กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พร้อมเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยประสานให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วน เน้นการสนับสนุนด้านปัจจัยสี่เป็นลำดับแรก เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยใช้งบประมาณในอำนาจผู้ว่าฯ ๕๐ ล้านบาทตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๑ ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้ติดตามสถานการณ์และประสานการดำเนินงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานไปยังจังหวัดที่ประสบอุทกภัยให้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเฉพาะการสนับสนุนด้านปัจจัยสี่ (อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค) แก่ผู้ประสบภัยเป็นลำดับแรก และให้จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) เพื่อสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน โดยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้ยึดระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๙ และหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นหลักในการดำเนินการ โดยมุ่งที่จะบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัย โดยให้แต่ละจังหวัดพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ในอำนาจอนุมัติของผู้ว่าฯ จำนวน ๕๐ ล้านบาท หากสถานการณ์อุทกภัยรุนแรง มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอขยายวงเงินทดรองราชการตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลัง มายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นอกจากนี้ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างเร่งด่วนแล้ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการดังนี้ กระทรวงคมนาคม เร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ชำรุดเสียหายให้ใช้การได้โดยเร็วที่สุด รวมถึงบูรณาการ ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลและฟื้นฟูผู้ประสบภัยด้านสาธารณสุข สำหรับการช่วยเหลือด้านการเกษตร ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ประสานเกษตร ประมง และปศุสัตว์จังหวัด เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยโดยเร็ว ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม สำหรับจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ได้กำชับให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ อย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
นายอนุชา กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นพิเศษ โดยในวันนี้(๑๗ ก.ย.๕๑) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร และ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และในวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๑ ได้กำหนดเดินทางตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อ.บ้านนา จ.นครนายก และ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สุดท้ายนี้ หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง ๑๘ เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั้ง ๗๕ จังหวัด และสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ปภ.
สายด่วน 1784
โทร 0-2243-0674
public2007@hotmail.com
www.disasten.go.th