กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ ๑๖ จังหวัด ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๗ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ๙ จังหวัด มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ประมาณ ๒๘,๕๖๖,๙๗๑ บาท แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน ๑ — ๒ สัปดาห์นี้
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในทุกภาคของประเทศ โดยขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยรวม ๑๖ จังหวัด ๖๕อำเภอ ๒๘๘ ตำบล ๑,๘๒๕ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๕ ราย ราษฎรเดือดร้อน ๘๘,๙๓๗ครัวเรือน ๓๑๘,๓๕๕ คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง ๘ หลัง เสียหายบางส่วน ๑,๓๘๗ หลัง สะพาน ๑๖ แห่ง ถนน ๑๖๒ สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น ๒๘,๕๖๖,๙๗๑ บาท ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว ๗ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน ๙ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี ฉะเชิงเทรา เลย พิจิตร ตราด จันทบุรี และขอนแก่น ดังนี้ พิษณุโลก มีน้ำท่วมขังใน ๓ อำเภอ ๑๑ ตำบล ๕๙ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองพิษณุโลก วังทอง และเนินมะปราง ลพบุรี มีน้ำท่วมในพื้นที่๕ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี โคกสำโรง ชัยบาดาล หนองม่วง บ้านหมี่ สระบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากใน ๕อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอแก่งคอย หมวกเหล็ก หนองแค เฉลิมพระเกียรติ ฉะเชิงเทรา ได้เกิดฝนตกหนักและน้ำจากอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ๔ อำเภอ ได้แก่ อำเภอสนามชัยเขต แปลงยาว บ้านโพธิ์ และพนมสารคาม เลย น้ำจากแม่น้ำเลยและลำน้ำสาขาชีเอ่อเข้าท่วม ๔ อำเภอ ๒๕ ตำบล ๒๑๒หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองเลย เอราวัณ ภูกระดึงและวังสะพุง ขณะนี้ยังคงน้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอเมืองเลย พิจิตร น้ำจากเขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์ไหลลงสู่คลองวังแดง เข้าท่วมพื้นที่๙ อำเภอ ๒๙ ตำบล ๑๓๐ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองพิจิตร ดงเจริญ ทับค้อ สากเหล็ก ตะพานหิน บางมูลมาก โ พทะเล โพธิ์ประทับช้าง และวังทรายพูน ตราด เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ ๒ อำเภอ ๖ ตำบล ๑๑ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเขาสมิง และแหลมงอบ จันทบุรี เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน
พื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรของอำเภอขลุง ๕ ตำบล ๑๒ หมู่บ้าน ขอนแก่น เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์อุทกภัย โดยรวมของประเทศ คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน ๑ — ๒ สัปดาห์นี้ สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สั่งกำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประสานความร่วมมือกับจังหวัดที่ประสบภัย จัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในด้านของการจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ การนำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัยโดยมุ่งบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าเป็นอันดับแรก นอกจากนี้เพื่อเตรียมรับมืออันตรายจากภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในระยะนี้ ปภ. ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยตลอด ๒๔ ชั่วโมง และประสานติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศ ปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ การขึ้นลงของระดับน้ำ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์การเกิดสถานการณ์อุทกภัย พร้อมแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยในทันที ตลอดจนได้ประสานให้จังหวัดระดมกำลังสมาชิก อปพร. ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล อาสาสมัครแจ้งเตือนดินถล่ม (มิสเตอร์เตือนภัย) เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด สุดท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทั้ง ๗๕ จังหวัดศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง ๑๘ เขต กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือทางสายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทร. 022432200