กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศ “เครดิตพินิจ” (CreditAlert) แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย?อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการที่ธนาคารมีภาระผูกพันที่อาจเกิดขึ้นจากการทำสัญญาแลกเปลี่ยน (Swap) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยของบัตรเงินฝากแบบดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Certificate of Deposit: -- FRCD) ตลอดจนปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตามประมาณการ และปัญหาการปรับเปลี่ยนบุคลากรและโครงสร้างองค์กรซึ่งน่าจะมีผลกระทบต่อผลประกอบการและฐานะเงินกองทุนของธนาคารต่อไปอีกในอนาคต นอกจากนี้คุณภาพสินทรัพย์ที่ถดถอยลงภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย และการที่ธนาคารมีฐานเงินทุนที่อ่อนแอน่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้เสียและการขยายตัวของสินทรัพย์ต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ธนาคารมีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 1,065 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 และ 1,351 ล้านบาทสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2551 นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 45% ณ สิ้นปี 2550 และเพิ่มขึ้นเป็น 50% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติการเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านบาทสำหรับปีงบประมาณ 2552 ให้แก่ ธพว. แล้ว
ทริสเรทติ้งกล่าวว่าอันดับเครดิตองค์กรของ ธพว. ในปัจจุบันอยู่ในระดับ “AA-” ซึ่งขณะนี้อยู?ในระหว่างขั้นตอนที่ทริสเรทติ้งกำลังทำการทบทวนอันดับเครดิตประจำปี และกำลังประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการทำสัญญาแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยของบัตรเงินฝากแบบดอกเบี้ยลอยตัวดังกล่าว โดยจะประกาศผลการทบทวนอันดับเครดิตของ ธพว. ให้สาธารณชนทราบต่อไป
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย?อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) (SME Bank)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
แนวโน้มเครดิตพินิจ: Negative