กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--ปตท.
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่ ปตท. ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันพบว่ามีความผันผวนขึ้น-ลง ล่าสุด ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง จากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และการที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น รวมทั้ง EIA ปรับลดอัตราเติบโตความต้องการน้ำมันตลาดโลกปี 2551และปี 2552 ลง 100,000 บาร์เรล/วัน และ 40,000 บาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ระดับ 690,000 บาร์เรลล์/วัน และ 890,000 บาร์เรลล์/วัน ตามลำดับ ส่งผลให้ โดยในวันนี้ (11 ก.ย. 51) ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวลงอยู่ที่ระดับ 97.60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลลดลงมาอยู่ที่ระดับ 117.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท.จึงได้พิจารณาปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลให้ผู้บริโภคลงอีก 60 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท. ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 51) เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ E85 พลัส 20.19
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ E20 พลัส 27.49
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95 28.79
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91 27.99
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 36.29
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที B5 พลัส 31.14
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ 31.84
นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลง นอกจาก ปตท. จะปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกลงทันทีให้กับผู้บริโภคแล้ว ภาครัฐได้มีการปรับการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีก เพื่อไปใช้ส่งเสริมพลังงานทดแทนและสำรองไว้ใช้ในช่วงที่ราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีก สำหรับการปรับลดราคาน้ำมันครั้งนี้ ปตท. ได้ลดราคาน้ำมันลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 18 แล้ว ในรอบ 2 เดือน (นับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. 51 เป็นต้นมา) รวมกลุ่มเบนซิน ปตท. ได้ปรับลดราคาลงไปแล้ว 10.40 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลรวมลดลงไปแล้วถึง 12.60 บาท/ลิตร
อย่างไรก็ตาม ขอฝากให้ทุกคนให้เชื้อเพลิงอย่างประหยัด เนื่องจากยังคงมีปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการปรับขึ้นราคาน้ำมันได้อีก อาทิ ปริมาณสำรองน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ลดต่ำลงทุกชนิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้งความไม่สงบของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เป็นต้น
โทรศัพท์ 02 537 2571 ส่วนสื่อสารธุรกิจน้ำมัน ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท. 11 กันยายน 2551