณไม้ : ต้องระบุหน่วย (Unit) ด้วย
อย่างไรก็ดี ระเบียบใหม่นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อห้ามการค้าไม้ที่ถูกตัดอย่างผิดกฎหมายจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกที่เป็นแหล่งป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ได้แก่ กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกากลาง อเมริกาใต้และแอฟริกา รวมทั้งประเทศที่สามที่นำเข้าไม้ดิบมาแปรรูปส่งออก เช่น จีน เป็นต้น โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกลุ่มอุตสาหกรรมไม้ภายในประเทศของสหรัฐฯ เนื่องจากที่ผ่านมาประสบปัญหาในการแข่งขันกับสินค้าไม้นำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาต่ำกว่ามาก เนื่องจากสาเหตุหลักที่สินค้าไม้นำเข้า และสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีวัตถุดิบเป็นไม้ที่มีราคาถูก นอกจากนี้ กลุ่มองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อม เช่น Green Peace ได้ออกมาให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับการออกระเบียบนี้
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ของไทยในสินค้าไม้ โดยมีมูลค่าส่งออกเฉลี่ยปีละ 13,000 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อกำหนดต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะในเรื่องการไม่ลักลอบตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการกระทำที่ผิดทั้งกฎหมายของไทยและสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาตลาด และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าของไทยในตลาดโลกอีกด้วย