EXIM BANK แถลงผลการดำเนินงานภายใต้บทบาทใหม่ “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจภายในและต่างประเทศในครึ่งแรกของปี 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 11, 2008 14:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯ
ดร.อภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK ได้ทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” ที่มีบริการทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินให้แก่ธุรกิจของคนไทยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจรอบด้าน รวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกและภาวะเงินเฟ้อในประเทศไทย ทั้งนี้ ในครึ่งแรกของปีนี้ EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและวงเงินรับประกันการส่งออกจำนวน 10,896 ล้านบาท และมีวงเงินที่อยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาอีกกว่า 4,424 ล้านบาท
ส่วนวงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนธุรกิจภายในประเทศภายใต้บทบาทใหม่เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบลอจีสทิกส์ อาทิ การขนส่งทางบกและทางน้ำ ศูนย์กระจายสินค้า และการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,509 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญาอีกจำนวน 3,364 ล้านบาท ขณะที่วงเงินอนุมัติสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพลังงานและพลังงานทดแทนมีจำนวน 100 ล้านบาท อีก 2,957 ล้านบาทเป็นโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติและเซ็นสัญญา
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สนับสนุนและส่งเสริมการนำเข้าสินค้าทุน เครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตมาใช้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าส่งออกไทย โดยอนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้วจำนวน 3,741 ล้านบาท และมีวงเงินที่อยู่ระหว่างเซ็นสัญญาอีกจำนวน 3,500 ล้านบาท
ในครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อและค้ำประกันให้นักลงทุนไทยจำนวน 1,389 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติอีกจำนวน 5,885 ล้านบาท รวมทั้งประสบความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดโครงการความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB), Gramercy Advisors/Arco Capital Management Family of Funds (Arco) และ Foreign Trade Bank (FTB) ของกัมพูชา เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินเป็นวงเงินกู้รวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่โครงการพัฒนาระบบสายส่งไฟฟ้าของ (Cambodia) Power Transmission Lines Company Limited เริ่มต้นจากชายแดนไทยไปบันเตียเมียนเจย พระตะบอง และเสียมราฐ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และเป็นครั้งแรกที่ ADB ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการลงทุนของเอกชนในกัมพูชา
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2551 EXIM BANK ได้ขยายการให้บริการประกันการส่งออกผ่านธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ได้อย่างมั่นใจ โดยใช้บริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเปิดตัวบริการประกันการส่งออกแบบใหม่ “EXIM FLEXI” ซึ่งปรับปรุงใหม่ในส่วนการเรียกเก็บค่าเบี้ยประกัน เพิ่มผลประโยชน์ให้ผู้เอาประกัน โดยสามารถขอชดเชยค่าสินไหมทดแทนได้สูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งลดขั้นตอนการทำงานของ EXIM BANK และผู้ส่งออก
EXIM BANK ได้ขยายความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) ซึ่งถือเป็นการร่วมมือระหว่างธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการอย่างครบวงจร เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตและเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาดการค้าโลก
นอกจากนี้ ในปีนี้ EXIM BANK ได้เข้าไปร่วมลงทุนในกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ในวงเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นบทบาทใหม่ในเชิงรุกของ EXIM BANK เพื่อมีส่วนร่วมกระตุ้นการเติบโตของภาคธุรกิจและการพัฒนาประเทศ โดยตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการพัฒนาแหล่งพลังงานและพลังงานทดแทน รวมทั้งพลังงานหมุนเวียนด้วย
ทั้งนี้ ในครึ่งแรกของปี 2551 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท มีสินทรัพย์ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 จำนวน 59,596 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ 52,103 ล้านบาท
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ในครึ่งหลังของปี 2551 EXIM BANK ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาและดำเนินบทบาทในเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การขยายฐานการลงทุนของไทยในต่างประเทศ และการพัฒนาเศรษฐกิจ โดย EXIM BANK ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ไทย เอ็กซิม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 เพื่อให้บริษัททำหน้าที่เป็นตัวกลางอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างไทยและรัสเซียนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจดทะเบียนจัดตั้งสาขาของบริษัทที่กรุงมอสโก รัสเซีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ นอกจากนี้ EXIM BANK จะขยายความร่วมมือกับสถาบันการเงินอื่นๆ อาทิ ธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนธุรกิจของไทยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารจัดการในด้านต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้ EXIM BANK บรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นสถาบันการเงินชั้นนำด้านการค้าและการลงทุนในระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140-6

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ