กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ผู้กำกับชาวอังกฤษคนนี้ได้สร้างภาพยนตร์อนิเมชั่น เรื่อง Monster House ปี 2006 โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับบ้านผีสิง ที่คอยเขมือบผู้มาเยือนที่โชคร้าย แต่ใน City of Ember หนังเรื่องใหม่ของเขา คีแนน ได้ขยายอาณาเขตของบรรยากาศที่น่าอึดอัดให้ครอบคลุมไปทั่วทั้งตัวเมือง ซึ่งกำลังเริ่มที่จะพังทลายลงอย่างช้าๆ และก็ทำให้ผู้คนในเมืองต้องคิดหาทางเอาตัวรอดออกมา
City of Ember ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนชื่อดังของ ณาน ดูโปรร์ (Jeanne Duprau) ที่เป็นเรื่องราวของเมืองแห่งหนึ่งในช่วงหลังเกิดความหายนะ ซึ่งกำลังประสบปัญหา เมื่อทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า อาหาร และการมองโลกในแง่ดี จะดูเหมือนจลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ City of Ember มีการนำเสนอไอเดียที่ถือกำเนิดมาสำหรับโลกภาพยนตร์โดยเฉพาะ มันเปรียบได้กับภาพยนตร์เรื่อง Great Escape ที่อยู่ในโลก Dystopia เลยทีเดียว
City of Ember คือเมืองที่อยู่ใต้ผืนโลกมายาวนานกว่า 200 ปี ในนครแห่งนี้เวลาที่ใช้บอกกลางวันและกลางคืนถูกกำหนดโดยแสงจากหลอดไฟ ที่ส่องแสงมั่นคงยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้นครแห่งนี้เกิดมาพร้อมกับคำทำนายที่ว่า เมื่อใดที่แสงไฟในเมืองเริ่มกระพริบหายนะจะบังเกิด มีเพียงของสิ่งเดียวที่จะช่วยชีวิตชาวเมืองได้นั้นคือเหล่าผู้กล้าจะต้องออกตามหากล่องแห่งคำทำนายที่ภายในบรรจุ รหัสแผนที่แห่งเมืองเอ็มเบอร์ที่จะพาพวกเขาออกไปสู่ประตูแห่งแสงสว่างที่จะนำมาซึ่งอิสรภาพ
"ความท้าทายที่สุดในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้คือ การนำปริศนาที่เป็นตัวอักษรมาทำให้เป็นภาพเคลื่อนไหว และการหาทางที่ทำให้ปริศนานั้นเป็นเหมือนหนึ่งในองค์ประกอบของตัวเมือง" โดยผู้กำกับวัย 31 ปี ได้พูดถึงเอาไว้ หลังจากที่เขาเพิ่งทำการตัดต่อหนังเสร็จ
ถึงแม้ว่า City of Ember จะเป็นนิยายแฟนตาซี แต่เราก็มีความรู้สึกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นจริงได้ในโลกปัจจุบัน และนั้นก็เป็นสิ่งทำให้ คีแนน และ ผู้ออกแบบงานสร้าง มาร์ติน เหลียง (Martin Liang) ตัดสินใจทำให้เมืองดูทรุดโทรมในแบบที่คนดูคุ้นเคย โดยในงานออกแบบนั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานประติมากรรมของเยอรมันสมัยใหม่ บวกกับโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีของชุมชนในประเทศอเมริกา
คีแนน ได้พูดถึงแรงบันดาลใจของเขาว่า "ผมอยากจะสร้างเมือง แอมเบอร์ ให้สอดคล้องกับโลกในยุคปัจจุบันนี้ให้มากที่สุด ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ามีเมือง แอมเบอร์ จริงๆอยู่ใต้เท้าของเรา" และเพื่อที่จะบรรลุนิมิตรของ คีแนน ให้ได้นั้น ทีมงานของ คีแนน ก็ได้ไปสร้างฉากของพวกเขาที่อู่ต่อเรือในไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งก็ใช้เวลานานกว่าห้าเดือนในการสร้างเมืองอย่างเต็มรูปแบบ
ในขณะที่เมืองในอนาคตของเรื่องอื่นๆ อาจจะมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนและหุ่นที่สามารถทำได้ทุกอย่าง แต่เมือง แอมเบอร์ ของ คีแนน ดูเหมือนกับเมืองที่กำลังพังทลายดังเช่น ฮาวานา และหุ่นที่อยู่ในเมืองก็ถูกวางไว้ข้างถนนเสมือนกับของเล่นที่พังแล้ว "ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในเมืองนี้ มันเลยวันหมดอายุไปนานแล้ว" คีแนน ได้สรุปถึงสภาพตัวเมืองของเขา
คีแนน ยังต้องการทำให้แน่ใจว่าเมือง แอมเบอร์ เปรียบเสมือนตัวละครอีกตัวหนึ่งในเรื่อง โดยระบบท่อน้ำที่อยู่ใต้เมือง ก็ถูกออกแบบฝห้มีพฤติกรรมเหมือนมนุษย์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยในเรื่องคนดูก็จะสามารถได้ยินเสียงสูบฉีดเหมือนกับเสียงหัวใจเต้นชองมนุษย์เลยทีเดียว "เมื่อมีคนที่เอ่ยออกมาว่าเมืองกำลังจะตาย ผมอยากให้มันมีความรู้สึกว่าเมืองนี้กำลังจะตายจริงๆ"
คีแนน ได้กล่าวสรุปถึงเมืองที่เขาจินตนาการขึ้นมาว่า "ไอเดียที่ให้เมืองเป็นศูนย์กลางของเรื่อง และเป็นที่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการให้กำเนิดของมวลมนุษย์อีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นเมืองที่สามารถพรากชีวิตของคนที่ถือกำเนิดขึ้นมาได้ นี้เป็นไอเดียที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างเป็นภาพยนตร์จริงๆ”
เตรียมพบกันจินตนาการสุดล้ำ ที่จะมากระตุ้นความเป็นเด็กที่ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกคน วันที่ 16 ตุลาคม นี้ ทุกโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณ