ผลการดำเนินงาน ปตท.สผ. ไตรมาส 1 และแผนการดำเนินงานในอนาคต

ข่าวทั่วไป Thursday May 4, 2006 09:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--ปตท.สผ.
นายมารุต มฤคทัต (Maroot Mrigadat) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สรุปผลงานและประเด็นสำคัญในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2549 และแผนการดำเนินงานในอนาคต ดังนี้
ผลประกอบการไตรมาสที่ 1
ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่1 ปี 2549 ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสนี้ รวม 7,839 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นปรับลด 11.92 บาท เพิ่มขึ้น 3,585 ล้านบาทหรือร้อยละ 84 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 4,254 ล้านบาท มีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (Return on shareholders’ equity) สำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 38.88
สำหรับไตรมาสนี้ ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 22,693 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 13,528 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,165 ล้านบาทหรือร้อยละ 68 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้จากการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 34.28 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 25.42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และปริมาณการขายในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นเป็น 171,508 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณการขายไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 142,685 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการขายน้ำมันดิบของโครงการ B8/32 & 9A และโครงการ S1 และการขาย ก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทของโครงการไพลินและโครงการบงกช ทั้งนี้ ในไตรมาสนี้ ปตท.สผ. ให้ส่วนลดค่าก๊าซธรรมชาติแก่บริษัท ปตท. จำกัด จำนวน 331 ล้านบาท
ปตท.สผ. และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้รวมทั้งสิ้น 9,240 ล้านบาทเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5,712 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,528 ล้านบาท หรือร้อยละ 62 ซึ่ง ส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากโครงการ B8/32 & 9A ค่าสนับสนุนการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้นของโครงการบงกช ค่าใช้จ่ายในการสำรวจแหล่งน้ำมันเพิ่มขึ้นเนื่องจากงานวัดคลื่นไหวสะเทือนแบบ 3 มิติของโครงการพม่า M7 & M9 และโครงการบงกช
ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีหนี้สินรวม 76,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน 4,452 ล้านบาท
สำหรับฐานะการเงินของ ปตท.สผ. และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 155,289 ล้านบาท เพิ่มจากสิ้นปีก่อนจำนวน 11,972 ล้านบาท
ปตท.สผ. พร้อมส่งก๊าซฯ ครั้งแรกให้โอมานเดือนกรกฎาคมนี้
ปตท.สผ. อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมเพื่อส่งก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทจากแหล่งชามส์ (Shams) ในโครงการโอมาน 44 ให้กับกระทรวงน้ำมันและก๊าซของโอมานตามกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2549 ในอัตราประมาณ 50 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคอนเดนเสทในอัตราประมาณ 4,000 บาร์เรลต่อวัน การส่งก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทในครั้งนี้ จะเป็นการส่งก๊าซฯ ครั้งแรกของ ปตท.สผ. ให้กับประเทศในตะวันออกกลาง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปตท.สผ. ได้เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผลชามส์-7 พบอัตราการไหลของก๊าซธรรมชาติประมาณ 45 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และคอนเดนเสทประมาณ 1,600 บาร์เรลต่อวัน สำหรับแผนการดำเนินงานแปลง 44 ในปีนี้ ปตท.สผ.จะทำการเจาะหลุมสำรวจ อีก 1 หลุม และหลุมพัฒนาอีก 3 หลุม
ชนะการประมูล ได้รับสิทธิสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมแปลงที่สองในโอมาน
ปตท.สผ. ประสบความสำเร็จในการขยายการลงทุนในประเทศโอมานเป็นครั้งที่สอง โดยชนะการประมูลและได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลง 58 ในสัดส่วน 100% ซึ่งคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลโอมาน และสามารถลงนามในข้อตกลงกับกระทรวงน้ำมันและก๊าซของประเทศโอมานได้ประมาณเดือนมิถุนายน 2549
แปลงสำรวจบนบก 58 มีพื้นที่ประมาณ 2,200 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐสุลต่านโอมาน จากข้อมูลเบื้องต้นทางธรณีวิทยา คาดว่าแปลงดังกล่าวจะมีศักยภาพเป็นน้ำมันดิบ ในด้านการดำเนินงาน ปตท.สผ. สามารถนำความรู้ และประสบการณ์จากการเป็นผู้ดำเนินการในแปลง 44 มาปรับใช้และผสานประโยชน์กับการทำงานในแปลง 58 นี้ได้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุน และทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ปตท.สผ.พบน้ำมันดิบเกินความคาดหมายในเวียดนาม เร่งแผนการผลิตปี 2550
จากความสำเร็จซึ่ง ปตท.สผ. ค้นพบน้ำม้นดิบและก๊าซธรรมชาติปริมาณมากในโครงการเวียดนาม 16-1 ในการขุดเจาะหลุมสำรวจ TGT-1X, TGT-2X และ TGT-3X ในโครงสร้าง Te Giac Trang (TGT) โดยมีปริมาณการไหลรวมของน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติในอัตรา 9,432 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน 17,500 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และ 9,908 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ตามลำดับนั้น การค้นพบน้ำมันดิบในปริมาณสูงดังกล่าว ผนวกกับความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปตท.สผ. จึงได้ปรับแผนการดำเนินงาน เพื่อตอบสนองการใช้พลังงาน โดยได้เร่งพัฒนาแปลง 16-1 และแปลง 9-2 ซึ่งอยู่ติดกัน ให้สามารถผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติได้เร็วกว่าแผนเดิมในปี 2552 สำหรับแปลง 9-2 ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนามให้สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์แล้ว คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในอัตราประมาณ 20,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2550
ส่วนแผนการดำเนินงานของแปลง 16-1 ในปีนี้ จะเร่งขุดเจาะหลุมสำรวจเพิ่มเติมอีก 3 หลุม เพื่อประเมินปริมาณสำรองของโครงการ และขออนุมัติการพัฒนาเชิงพาณิชย์ต่อไป
โครงการเวียดนาม 16-1 ประกอบด้วยผู้ร่วมทุน ดังนี้ ปิโตรเวียดนาม 41% พีทีทีอีพี ฮองลอง 28.5% โซโก้ เวียดนาม 28.5% และโอเปคโก้ เวียดนาม 2% โดยร่วมกันจัดตั้งบริษัท Hoang Long Joint Operating Company เป็นผู้ดำเนินการในแปลงดังกล่าว
โครงการเวียดนาม 9-2 ประกอบด้วยผู้ร่วมทุน ดังนี้ โซโก้ เวียดนาม 25% ปิโตรเวียดนาม 50% พีทีทีอีพี ฮอนวู 25% โดยร่วมกันจัดตั้งบริษัท Hoan Vu Joint Operating Company เป็นผู้ดำเนินการในแปลงดังกล่าว
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ ฝ่ายกิจการสัมพันธ์
สิทธิไชย ไชยันต์/ ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ /พัลลภ ลิ่มสกุล/ จักรา ศรีนาคนันทน์
โทร. 02 537 4592, 02 537 4587, 02 537 4507, 02 537 4583

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ