กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนอันตรายจากการนำเด็กโดยสารรถจักรยานยนต์ หากเป็นเด็กทารกอายุ ๓ เดือนขึ้นไป ให้ใช้เป้หรือถุงจิงโจ้แทนการอุ้ม และระมัดระวังไม่ให้ผ้าอ้อมหรือผ้าห่มไปเกี่ยวซี่ล้อรถ หากให้เด็กนั่งด้านหน้าคนขับ ผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และจัดให้เด็กสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ตลอดจนไม่ควรใช้ความเร็วเกินกว่า ๔๐ ก.ม.ต่อชั่วโมง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสภาพปัญหาการจราจรที่ติดขัด ส่งผลให้ในช่วงเวลาเร่งรีบผู้ปกครองบางส่วนมักนำบุตรหลานโดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งแม้จะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงขึ้น โดยเฉพาะกับผู้โดยสารที่เป็นเด็กเล็ก ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะนำวิธีเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กในการโดยสารรถจักรยานยนต์ ดังนี้ หากผู้ปกครองนำเด็กทารกอายุประมาณ ๓ เดือนขึ้นไป ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งกล้ามเนื้อคอของเด็กยังไม่แข็งแรง ควรใช้เป้หรือถุงจิงโจ้แทนการอุ้มซ้อนท้าย เพื่อที่จะได้ใช้มือในการโอบกอดผู้ขับ กรณีใช้ผ้าห่มหรือผ้าอ้อมห่อตัวเด็กไว้ ควรเพิ่มความระมัดระวังมิให้ชายผ้าเกี่ยวหรือเข้าไป ในซี่ล้อรถขณะรถกำลังเคลื่อนที่ เพราะอาจทำให้เด็กหลุดเข้าไปติดในซี่ล้อรถจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการนำเด็กที่มีอายุต่ำกว่า ๒ ขวบ โดยสารรถจักรยานยนต์ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์เสริม ช่วยลดการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน ให้นำเด็กเดินทางด้วยพาหนะอื่นจะปลอดภัยมากกว่า เช่น รถสองแถว รถรับจ้าง รถโดยสารประจำทาง รถยนต์ เป็นต้น สำหรับเด็กอายุ ๒ ขวบขึ้นไป หากจำเป็นต้องนั่ง ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ควรให้เด็กสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ไม่ควรปล่อยให้เด็กนั่งซ้อนท้ายตามลำพังกับผู้ขับขี่ เพราะเด็กอาจเกิดอาการง่วงนอน และพลัดตกลงมาขณะรถกำลังเคลื่อนที่ กรณีที่จำเป็นต้องให้เด็กโดยสารรถไปด้วย แต่ไม่มีผู้ใหญ่นั่งซ้อน ควรให้เด็กนั่งด้านหน้าคนขับ เพราะผู้ขับขี่จะได้มองเห็นตลอดเวลา แต่จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้น เพราะหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินหรือเหยียบเบรกกะทันหัน เด็กอาจถูกกระแทกจนได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายนี้ แม้ว่าการติดตั้งที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเล็กบนรถจักรยานยนต์อาจช่วยป้องกันการพลักตกและขาเข้าไปเกี่ยวในซี่ล้อรถได้ แต่มิอาจป้องกันการบาดเจ็บที่เกิดจากอุบัติเหตุรถล้มหรือถูกเฉี่ยวชนได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย หากต้องนำเด็กโดยสารรถจักรยานยนต์ไปด้วย ผู้ขับขี่ไม่ควรใช้ความเร็วเกินกว่า ๔๐ ก.ม.ต่อชั่วโมง และควรให้เด็กสวมหมวกนิรภัย สำหรับเด็กทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในระยะใกล้หรือไกล เพื่อลดความเสี่ยงและการบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน