โรลส์-รอยซ์ร่วมมือกับอาบูดาบี ชิพ บิวล์ดิ้ง ในข้อตกลงการให้บริการเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ต

ข่าวทั่วไป Wednesday September 17, 2008 14:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
โรลส์-รอยซ์ ในฐานะของผู้นำด้านการขับเคลื่อนการเดินเรือ ได้กระชับความสัมพันธ์กับบริษัท อาบู ดาบี ชิพ บิวล์ดิ้ง (เอดีเอสบี) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการต่อเรือของตะวันออกกลาง ผ่านการเซ็นสัญญาที่จะช่วยพัฒนาบริการให้แก่ลูกค้าของเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตในแถบอ่าวอะราเบีย
สัญญาฉบับที่ได้มีการลงนามไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ณ ประเทศอาบูดาบี ถือเป็นความร่วมมือด้านบริการครั้งที่สามที่โรลส์-รอยซ์ได้แถลงในปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างโรลส์-รอยซ์กับบริษัท มูบาดาลา ดิเวลลอปเมนต์ (มูบาดาลา) ในการขยายการลงทุนในรัฐอาบูดาบี ซึ่งมูบาดาลาถือหุ้นร้อยละ 40 ของเอดีเอสบี
เอดีเอสบีเป็นอู่ต่อเรือทางการทหารแห่งเดียวในตะวันออกกลาง และให้บริการทั้งการต่อเรือและสนับสนุนสัญญาให้แก่เรือเดินสมุทรของกลุ่มความร่วมมืออ่าวอะราเบีย (Gulf Cooperation Council) โรลส์-รอยซ์จะร่วมมือกับเอดีเอสบีในการให้บริการต่างๆ เช่น การฝึกอบรม การซ่อมบำรุงและการยกเครื่อง การจัดหาอะไหล่ และดูแลสัญญาการให้บริการแก่ลูกค้าของเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ต
โรลส์-รอยซ์ได้จัดหาเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตรุ่น Kamewa FF550 เพื่อใช้ขับเคลื่อนเรือ Amphibious Transport Boats (ATBs) จำนวน 12 ลำ และเรือขนส่งด่วน (Fast Supply Vessel) จำนวน 4 ลำ ที่ต่อโดยเอดีเอสบี เพื่อส่งมอบให้แก่นาวิกโยธินและหน่วยรักษาการณ์ชายฝั่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ต Kamewa ยังเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเรือคอร์เวตแบบ 72 เมตร รุ่น Baynunah Class ที่เอดีเอสบีกำลังดำเนินการต่อให้นาวิกโยธินของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เอซา ยูโอทิเน็น ผู้จัดการทั่วไปของธุรกิจการเดินเรือ โรลส์-รอยซ์ ในตะวันออกกลาง กล่าวว่า “ศูนย์บริการวอเตอร์เจ็ตจะเน้นให้บริการแบบก้าวหน้าแก่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจทางทะเลในแถบอ่าวอะราเบีย ซึ่งการเพิ่มมูลค่าให้การปฏิบัติงานของกลุ่มลูกค้า โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิตเรือเดินสมุทรและผู้ผลิตเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตได้มาพบกัน”
เอซา และเจย์ แดเกอร์ฮ ผู้จัดการส่วนภูมิภาคกลุ่มธุรกิจเดินเรือของโรลส์-รอยซ์ ร่วมกับวิลเลียม เอส. ซอลต์เซอร์ ประธานกรรมการบริหาร และวิลเลียม ดี. สจ๊วต รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เอดีเอสบี ในการก่อตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา เพื่อมาดูแลหุ้นส่วนและศูนย์บริการ
วิลเลียม ซอลต์เซอร์ ประธานกรรมการบริหารของเอดีเอสบี กล่าวว่า “สัญญาการบริการเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตใหม่ที่ทำร่วมกับโรลส์-รอยซ์นี้ จะช่วยให้เอดีเอสบีสามารถให้บริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้าในแถบอ่าวอะราเบีย และยังเป็นการสนับสนุนในแถบภูมิภาคแบบระยะยาวซึ่งจะช่วยส่งเสริมการประกอบเรือใหม่ การปรับปรุง และการซ่อมแซมให้แก่เรือเดินสมุทรลำใหม่ที่เราเป็นผู้จัดหา”
เครื่องยนต์ Kamewa วอเตอร์เจ็ตของโรลส์-รอยซ์มีกำหนดเริ่มให้บริการแก่เรือเร็วโจมตีและลาดตระเวน (Fast Attack Patrol Boats) ในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งได้รับการสั่งซื้อจากกองทัพเรือแห่งประเทศไทย
นอกเหนือจากความสัมพันธ์กับโรลส์-รอยซ์ที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ต เอดีเอสบียังให้บริการขนย้ายเรือโดยใช้นวัตกรรม Syncrolift? ของโรลส์-รอยซ์ บริการขนย้ายเรือสามารถให้บริการแก่เรือเดินสมุทรที่มีความยาวถึง 85 เมตร กว้าง 20 เมตร และหนักถึง 2,000 ตัน ในขณะที่ travelift ให้บริการแก่เรือเดินสมุทรขนาดเล็กกว่าที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 500 ตัน
หมายเหตุสำหรับสื่อมวลชน
เกี่ยวกับโรลส์-รอยซ์และมูบาดาลา
1. โรลส์-รอยซ์และมูบาดาลาได้แถลงความร่วมมือในสัญญาการบริการอีก 2 ฉบับ ในปี พ.ศ. 2551 เมื่อเดือนเมษายน Al Taif Technical Services และ Rolls-Royce Distributed Generation Systems ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ โดย Al Taif จะให้ความสนับสนุนด้านการบริการในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลุ่มความร่วมมืออ่าวอะราเบีย และเครือข่ายภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
2. มีการแถลงข่าวบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ที่จะให้บริการทางการบินในตลาดตะวันออกกลางที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ในงานแสดงนวัตกรรมทางอากาศฟาร์นโบโร แอร์โชว์ เมื่อเดือนกรกฎาคม โรลส์-รอยซ์และอาบูดาบี แอร์คราฟต์ เทคโนโลยี (Abu Dhabi Aircraft Technologies: ADAT) ซึ่งเป็นบริษัทบำรุง ซ่อมแซม และยกเครื่องที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะร่วมกันนำเสนอบริการ On-Wing Care ให้แก่สายการบินต่างๆ ในภูมิภาค บริษัทมูบาดาลาเป็นเจ้าทั้ง Al Taif และ ADAT แต่เพียงผู้เดียว
เกี่ยวกับโรลส์-รอยซ์
1. โรลส์-รอยส์เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในด้านระบบพลังงานและบริการ เพื่อการใช้งานทั้งภาคพื้นดิน ท้องทะเล และทางอากาศ ภาคส่วนธุรกิจของโรลส์-รอยซ์ อันประกอบด้วยธุรกิจการบินพาณิชย์ การบินกลาโหม การเดินเรือ และธุรกิจด้านพลังงาน โรลส์-รอยซ์ได้ขยายฐานทางธุรกิจในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งโรลส์-รอยซ์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคนี้ผ่านทางธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ
2. โรลส์-รอยส์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นสำหรับการเดินเรือ บริษัทฯ เป็นผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ บริการ ตลอดจนมอบความชำนาญการเพื่อนำไปใช้กับเรือเชิงพาณิชย์และเรือรบจำนวนกว่า 20,000 ลำ ในส่วนตลาดเรือนอกชายฝั่งเชิงพาณิชย์และเชิงการทหาร และตลาดเรือดำน้ำ ธุรกิจการเดินเรือของโรลส์-รอยส์ โรลส์-รอยส์มีพนักงานกว่า 7,000 พันคน ที่ปฏิบัติงานอยู่ใน 34 ประเทศทั่วโลก และเกือบร้อยละ 40 ของยอดขายมาจากการให้บริการหลังการขาย ด้วยเครือข่ายลูกค้าทั่วโลกทั้งด้านการขายและการบริการใน 33 ประเทศ
3. ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มบริษัทโรลส์-รอยซ์กับบริษัทมูบาดาลาเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ผ่านการลงนามความร่วมมือในการสำรวจโอกาสต่างๆ ที่อาจะเป็นประโยชน์ร่วมของทั้งฝ่ายในแถบตะวันออกกลาง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างโรลส์-รอยซ์และอาบูดาบีได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อน เมื่ออาบูดาบีได้ใช้เทคโนโลยีแก็สเทอร์ไบน์ Avon ในการสูบน้ำมันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 นอกจากนี้เครื่องยนต์แอโรแก็สเทอร์ไบน์ของโรลส์-รอยซ์ได้ปฏิบัติงานอยู่ในบริษัทอาบูดาบีแอร์คราฟต์เทคโนโลยี (ADAT) มามากกว่า 20 ปี
4. ด้านธุรกิจพลังงาน โครงการท่อส่งแก็สดอลฟิน (Dolphin gas-pipeline project) ซึ่งบริษัท มูบาดาลา มีหุ้นอยู่ร้อยละ 5 ได้เปิดตัวเครื่องยนต์แก็สเทอร์ไบน์เทรนท์สำหรับอุตสาหกรรม เครื่องยนต์เหล่านี้มีต้นแบบมาจากเครื่องยนต์อากาศยานตระกูลเทรนท์ ซึ่งมีกำลังสูบแก็สถึง 2 พันล้านคิวบิกฟุตต่อวัน ผ่านทางท่อส่งแก็สจากประเทศกาตาร์ถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีระยะทางถึง 370 กิโลเมตร
5. โรลส์-รอยซ์มีเครื่องยนต์แก็สเทอร์ไบน์สำหรับอุตสาหกรรมอยู่ถึง 400 เครื่อง และเครื่องยนต์ทางการทหารกว่า 1,000 เครื่อง ที่ปฏิบัติการอยู่ในภูมิภาค โรลส์-รอยซ์มีบทบาทอยู่ในธุรกิจของตลาดการทหารทุกส่วน รวมถึงเครื่องยนต์ Adour ที่ใช้ขับเคลื่อนเครื่องฝึกบิน Hawk เครื่องยนต์ T65 ที่ใช้สำหรับอากาศยานลำเลียง C-130 และเครื่องยนต์สำหรับเฮลิคอปเตอร์หลากหลายรุ่น
6. นอกจากนี้ โรลส์-รอยซ์ยังมีส่วนร่วมในพันธกิจมาสดา (Masda vision) เพื่อยกระดับอาบูดาบี ให้เป็นศูนย์การค้นคว้าวิจัยและพัฒนาระดับโลก พันธกิจมาสดาได้รับการบริหารโดยบริษัทพลังงานเพื่ออนาคตอาบูดาบี (Abu Dhabi Future Energy Company) ซึ่งเป็นองค์กรรัฐบาล ที่บริษัทมูบาดาลา ดิเวลลอปเมนต์ เป็นเจ้าของ
7. อ่าวอะราเบียประกอบด้วยประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน กาตาร์ บาห์เรน คูเวต และซาอุดิอาระเบีย
เกี่ยวกับเอดีเอสบี About ADSB1. อาบูดาบี ชิพ บิวล์ดิ้ง บริษัทรวมหุ้นมหาชนแห่งหนึ่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2539 และดำเนินการในการเป็นอู่ต่อเรือทางการทหารที่ทันสมัยที่สุดในอ่าวอะราเบีย เอดีเอสบีเป็นอู่ต่อเรือเพียงแห่งเดียวในภูมิภาคที่สามารถต่อเรือ ประกอบเรือใหม่ ซ่อมบำรุง และปรับปรุงเรือรบราชนาวีที่มีความซับซ้อน
2. บริษัทเอดีเอสบีประสบความสำเร็จในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องให้แก่นาวิกโยธิน หน่วยรักษาการณ์ชายฝั่ง หน่วยงานการทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทหาร และผู้ประกอบการเรือเดินสมุทรเพื่อการพาณิชย์ต่างๆ ทั่วทั้งประเทศในกลุ่มความร่วมมืออ่าวอะราเบีย
3. เอดีเอสบีอยู่ในตลาดหุ้น Abu Dhabi Securities Exchange (ADX) โดยมีบริษัทมูบาดาลาเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 40 รัฐบาลอาบูดาบีถือหุ้นร้อยละ 10 และผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกหลายพันคนถือหุ้นอีกร้อยละ 50 ที่เหลือ
เกี่ยวกับวอเตอร์เจ็ต
1. โรลส์-รอยซ์เป็นผู้นำในการค้นคว้าวิจัย พัฒนา และผลิตเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตเพื่อตลาดการพาณิชย์ การกลาโหม และการท่องเที่ยว โรลส์-รอยซ์ยังเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์รายเดียวในอุตสาหกรรมนี้ โดยมีศูนย์ค้นคว้าด้านไฮโดรไดนามิกที่มีอุปกรณ์ครบครัน
เครื่องยนต์ในตระกูล Kamewa FF สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุปกรณ์ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กของเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ต ทั้งในด้านสมรรถนะ ความประหยัด และความแน่นอนในการปฏิบัติงาน เครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตรุ่น Kamewa FF-series มีพลังขับเคลื่อนอยู่ระหว่าง 100-2,300 กิโลวัตส์ ต่อชั่วโมง (kW) อุปกรณ์เรือที่เป็นแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์รวมถึงเรือกลาโหม เรือค้นหาและกู้ภัย เรือนำร่อง เรือปฏิบัติการ และเรือท่องเที่ยว 3. ในปี พ.ศ. 2550 บริษัท เวเนเชี่ยน มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิสเซส จำกัด ได้สั่งซื้อเรือเร็วแคททามารันจำนวน 10 ลำ เพื่อให้บริการในลักษณะเรือโดยสารแบบหรูหราจากฮ่องกงไปยังท่า Pac On ที่มาเก๊า เรือโดยสารเหล่านั้นออกแบบโดย Austal และมีชื่อว่าฝูงเรือโคไต สตริพ วอเตอร์เจ็ต เพื่อให้เรือแคททามารันขนาด 47.5 เมตร และมีความเร็ว 42 น๊อต ให้บริการได้อย่างรวดเร็ว เรือแต่ละลำมีเครื่องยนต์หลักถึง 4 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องมีพลังขับเคลื่อนถึง 2,320 กิโลวัตส์ นอกจากนั้นยังมีมอเตอร์ขนาดเล็ก (gearbox) ติอยู่กับเครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ตรุ่น Kamewa 63 SII waterjets ของโรลส์-รอยซ์ทั้ง 4 เครื่อง นอกจากเรือทั้ง 10 ลำของเวเนเชี่ยน เมื่อเร็วๆ นี้ Austal ยังชนะสัญญาในการสร้างเรือคาทามารันขนาด 47.5 เมตร สำหรับ New World First Ferry Services (มาเก๊า) เพื่อให้บริการระหว่างมาเก๊าและจิมซาจุ่ยในฮ่องกง เมื่อเรือเหล่านี้พร้อมปฏิบัติการในปี พ.ศ. 2551 เรือทั้งหมดจะสามารถขนส่งผู้โดยสารถึง 418 คน ด้วยความเร็วมากกว่า 42 น๊อต เครื่องยนต์วอเตอร์เจ็ต Kamewa 63 SII ทั้ง 4 ลำจะติดตั้งอยู่ในเรือหนึ่งลำ ซึ่งแต่ละลำขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ดีเซลในตัว เพื่อให้ได้พลังขับเคลื่อนรวมถึง 9,280 กิโลวัตส์ต่อชั่วโมง
รูปและสื่อประกอบ
สำหรับข้อมูลภาพถ่าย สามารถดาวน์โหลดได้จาก www.rolls-royce.com/media/gallery/default.jsp สำหรับข้อมูลในรูปแบบไฟล์วิดิทัศน์ สามารถรับชมได้จาก www.thenewsmarket.com/rollsroyce ทั้งนี้ ผู้ใช้งานครั้งแรก กรุณาลงทะเบียน และหากมีข้อสงสัยประการใด กรุณาติดต่อ journalisthelp@thenewsmarket.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ธรณ ชัชวาลวงศ์ หรือ สรัณศรี ประวัติพัฒนากูล
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 118, 208
โทรสาร: 0-2627-3545
Email: tchatchavalvong@th.hillandknowlton.com, sprawatpattanakul@th.hillandknowlton.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ