เสถียรภาพประเทศเกาหลีใต้ยังแกร่ง KTAMเดินหน้าเปิดขายECPอายุ1ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 9, 2008 15:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ภาวะการลงทุนในเกาหลีใต้ ว่า ค่าเงินวอนมีการอ่อนค่าลงประมาณ 20% จากในช่วงต้นปี เนื่องจาก มีความวิตกเกี่ยวกับการไหลออกของเงินทุน โดยในเดือน ก.ย.51 จะมีตราสารหนี้รัฐบาลที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างประเทศครบกำหนดไถ่ถอนสูงถึง 6.9 ล้านล้านวอน หรือ6.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต่างประเทศบางส่วนโอนเงินออกนอกประเทศ โดยไม่ลงทุนต่อ ประกอบกับเกาหลีใต้มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงินเพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ต้องเข้าแทรกแซงในตลาดสกุลเงินเพื่อไม่ให้ค่าเงินวอนอ่อนค่าลงอีก สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนที่ลงทุนในประเทศเกาหลีใต้ ที่กังวลเกี่ยวกับการลดลงของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และภาระหนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับสูง
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า จากการพิจารณาพื้นฐานเศรษฐกิจเกาหลีใต้ พบว่า ในไตรมาส 2 เศรษฐกิจขยายตัวอยู่ที่ 4.8% ชะลอตัวลงจากไตรมาส 1 ซึ่งขยายตัว 5.8% อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจครึ่งปีแรกยังคงขยายตัวสูงถึง 5.3% โดยมีการส่งออกเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญ สำหรับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ส.ค. อยู่ที่ 243.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ปรับตัวลดลง เนื่องจาก ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงินเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 51 ยอดขาดดุลฯอยู่ที่ 7,797.7 และ 18,739.1 ล้านดอลลาร์ สรอ. ตามลำดับ ขณะที่หนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 420 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้ต่างประเทศรวมต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส2 อยู่ที่ 162.6% สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 40 แล้วอัตราส่วนหนี้ต่างประเทศรวมต่อทุนสำรองระหว่างประเทศมีมากกว่า 8.5 เท่า และมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่เพียง 20.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
อย่างไรก็ตาม บลจ.กรุงไทย คาดว่า ภาวะความผันผวนของตลาดจะเกิดขึ้นในช่วงสั้น เนื่องด้วยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ฐานะการคลัง และสถานะการเงินของสถาบันการเงินในเกาหลีใต้ยังอยู่ในระดับที่ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจเพราะเป็นประเทศที่เน้นการส่งออก นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับเครดิตระหว่างประเทศหลายแห่งยังคงยืนยันมุมมองเครดิตที่อยู่ระดับที่มีเสถียรภาพ
จากการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายที่ผ่านมาของเกาหลีใต้ ทำให้บริษัทเชื่อว่าความกังวลในด้านความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ หรือการออกมาตรการจำกัดการโอนเงินเข้าออกระหว่างประเทศมีอยู่ค่อนข้างต่ำ ดังนั้น ความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน จึงมองว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนในภาวะที่พันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง โดยผลตอบแทนสุทธิเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลบาทสำหรับระยะเวลา 1 ปี อยู่ระดับ 4.85 -5.00% ถือว่าสูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และปัจจุบัน Fitch Rating จัดอันดับความเชื่อถือระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ ในระยะสั้นสูงสุดที่ F1 ระยะยาวในระดับ A+ มุมมองมีเสถียรภาพ ขณะที่ของไทยถูกจัดอันดับระยะสั้นที่ F2 ระยะยาวที่ BBB+ มุมมองมีเสถียรภาพ
ดังนั้น บริษัท จึงเดินหน้าเปิดจำหน่ายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 1ปี10 ( KTFIF1Y10) และ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น49 ( KT3M49) ในวันที่ 10-16 กันยายน 2551 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน โดยกองทุน KTFIF1 Y10 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 3,100 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ประเภทตราสารการเงิน ของสถาบันการเงินต่างประเทศ ( Euro Commercial Paper : ECP) ของสถาบันการเงินชั้นนำ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไป และเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงระยะเวลาที่ลงทุน กองทุนจะมีการทำสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศทั้งจำนวน
ส่วนกองทุน KT3M49 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่ก่อให้เกิดการคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุน หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณแสงสิริ เนตรอัมพร
โทร 02-670-4900 ต่อ 1235 หรือ 085-1800-441

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ