กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ จำกัดจากประเทศอังกฤษ ประกาศให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Rating) แนวโน้มมีเสถียรภาพ ระยะยาวแก่บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ที่ระดับ‘BB’ ในขณะเดียวกัน บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของ DTAC ขึ้นมาที่ระดับ ‘A-(tha)’ จาก ‘BBB+(tha)’ โดยคงอันดับเครดิตระยะสั้นภายในประเทศที่ระดับ ‘F2(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวยังครอบคลุมถึงตั๋วแลกเงินที่ออกโดย DTAC ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนสิงหาคมปี 2548
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ DTAC สืบเนื่องมาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2547 และ ไตรมาสแรกปี 2548 ซึ่งส่งผลให้เห็นฐานะการเงินของบริษัทเข้มแข็งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ DTAC ได้รับการสนับสนุนจากการลดลงของการแข่งขันด้านราคาและการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทมีกระแสเงินสดหลังเงินลงทุนเป็นบวก โดยมีระดับเงินลงทุนในเครือข่ายที่ลดลงเป็นปัจจัยสนับสนุนประการหนึ่ง
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่เป็นอันดับสอง โดยมีระบบเครือข่ายที่ครอบคลุมอย่างทั่วถึงและชื่อเสียงทางการค้าเป็นที่รู้จักอย่างดี ส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 29% ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2548 อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถในการป้องกันส่วนแบ่งตลาดถึงแม้การแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2545 จากจำนวนผู้ประกอบการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ DTAC ยังได้รับการสนับสนุนด้านการดำเนินงานจากบริษัทเทเลนอร์ซึ่งถือหุ้นในบริษัทจำนวน 30%
อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงการแข่งขันด้านราคาที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น และการที่บริษัทมีโครงสร้างต้นทุนที่ค่อนข้างสูงรวมถึงค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากกลยุทธ์การใช้ตราสารอนุพันธ์ในการพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน โดยในปี 2545 DTAC ได้เข้าทำสัญญาตราสารอนุพันธ์เพื่อเปลี่ยนจากการจ่ายดอกเบี้ยคงที่ซึ่งมีอัตราที่สูงมาจ่ายดอกเบี้ยลอยตัว หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดได้ปรับตัวสูงขึ้น DTAC ได้พยายามลดสัดส่วนการครอบคลุมของ ตราสารอนุพันธ์ลงโดยหนี้สินที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวได้ลดลงมาที่ 60% ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2548 ของจำนวนหนี้สินทั้งหมด อย่างไรก็ตาม อัตราค่าใช้จ่ายทางการเงินเฉลี่ยของบริษัทคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 10% ในปี 2548 จาก 6% ในปี 2547
ถึงแม้ประเด็นการแปลงสัญญาสัมปทานและการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินโทรคมนาคมจะยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และ วัตถุประสงค์ของ กทช. ที่จะสร้างความเสมอภาคสำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคมน่าจะทำให้โครงสร้างของอุตสาหกรรมโดยรวมดีขึ้น แนวโน้มที่มีเสถียรภาพของอันดับเครดิตสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าผลประกอบการของ DTAC จะแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องและการมีอัตราหนี้สินลดลงของ DTAC โดยยังคำนึงถึงการแข่งขันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งและการใช้เงินลงทุนที่ลดลงในปี 2547 ถึงไตรมาสแรกปี 2548 ทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA) ลดลงมาที่ 2.3 เท่า ณไตรมาสแรกปี 2548 จาก 3.6 เท่า ณ สิ้นปี 2546 ถึงแม้อัตราส่วน EBITDA ต่อค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย (EBITDA/Interest Expense) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 6.1 เท่า ในปี 2547 อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นซึ่งสะท้อนถึงการที่ DTAC มีหนี้สินที่ผูกกับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวทำให้อัตรา EBITDA/Interest expense ลดมาที่ 4.4 เท่า ในไตรมาสแรกปี 2548 หนี้ระยะสั้นถึงแม้จะนับเป็น 20% ของยอดหนี้ทั้งหมด 37,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2548 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ณ สิ้นปี 2548 เนื่องจากประมาณครึ่งหนึ่งของหนี้สินที่เหลือกำลังจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2549 อย่างไรก็ตามกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และการใช้เงินลงทุนในระดับปานกลางของ DTAC น่าจะลดความเสี่ยงในการหาแหล่งเงินทุนสำหรับไถ่ถอนหนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2548 DTAC มีวงเงินกู้ที่ยังไม่นำมาใช้ประมาณ 6 พันล้านบาท
นิยามของอันดับเครดิตหาได้จากเวบไซต์ www.fitchratings.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้ลงทุนสามารถค้นหาอันดับเครดิตที่ประกาศ วิธีและขั้นตอนการจัดอันดับรวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องบนเวบไซต์นี้ได้ตลอดเวลา เอกสารนี้จะอยู่บนเวบไซต์เป็นเวลา 7 วัน อันดับเครดิตนี้ได้ถูกริเริ่มโดยฟิทช์ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ลงทุน
ธนวัฒน์ รุ่งธนาภิรมย์, นักวิเคราะห์, Corporates +662 655 4758
อรวรรณ การุณกรสกุล, กรรมการ, Corporates +662 655 4766
Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ +662 655 4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้--จบ--