กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ปัจจัยราคาน้ำมันส่งผลรถครอบครัวเติบโต 8% ผลักดันตลาดรวมรถจักรยานยนต์เดือน ส.ค. ขยายตัวต่อเนื่อง โดยฮอนด้าค่ายผู้นำตลาดกระตุ้นแรงซื้อด้วยรถหัวฉีดประหยัดสูง
ตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณยอดจดทะเบียนโดยรวมทั้งสิ้นสูงเกินกว่า 1.43 แสนคัน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการผลักดันของกลุ่มรถแบบครอบครัวที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 8% ซึ่งเป็นเพราะคุณสมบัติโดดเด่นในด้านความประหยัด สอดรับกับสถานการณ์ราคาน้ำมันผันผวน แม้ว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในระดับราคาสูง จึงส่งผลให้กลุ่มผู้ใช้รถมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความประหยัด ในขณะที่ค่ายผู้นำตลาด คือ ฮอนด้า เร่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค หลังจากที่วางจำหน่ายรถรุ่นใหม่ถึงสองรุ่นที่ติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI อันเป็นผลให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นนั้น ด้วยกลยุทธ์การจัดกิจกรรมเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ พร้อมขยายเป้าหมายให้มีวงกว้างมากยิ่งขึ้น
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎว่าปริมาณการจดทะเบียนป้ายวงกลมรถจักรยานยนต์โดยรวมมีทั้งสิ้น 143,095 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 136,838 คันแล้ว มีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 6,257 คัน หรือมีอัตราการขยายตัว 5% โดยนับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องถึง 7 เดือนติดต่อกัน หรือตั้งแต่เดือน ก.พ. ของปีนี้เป็นต้นมา
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากของกลุ่มรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว อันเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ตลาดโดยรวมมีการขยายตัว ซึ่งปัจจัยที่ทำให้รถแบบครอบครัวเติบโตเพิ่มขึ้นนั้น เป็นเพราะพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้รถที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญในด้านความประหยัด อันเนื่องมาจากสถานการณ์ของราคาน้ำมันที่มีความผันผวนมาตลอดตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการปรับลดราคาลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับราคาสูง โดยรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวนั้น นับเป็นรถที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน จึงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้รถเป็นอย่างมาก
โดยในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา รถแบบครอบครัวมีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 8% ด้วยปริมาณการจดทะเบียน 76,506 คัน เทียบเท่าสัดส่วนจากตลาดโดยรวม คือ 53% ในขณะที่รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 2% เท่านั้น จากยอดการจดทะเบียน 61,110 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 43%
ส่วนรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต และแบบสปอร์ต มีอัตราการเติบโตสวนกับทิศทางตลาด คือ เติบโตลดลงถึง 12% และ 10% โดยมีปริมาณการจดทะเบียน 3,859 คัน และ 884 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 3% และ 1% ตามลำดับ ในขณะที่รถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ มียอดการจดทะเบียน 736 คัน
นอกจากนั้นแล้ว จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความประหยัด ส่งผลให้ค่ายผู้นำตลาด คือ ฮอนด้า เร่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้รถ หลังจากที่เพิ่งวางจำหน่ายรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ถึงสองรุ่นด้วยกัน ได้แก่ ฮอนด้า CZ-i 110 และ ฮอนด้า Click-i และได้รับการติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI (Programmed Fuel Injection) อันส่งผลให้มีความประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นนั้น ด้วยการจัดกิจกรรม “PGM-FI Bikes Show” เพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายให้มีวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งกิจกรรมนี้จะเน้นการจัดให้มีขึ้นในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือน ก.ย. นี้ โดยจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อ รวมทั้งสร้างความตื่นตัวให้กับตลาด
สำหรับปริมาณยอดจดทะเบียนสะสมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ คือ นับตั้งแต่เดือน ม.ค. — ส.ค. นั้น มีจำนวนโดยรวมทั้งสิ้น 1,176,096 คัน และเมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้แล้ว มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 5%
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
แผนกส่งเสริมการจำหน่าย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด
จุฑามาศ อินปริงกานันท์ โทร. 0 2757 6111 ต่อ 2502 หรือ 08 1920 6830
ธัญลักษณ์ ไชยปะ โทร. 0 2757 6111 ต่อ 2508 หรือ 08 9810 7713
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ หรือ วิทวัส เอกอัศดร โทร. 0-2252-9871